หากพูดถึง “พัดลม” เชื่อว่าแบรนด์พัดลมสัญชาติไทยอย่าง “ฮาตาริ” (Hatari) คงเป็นชื่อที่หลายคนนึกถึง ซึ่งเป็นพัดลมที่ไม่ใช่แค่อยู่ใน Top of Mind ของผู้บริโภคชาวไทย แต่ยังอยู่ในตลาดมานานกว่า 34 ปีแล้ว ทั้งยังมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง และครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 80% ในตลาดพัดลมไทยปี 2566 ด้วยยอดขายถึง 7.5 ล้านยูนิต จากตลาดรวม 10 ล้านยูนิต แต่วันนี้ “ฮาตาริ” กำลัง Rebranding ครั้งใหญ่ เพื่อปรับให้แบรนด์ Modernize ต่อยอดไปสู่การเติบโตและทำให้แบรนด์อยู่ในการจดจำของผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมแบรนด์ฮาตาริที่แข็งแกร่งในตลาดพัดลม ต้องลุกขึ้นมารีแบรนด์ Brand Buffet พามาฟังวิธีของสองพี่น้องซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 อย่าง “คุณทัศน์ลักษณ์ พานิชตระกูล” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานการวิจัยและพัฒนา และ “คุณชัญญา พานิชตระกูล” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายและการตลาด บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด ที่เข้ามาเสริมทัพ พร้อมทั้งเจาะลึกยุทธศาสตร์การตลาดนับจากนี้ ที่ตั้งเป้าผลักดันแบรนด์พัดลมไทยเติบโตไปในระดับโลกให้ได้
“คุณภาพ-ราคา” หัวใจสร้างแบรนด์พัดลม “ฮาตาริ” ติดตลาด
ฮาตาริ ถือกำเนิดขึ้นในปี 2533 โดย “คุณจุน และคุณสุนทรี วนวิทย์” ที่เห็นช่องว่างตลาดและหันเหจากธุรกิจของเล่นเด็กมาทำธุรกิจพัดลมของตนเอง จากนั้นกิจการได้ถูกส่งต่อไปยังทายาทรุ่น 2 “คุณศิริวรรณ และคุณวิทยา พานิชตระกูล” ซึ่งเป็นยุคที่ฮาตาริได้พัฒนาดีไซน์และสีสันของพัดลมให้มีความหลากหลายจนแบรนด์ติดตลาดมาถึงทุกวันนี้ โดยคุณชัญญา บอกว่า หัวใจสำคัญที่ทำให้ชื่อ “ฮาตาริ” เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคและไม่เคยเลือนหายไปตามกาลเวลามาจาก Core Essence ของแบรนด์ด้าน “คุณภาพ” ผลิตภัณฑ์ที่ตอบการใช้งานในเรื่องความเย็น ขณะเดียวกัน “ราคา” ยังจับต้องได้
ถึงแม้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่อยู่ตลาดมานาน และยอดขายเติบโตมาตลอด แต่ด้วยความที่แบรนด์ไม่มีการทำตลาดดุดันมาก และออกจะ Low Profile จึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ของฮาตาริเป็นกลุ่มคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ขณะที่กลุ่มลูกค้า Gen Z ซึ่งเติบโตมากับเทคโนโลยีและมือถือ คุณทัศน์ลักษณ์ บอกว่า แม้จะรู้จักแบรนด์ แต่ด้วยความที่แบรนด์เน้นทำตลาด B2B มาตลอด จึงทำให้ฮาตาริไม่ได้อยู่ใน Top of Mind และถ้าเจาะลึกลงไป ยังพบว่า ผู้บริโภครุ่นใหม่มองฮาตาริเป็นแบรนด์ที่มีอายุ ไม่ทันสมัย ขณะเดียวกันหากดูตัวเลขการครอบครองพัดลมในไทยที่มีสัดส่วน 10 ล้านยูนิต ถือว่าค่อนข้างสูง บวกกับความต้องการของทุกวันนี้ก็เปลี่ยนไป ไม่ได้มองพัดลมเป็นแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกต่อไป
