HomeBrand Move !!ส่องขุมกำลัง “เซ็นทรัล ภูเก็ต” เติมพื้นที่แบรนด์หรู Luxury Zone กว่า 30 แบรนด์ ยึดกำลังซื้อเบอร์ 1 แดนใต้ และเบอร์ 2 ของประเทศ

ส่องขุมกำลัง “เซ็นทรัล ภูเก็ต” เติมพื้นที่แบรนด์หรู Luxury Zone กว่า 30 แบรนด์ ยึดกำลังซื้อเบอร์ 1 แดนใต้ และเบอร์ 2 ของประเทศ

แชร์ :

“ภูเก็ต” หนึ่งในหัวเมืองหลักท่องเที่ยวของไทย ที่มีนักท่องเที่ยวหลักสิบล้านคนต่อปี ทำให้ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีกลุ่มทุนทั้งภาคอสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก ฯลฯ เข้าไปลงทุนมากมายตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้การเติบโตสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจเป็นอันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในปี 2566 “ภูเก็ต” สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดถึง 380,000 ล้านบาท และในปี 2567 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวที่ 450,000 ล้านบาท โดยสิ้นปีนี้ คาดมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตกว่า 12 ล้านคน เป็นรองเพียงกรุงเทพฯ การเติบโตด้านเศรษฐกิจดังกล่าวไม่เพียงแต่ส่งผลดีด้านการลงทุนภาคใหญ่เท่านั้น แต่ยังผลักดันการเติบโตของภาคค้าปลีกบริการ โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าระดับบนและแบรนด์หรูให้มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น

จนทำให้ “กลุ่มเซ็นทรัล” เริ่มหันมาขยายอาณาจักรในเมืองเศรษฐกิจท่องเที่ยวแห่งนี้มากขึ้น โดยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้ขยายศูนย์ค้าในเมืองภูเก็ตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ประกอบด้วย 4 ศูนย์การค้า 5 ห้างสรรพสินค้า 7 โรงแรม 3 คอนโดมิเนียม รวมถึงธุรกิจอื่นๆ ในกลุ่ม อาทิ  ซูเปอร์สปอร์ต, เพาเวอร์บาย, ไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, บีทูเอส, ออฟฟิศเมท, Tops Food Hall, Tops Market, Tops Daily, Tops Vita เป็นต้น

 

 

ที่น่าจับตาคือการขยายการศูนย์การค้า “เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า” ที่เป็นศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัลแห่งเดียวที่มีโซนลักชัวรี่นอกกรุงเทพฯ กับการขยายพื้นที่ Luxury Zone ใหม่ภายในศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม. โดยในสิ้นปีจะขยายเพิ่มเป็น 4,000 ตร.ม. ก่อนที่จะขยายพื้นที่เพิ่ม 4 เท่าหรือคิดเป็น 8,000 ตร.ม. ในปี 2026 เพื่อรองรับการเปิดตัวของอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ที่เราวางไว้หลายปีก่อนที่จะทำให้เซ็นทรัล ภูเก็ตเป็น The World’s Luxury Magnitude นั้น สอดคล้องกับการพัฒนาของเมือง และตอบรับแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐที่ต้องการพัฒนาให้ภูเก็ตเป็น “Top Destination for Global Jetsetter” ดึงดูดกำลังซื้อสูงทั่วโลก โดยเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ที่เป็น World-class luxury mall แห่งเดียวใจกลางภูเก็ตด้วยแบรนด์ลักซูรีระดับโลกมากมาย และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพจาก “Quantity to Quality spending”  ซึ่งเป็นนโยบายที่ทั้งภาครัฐ-เอกชนจะร่วมกันทำให้ภูเก็ต ไม่มีช่วงโลว์ซีซัน เที่ยวได้-จับจ่ายได้ตลอดทั้งปี”

 

ส่องศักยภาพเมือง “ภูเก็ต” ดินแดนที่มีกำลังซื้อเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ

จุดเริ่มต้นของการขยายอาณาจักรเข้ามายังภูเก็ตของ “เซ็นทรัลพัฒนา” เริ่มจาก “เซ็นทรัล ภูเก็ต”  ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2004 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีทั้งจากคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว จนเซ็นทรัลพัฒนาได้เห็นถึงศักยภาพของเมืองและกำลังซื้อมหาศาลในภูเก็ต จึงได้เปิดให้บริการ Central Phuket Floresta ขึ้นในปี 2018 เพื่อรองรับ Luxury Lifestyle เทียบชั้นเมืองชายทะเลระดับโลกอย่าง ริเวียร่า, ซานโตรินี, ไมอามี่บีช และฮาวาย แน่นอนจากแนวโน้มการเติบโตด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ “ภูเก็ต” ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

