แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2567 ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากแรงส่งสำคัญภาคการท่องเที่ยว ช่วยสนับสนุนการบริโภคภาคเอกชนให้ขยายตัวดี ส่งผลให้ธุรกิจทุกกลุ่มของ OR ไตรมาสแรกปีนี้ ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสแรก ปี 2567 บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR มีกำไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนกว่า 100% โดยคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.31 บาท
ส่วน EBITDA ในไตรมาสแรกอยู่ที่ 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,650 ล้านบาท หรือกว่า 100% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2566 โดยเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจ Mobility จากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Global ที่กำไรขั้นต้นเฉลี่ยต่อลิตรฟื้นตัวในประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้นทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกอื่น และภาพรวมของค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิลดลง
ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ธุรกิจ Lifestyle ของ OR มีเครือข่ายธุรกิจค้าปลีกอาหารและเครื่องดื่มรวม 4,447 สาขา โดยมีร้าน Café Amazon รวม 4,221 สาขา ทั้งไทยและต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 272 สาขา เทียบไตรมาสแรกปีก่อน ทำยอดขายได้ 99 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 8.8%
คุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่าไตรมาส 1 ที่ผ่านมา OR เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง เดินหน้ารุกธุรกิจสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และจะเปิดตัวร้านสาขาแรกในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ OR ยังมุ่งมั่นในการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจสู่การเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ของ OR ครอบคลุมทั้งในกลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2030 และ Net Zero ปี 2050 ไม่ว่าจะเป็นการบุกเบิกด้านพลังงานแห่งอนาคตเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านของการใช้พลังงาน การพัฒนาแพลตฟอร์มแห่งอนาคต เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านทางพลังงานและการใช้ชีวิตที่หลากหลาย และการผลักดันให้ห่วงโซ่คุณค่าของธุรกิจสู่ความเป็น Green ตลอดทั้งระบบนิเวศของ OR
OR ยังได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ “AA+” จากทริสเรทติ้ง (TRIS) ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิตคงที่ (Stable) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนความสำเร็จด้วยผลการดำเนินงานที่โดดเด่น และฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งอีกด้วย
ปีนี้บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน “โอ้กะจู๋” ซึ่ง OR เป็นผู้ถือหุ้น 20% ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือขี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) แสดงให้เห็นถึงการเติบโตและความสำเร็จของพันธมิตรทางธุรกิจของ OR โดยใช้ศักยภาพที่ OR มีร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพในการสร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ OR “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” (Empowering All toward Inclusive Growth)
ล่าสุด OR ได้นำระบบ SAP S/4HANA เข้ามาส่งเสริมศักยภาพการทำงานทั้งภายในองค์กรและพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน และได้เริ่มใช้งานอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับ Digital Transformation Journey ของ OR ที่ช่วยขับเคลื่อนการทำธุรกิจขององค์กรด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) ถือเป็นสร้างประวัติศาสตร์ในการนำนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของ SAP ที่รวมฟังก์ชันในการบริหารจัดการธุรกิจพลังงานและค้าปลีกไว้ด้วยกันเข้ามาใช้เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน รองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน