จากวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจของ “บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)” หรือ “OR” ที่มุ่งสร้างธุรกิจให้เติบโต ไปพร้อมกับการเติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน ทั้งผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการนำ OR SDG มาเป็นหลักในการทำงาน ประกอบกับทุกวันนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างมาก ที่ผ่านมาเราจึงเห็น OR นำโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาใช้ในการขับเคลื่อนการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำผ่านโครงการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมให้ได้มากที่สุด และล่าสุด OR ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เพื่อส่งเสริม และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรในการปลูกกาแฟให้มีคุณภาพและเติบโตอย่างยั่งยืน
สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ คุณดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) บอกว่า OR จะเข้าไปช่วยส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรในการปลูกกาแฟและผลิตกาแฟให้มีคุณภาพ โดยร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะเกษตรกรในพื้นที่ คทช. ต้นแบบ โดย สคทช. เป็นองค์กรที่มีภารกิจสำคัญในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเร่งรัดขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกิน ให้ชุมชน เพื่อให้ประชาชนได้มีสิทธิทำกินและอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นผู้คัดเลือกพื้นที่ดำเนินการที่มีความเหมาะสมมาเข้าร่วมโครงการ
โดยจะเริ่มนำร่องจากพื้นที่ คทช. ในจังหวัดเชียงใหม่ และขยายผลสู่พื้นที่ คทช. ทั่วประเทศ ตามความเหมาะสมกับบริบทและความต้องการของประชาชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟให้มีรายได้และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าผืนดิน คทช. โดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ OR ยังสนับสนุนด้านการตลาด โดยจะรับซื้อผลผลิตกาแฟที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) ด้วยระบบราคาที่เป็นธรรม (Fair Trade) จากเกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมสนับสนุนการปลูกกาแฟของโครงการ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของ OR ที่มุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสและสร้างคุณค่าแก่ผู้คนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตลอดห่วงโซ่การดำเนินธุรกิจ
ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน ทั้งผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อมของ OR ซึ่งนอกจากจะตอกย้ำถึงความใส่ใจในสังคม และสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยให้ OR เข้าใกล้เป้าหมายการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในปี 2030 (OR 2030 Goals) อีกด้วย