CPN MD

คุณวิไลพร ปิติมานะอารี (ซ้าย) และ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา(ขวา)

 

ขณะที่มูลค่าตลาดสินค้าลักชัวรี่กว่า 1.6 แสนล้านบาทของไทย และคาดว่าจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 5.62% จนถึงปี 2028 คาดว่าจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์ ที่ตอนนี้มีมูลค่าราว 1.4 แสนล้านบาท โดยพื้นที่ Luxury Zone ใหม่ภายในศูนย์การค้า เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้าแห่งนี้ จะเป็นการเพิ่มแบรนด์หรูใหม่ๆเข้าไปมากถึง 14 แบรนด์ ซึ่งจะทำให้มีแบรนด์หรูเพิ่มเป็น 30 แบรนด์

โดยแบรนด์หรูใหม่ที่เพิ่มเข้ามา ประกอบด้วย BALENCIAGA, BOTTEGA VENETA, BURBERRY, CHRISTIAN LOUBOUTIN, DIOR, GUCCI, HERMÈS, LOUIS VUITTON, OMEGA, PMT THE HOUR GLASS, SAINT LAURENT, VERSACE และ ZEGNA รวมถึง PRADA ที่เตรียมเปิดให้บริการในปีนี้  นอกจากนี้ยังมีหลายแบรนด์เตรียมขยายพื้นที่ร้านเกือบเท่าตัวภายในปลายปี 67 และจะมีแบรนด์ที่เตรียมจะเพิ่มขนาดร้านค้าให้ใหญ่กว่าเดิม และการขยายออกนอกกรุงเทพฯ ครั้งแรกของแบรนด์ Lifestyle เช่น COACH, KATE SPADE, KENZO, MICHAEL KORS, SAMSONITE, LUSH เป็นต้น 

 

 

การขยายพื้นที่ของ “เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า” จึงเป็นการเดินหน้าตามแผนการปักหมุดดินแดนลักชัวรี่แห่งใหม่ของเซ็นทรัลนี้ คาดว่าจะทำให้ทราฟฟิกภายในศูนย์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% (ตามอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยว) จากปัจจุบันที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า (ตั้งอยู่ตรงข้ามกันมีทางเชื่อม) มีทราฟฟิกรวมกันราว 80,000 คนต่อวัน และเพิ่มเป็นหลักแสนคนต่อวันในช่วงวันหยุด โดยแบ่งเป็นทราฟฟิกเฉพาะที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ราว 50,000 คนต่อวัน

 

 

คุณวิไลพร ปิติมานะอารี  ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มงานปฎิบัติการสาขาภูเก็ต บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  “ภูเก็ต ถือเป็น “บ้านหลังที่สอง” ของเศรษฐีชาวไทยและต่างชาติ หรือ Asia’s Richest Beach Residential ด้วย Infrastructure ที่พร้อมรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ทั้งแผนขยายสนามบินภูเก็ต เฟส 2 ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2572 มีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โรงพยาบาล โรงเรียนนานาชาติ ท่าเรือยอร์ช สนามกอล์ฟ และ Private Jet เป็นต้น  การลงทุนดังกล่าวจึงเพื่อรองรับการเติบโตของเมืองที่จะขยายในอนาคตโดยตรง”

โดยเซ็นทรัล ภูเก็ต จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มเมืองตอบโจทย์ของภาครัฐที่ต้องการส่งเสริม Sustainable Economy ให้ภูเก็ตเป็น Hub ระดับโลกในหลายมิติ อาทิ Culinary, Medical & Wellness, Sport Tourism, Education, Smart City, Marina และ MICE อีกด้วย

 

 

นอกจากการจับจ่ายและตัวเลขเศรษฐกิจของท้องถิ่นที่มีการเติบโต อีกหนึ่งปัจจัยหลักยังมาจากการดึงฐานข้อมูล The1 ชี้ให้เห็นว่าลูกค้าของเซ็นทรัล ภูเก็ต มียอดใช้จ่ายต่อคนสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาทั่วประเทศ  โดยลูกค้า Wealth Segment ที่เซ็นทรัล ภูเก็ต มีการใช้จ่ายสูงกว่าลูกค้า Wealth ของสาขาอื่นๆ ถึง 45% สะท้อนการเติบโตของตลาดสินค้าลักซูรีในไทยที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.6 แสนล้านบาท โดยตลาด Luxury ไทยขยายตัวถึง 5.62% จนถึงปี 2028 คาดว่าจะแซงหน้าตลาดสิงคโปร์

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE

 


แชร์ :

You may also like