ถึงแม้ว่าจะเปิดเผยงบประมาณของการเป็น Title Sponsor การแข่งขัน Mitsubishi Electric ASEAN Cup ไม่ได้ แต่ด้วยพฤติกรรมของคนอาเซียนที่มี “ฟุตบอล” เป็นกีฬาอันดับ 1 ในภูมิภาค จนทำให้ในการแข่งขันในปี 2022 ทัวร์นาเมนต์กีฬาที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ มีผู้ชม 423 ล้านคน บนโทรทัศน์และแพล็ตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ และมีผู้ชม 480,000 รายในสนาม นั่นก็บ่งบอกได้ว่า เม็ดเงินที่ Mitsubishi Electric ทุ่มให้กับกิจกรรม Sport Marketing ครั้งนี้ไม่น้อย
“อาเซียน” จุดมุ่งหมายสำคัญของ Mitsubishi Electric
จากที่เริ่มต้นเป็นสปอนเซอร์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2020 ต่อมาเมื่อผู้สนับสนุนรายเดิมโบกมือลา Mitsubishi Electric จึงก้าวเข้ามาเป็น Title Sponsor อย่างเป็นทางการในปี 2022 และต่อเนื่องมาถึงปี 2024 ในระบบที่การแข่งขันฟุตบอลระดับภูมิภาคนี้จะจัดขึ้น 2 ปีครั้งในระบบ เหย้า-เยือน ผลตอบรับที่ดีหลังจากการทำกิจกรรมการตลาดผ่านการแข่งขันนี้ก็ถูกสะท้อนออกมา เมื่อข้อมูลจากทาง Mitsubishi Electric ระบุว่า Brand Awareness เพิ่มขึ้น 80% ในทุกประเทศ ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีมากจากอิเวนต์ใหญ่นี้ รวมทั้งพนักงานของบริษัทก็ภูมิใจที่มีส่วนร่วม
คุณทาคาโตะ อาเบะ ผู้บริหารและผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายโฆษณาองค์กร อธิบายถึงการสนับสนุนนี้ว่า “อิเวนต์นี้ถือว่าเป็น Corporate Branding แคมเปญ สำหรับเรา อาเซียน เป็นภูมิภาคที่เราให้ความสำคัญ ประเทศที่ประชากรเป็นหนุ่มสาว อย่างเวียดนาม ประชากรโดยเฉลี่ยมีอายุ 31 ปี นั่นจึงเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับเราทั้งในตอนนี้และอนาคต แล้วประชากรอาเซียนก็รักฟุตบอลมากๆ มากกว่าที่เราคาดไว้”
คุณทาคาโตะ อาเบะ ผู้บริหารและผู้จัดการทั่วไปอาวุโส ฝ่ายโฆษณาองค์กร
ประกอบกับผลประกอบการของ Mitsubishi Electric ในเดือนเมษายน 2023 ระบุว่า รายได้รวมของบริษัทอยู่ที่ 5,000.6 พันล้านเยน เป็นรายได้จากภูมิภาคเอเชียไม่นับญี่ปุ่นและจีน ถึง 1,14.9 พันล้านเยน เรียกได้ว่า 1 ใน 5 ของรายได้รวมเลยทีเดียว
ด้าน คุณคุนิฮิโกะ เซกิ Corporate Executive, Chief Representative Asia Pacific Region กล่าวเสริมว่า เขามาทำงานที่เวียดนามระหว่างปี 2011-2014 พบว่าคนเวียดนาม ขี่มอเตอร์ไซค์ทั่วเมืองโฮจิมินห์ฉลองผลการแข่งขันตลอดคืนที่ทีมชาติชนะ เขาจึงรู้ดีว่า “ฟุตบอล” มีความสำคัญกับผู้คนในภูมิภาคนี้ นั่นจึงเป็นที่มาของการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันรายการนี้ และถึงแม้จะเปิดเผยงบประมาณไม่ได้ แต่ Mitsubishi Electric ASEAN Cup ก็คือรายการกีฬาที่มีมูลค่าสูงสุดที่ทางมิตซูบิชิ สนับสนุนในระดับ Title Sponsor รองจากรายการ Mitsubishi Electric Championship at Hualalai รายการแข่งขันกอล์ฟ ระดับ PGA Tour ในสหรัฐอเมริกา เท่านั้น ขณะที่กีฬาชนิดอื่น เช่น อเมริกันฟุตบอล และแบดมินตัน มีการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรในบางทัวร์นาเมนต์
คุณคุนิฮิโกะ เซกิ Corporate Executive, Chief Representative Asia Pacific Region
กิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์คู่ค้า – สังคม
