HomeBrand Move !!BYD รุกหนักทุกเซกเมนต์ ส่ง “รถตู้-เอสยูวี-เอ็มพีวี-อีโค คาร์” ใหม่ บุกตลาดรถ EV เสริมพอร์ต ขยายฐานธุรกิจ

BYD รุกหนักทุกเซกเมนต์ ส่ง “รถตู้-เอสยูวี-เอ็มพีวี-อีโค คาร์” ใหม่ บุกตลาดรถ EV เสริมพอร์ต ขยายฐานธุรกิจ

แชร์ :

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว แม้จะมีหลายแบรนด์เริ่มเข้ามาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในไทยกันมากขึ้น โดยหนึ่งในนั้นคือ บีวายดี (BYD) แต่เวลานั้นตลาดรถอีวีไทยยังใหม่ ประกอบกับภาพลักษณ์ของรถอีวีในความคิดผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาชาร์จนาน ในขณะที่จุดชาร์จก็ยังมีไม่มาก จึงส่งผลให้คนยังไม่กล้าใช้ โจทย์ใหญ่ตอนนั้นจึงเป็นเรื่องของการสร้างความเข้าใจ เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักและคุ้นเคยในการใช้รถอีวีมากขึ้น

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ผ่านมา 2 ปี วันนี้ผู้บริโภคมีความเข้าใจและมั่นใจในการใช้รถอีวีมากขึ้น รวมถึงหลายคนรู้จักแบรนด์ BYD กันเป็นอย่างดี แต่เมื่อการแข่งขันสูงขึ้น ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โจทย์ใหญ่ของ BYD จึงไม่ได้เป็นเรื่องของการสร้างความเข้าใจในการใช้งานเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างประสบการณ์ขับขี่ที่ดีเพื่อสร้างความผูกพันกับฐานลูกค้าเดิม ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าใหม่เข้ามาเสริมพอร์ตธุรกิจให้เติบโตมากขึ้น

2 ปี  ขึ้นแท่น เบอร์ 1 ตลาดอีวี

ชื่อของ BYD เป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1995 จากนั้นได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลก จนปัจจุบันครอบคลุม 6 ทวีป กว่า 70 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่เข้ามาบุกตลาดเมื่อปี 2022 โดย “บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด” ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนจำหน่ายและให้บริการหลังการขายแต่เพียงผู้เดียว โดยเริ่มวางขายรถยนต์ BYD ATTO 3 เป็นรุ่นแรก ปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดี มียอดจองกว่า 2,500 คัน จึงส่งรถอีก 2 รุ่น คือ BYD SEAL และ BYD DOLPHIN ทำตลาดต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอีวีได้สำเร็จ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 40%

คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่

สำหรับปัจจัยที่ผลักดันให้แบรนด์ BYD ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็วนั้น นอกจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ในราคาจับต้องได้แล้ว ยังมาจากการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การขับขี่ ผ่านการรับฟังเสียงของผู้บริโภคด้วย นั่นเพราะ คุณประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเรเว่ มองว่า ทุกเสียงของลูกค้าสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้บริษัทสามารถนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงใจผู้บริโภค และทำให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่ดี

ส่ง 4 รุ่นใหม่ รุกทุกเซกเมนต์

แม้ 2 ปีที่ผ่านมา BYD จะเติบโตต่อเนื่อง แต่ยังคงพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาตอบโจทย์การขับขี่ของผู้บริโภค ยิ่งในยุคที่มีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องปรับเกมการตลาดให้เข้มข้น โดย คุณวิศิษฐ์ พิทยะวิริยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด บอกว่า กลยุทธ์การรุกตลาดในครึ่งปีหลัง มีแผนจะนำรถอีวีรุ่นใหม่เข้ามาเติมเต็มเซกเมนต์ของ BYD ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น BYD SEALION 7 รถยนต์อเนกประสงค์ C-SUV SPORT COUPE ซึ่งเป็นหนึ่งใน Ocean Series ที่ตอบโจทย์การขับขี่ในทุกสถานการณ์ BYD SEAGULL รถยนต์ขนาดกะทัดรัดที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว พร้อมพื้นที่โดยสารภายในที่กว้างขวาง และ BYD M6 รถครอบครัว MPV อเนกประสงค์ที่ผสานความเรียบง่ายและทันสมัยไว้อย่างลงตัว