ถ้าหากว่าการสร้างแบรนด์ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ แล้วทางด้าน “ยอดขาย” ละเป็นอย่างไร …. ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ปัจจุบัน Mitsubishi Electric แบ่งกลุ่มธุรกกิจต่างๆ เป็น 10 ธุรกิจ โดยมีรายได้จากธุรกิจในรูปแบบ B2B ราว 80% ไม่ว่าจะเป็น ระบบเครื่องปรับอากาศ รักษาความปลอดภัย ลิฟท์และบันไดเลื่อน ของหลายๆ อาคาร ไปจนถึงระบบออโตเมชันในโรงงาน ขณะที่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผู้บริโภคทั่วไปพบเห็นและคุ้นเคยเป็นอย่างดี มีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 20%
นั่นทำให้ Mitsubishi Electric อาศัยกิจกรรมการแข่งขันฟุตบอล ASEAN Mitsubishi Electric Cup เป็นสะพานเชื่อมโยง เชิญคู่ค้าเข้ามาร่วมรับชมเกมการแข่งขันแล้วให้การต้อนรับพูดคุยสร้างความสัมพันธ์ผ่านการต้อนรับที่ดี ในส่วนของผู้บริโภคระดับแมส ก็ใช้ Digital Marketing เพื่อเข้าถึงผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมในช่วงเวลาการแข่งขัน การทำกิจกรรมการตลาดเพื่อชิงรางวัลตั๋วเข้าชม
ที่ขาดไม่ได้ก็คือกิจกรรมที่ช่วยเหลือสังคม Mitsubishi Electric วางแผน จัดฟุตบอลคลินิกนำเอาเยาวชนและพนักงานของบริษัทเข้าร่วมเรียนพื้นฐานการเล่นฟุตบอลที่ถูกต้องกับนักฟุตบอลระดับตำนานของประเทศ โดยกิจกรรมนี้จะถูกจัดขึ้นใน 6 ประเทศ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เริ่มที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรกในเดือนกันยายน
Changes for the Better วิสัยทัศน์ 100 ปี
คุณทาคาโตะ อาเบะ อธิบายว่า “กีฬาเป็นกิจกรรมที่เข้าใจง่าย เข้าถึงง่าย และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” สอดคล้องกับ Brand Purpose ของ Mitsubishi Electric ซึ่งถูกตั้งเป้าหมายเนื่องในโอกาสที่บริษัทครบรอบ 100 ปี ใน 2021 เพื่อทำให้พนักงาน 150,000 คน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ภายใต้แนวคิด “Changes for the Better” ทำให้ระดับสังคม เมือง ประเทศ และโลกมีความสุขมากขึ้น
เมื่อถามว่าแล้วทาง Mitsubishi Electric ตั้งเป้าหมายจะสนับสนุนการแข่งงขันฟุตบอลรายการนี้อีกหรือไม่ ในครั้งถัดๆ ไป คุณคุนิฮิโกะ เซกิ อธิบายว่า”เรามีพนักงานกว่า 20,000 คนในอาเซียน สำหรับประเทศไทยเราก็มีโรงงานหลายแห่ง ขณะที่เวียดนามก็มีประชากรราว 100 ล้านคน การทำตลาดนอกประเทศญี่ปุ่นถือว่ามีความท้าทายอย่างมาก ขณะที่ยุโรป พฤติกรรมผู้บริโภคอาจจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ในอาเซียนมีความแตกต่างทางวัฒนธรรมอย่างมาก ขณะเดียวกันธุรกิจของเราเป็น B2B ทำให้บางครั้งก็เข้าใจได้ยากสำหรับผู้บริโภค ทั้งๆ ที่อาเซียนเป็นตลาดที่มีโอกาสและศักยภาพสูงสำหรับเราไม่ว่าจะเป็น Data Center ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในภูมิภาคนี้ หรือสมาร์ทซิตี้ ที่ช่วยทำให้ระบบต่างๆ ในอาคารใช้ทรัพยากรน้อยลง”
“กิจกรรมหลายอย่างที่ทำ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนเข้าใจเรามากขึ้น ต้องใช้เวลา อาจจะต้องทำ 4-5 ครั้ง รวมทั้งการสื่อสารก็สำคัญกับเรามาก เรามีสินค้าที่ดีอยู่แล้ว แต่การทำให้เป็นที่รู้จักและน่าเชื่อถือก็เป็นสิ่งจำเป็น”