BYD SEAGULL รถยนต์อีวีขนาดเล็ก

 

BYD SEALION 7 รถยนต์อเนกประสงค์ C-SUV SPORT COUPE

ขณะเดียวกัน ยังเตรียมแตกแบรนด์ลูกอย่าง “DENZA” มาเจาะตลาดพรีเมียม ด้วยการส่ง DENZA D9 รถไฟฟ้าอเนกประสงค์ขนาดใหญ่สำหรับผู้บริหารยุคใหม่มาทำตลาด ซึ่งโดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีทันสมัยและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเบื้องต้น DENZA D9 จะเข้ามาทำตลาดปลายปีนี้ ส่วนอีก 3 รุ่น ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาอีกระยะเพื่อให้เข้ากับการใช้งานของผู้บริโภคชาวไทยมากขึ้น

DENZA D9 รถไฟฟ้าอเนกประสงค์ขนาดใหญ่สำหรับผู้บริหารยุคใหม่


ขยายโชว์รูมเพิ่ม
-จัดกิจกรรมดึงผู้บริโภคสัมผัสประสบการณ์ขับขี่

นอกจากการเติมเซกเมนต์รถอีวีเข้ามาเสริมทัพมากขึ้นแล้ว คุณวิศิษฐ์ บอกว่า ปีนี้ เรเว่ ออโตโมทีฟยังเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการเพิ่มอีก 50 แห่ง จากปัจจุบันมี 100 แห่ง รวมถึงสร้างคลังอะไหล่รถไฟฟ้าที่ครบครัน ด้วยพื้นที่ 18,000 ตารางเมตร ครอบคลุมอะไหล่รถไฟฟ้าทุกรุ่นกว่า 1 ล้านชิ้น ทั้งยังสร้างคอมมูนิตี้ผ่านกิจกรรม Social Club อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้บริโภคได้มาสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่รถไฟฟ้าที่สนุกและปลอดภัย แถมยังรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะสร้างความมั่นใจ และความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในระยะยาว

โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรม “BYD RÊVER SOCIAL CLUB” ทริป 2 วัน 1 คืนบนเส้นทางกรุงเทพฯ – ชลบุรี ให้สื่อมวลชนได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ BYD 3 รุ่น ที่รับหน้าที่เป็นยานพาหนะหลักในการเดินทางตลอดทริป ประกอบด้วย New BYD ATTO 3 รุ่นปี 2024 BYD SEAL และ BYD DOLPHIN ซึ่งทุกรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยี VtoL (Vehicle to Load) เพื่อการขับขี่ที่สนุก ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเปิดโอกาสให้ทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ไฟฟ้า 4 รุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยกับ BYD SEALION 7, BYD SEAGULL,  BYD M6 และ DENZA D9

การนำรถอีวีรุ่นใหม่เข้ามาเติมเต็มเซกเมนต์ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย บวกกับยูทธศาสตร์การทำตลาดที่เข้มข้นขึ้น จะช่วยผลักดันให้แบรนด์และยอดขายของ BYD เติบโตต่อเนื่องท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง โดยคุณวิศิษฐ์ เชื่อว่า การมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาในตลาดมากขึ้น ผู้บริโภคจะได้สัมผัสประสบการณ์ใช้งานรถอีวีกันมากขึ้น และทำให้ตลาดขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันตลาดรถอีวียังเล็กมาก มีสัดส่วน 10% ของตลาดรถยนต์รวมเท่านั้น โดยปีนี้คาดว่าตลาดยังเติบโต แม้สถานการณ์เศรษฐกิจจะซบเซา แต่ไม่กระทบตลาดอีวีมากนัก เพราะเป็นกลุ่ม Early Adoptor โดยผ่านมา 4 เดือน รถอีวีมีสัดส่วนอยู่ที่ 12% ของตลาดรถทั้งหมด


แชร์ :

You may also like