ดังนั้น หากแบรนด์ไม่ขยับ ยังคงอยู่กับการทำตลาดแบบเดิมๆ คุณชัญญา บอกว่า วันหนึ่งจะกลายเป็นข้อจำกัดในการสร้างการเติบโตของแบรนด์ จนทำให้แบรนด์ไม่ได้อยู่ในความสนใจของผู้บริโภคอีกต่อไป นี่จึงเป็นที่มาให้ “ฮาตาริ” ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ เพื่อ Reimage แบรนด์ให้สดใสและเข้าไปอยู่ในใจของคนรุ่นใหม่มากขึ้น
ฮาตาริยุคใหม่ บนวิถี Customer Centric
เมื่อพูดถึงการ Rebranding แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะนึกถึงการปรับโลโก้ใหม่เป็นอย่างแรก แต่ฮาตาริกลับคิดต่าง โดยเริ่มจากการปรับดีไซน์พัดลมให้ทันสมัยสอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบันก่อน เพราะมองว่า “ดีไซน์” เป็นสิ่งสำคัญที่จะสะท้อน Image ของฮาตาริที่เปลี่ยนไปให้ผู้บริโภคได้เห็นชัดเจน ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ฮาตาริ จึงปรับองค์กรจาก “Product Centric” มาเป็น “Customer Centric” ด้วยการลงทุนทำวิจัยอย่างหนักเพื่อให้เข้าใจคอนซูเมอร์มากขึ้น
พร้อมทั้งจับมือสตูดิโอด้านการออกแบบระดับโลกจากมิลานอย่าง Habits Design Studio นำ Customer Insight มาออกแบบดีไซน์โปรดักต์ใหม่ให้ทันสมัย แตกต่าง และตอบสนองการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้น จนเกิดเป็นพัดลมตั้งโต๊ะที่ออกแบบให้หมุนกรอบเปิดได้โดยไม่ต้องใช้ไขควง ทั้งยังออกแบบสายไฟให้อยู่ใต้ฐานพัดลมเพื่อแก้ปัญหาสายไฟที่รุงรัง รวมถึงพัดลมพกพา On The Go รุ่นแรก เพื่อขยายการใช้งานให้ครอบคลุมทั้งในบ้านและนอกบ้าน โดยมากับแท่นวางแม่เหล็ก ทำให้สามารถชมคอนเสิร์ต หรือการรับประทานอาหารนอกบ้านสะดวกขึ้น เพราะสามารถตั้งบนเก้าอี้ที่เป็นเหล็กได้เลย
“เรายังยึดมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดี แต่เราจะให้ความสำคัญกับการเก็บ Pain Point ของผู้บริโภคเพื่อนำมาพัฒนาฟังก์ชันการใช้งานให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่ม Emotional Benefit ให้มากขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกถึงความทันสมัย”
โดยปัจจุบันฮาตาริมีการ Redesign ผลิตภัณฑ์ไปกว่า 50% แล้ว จากสินค้าที่มีอยู่ในพอร์ตกว่า 70 SKU และตั้งเป้าภายในปี 2569 จะ Redesign Product ครบทั้งหมด รวมทั้งออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ฮาตาริยังไม่เคยมีในตลาดมาก่อน เพื่อเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มใหม่ๆ ที่มีช่องว่างเพิ่มขึ้น อย่างเช่น พัดลมพกพา On The Go
ปรับจุดยืนใหม่ ต่อยอดจุดแข็ง จาก “ลม” สู่ “อากาศ”
เมื่อดีไซน์ผลิตภัณฑ์พร้อม สเตปต่อมาฮาตาริจึงเริ่มทำการ Rebranding เพื่อปรับภาพลักษณ์ “ฮาตาริ” ให้ทันสมัยและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยวางจุดยืนของแบรนด์ใหม่สู่การเป็นแบรนด์ “อากาศ” ซึ่งหมายความว่า จากนี้ไปฮาตาริจะไม่ได้หยุดแค่การสร้างพัดลมเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงการสร้างอากาศเพื่อสร้างคุณชีวิตที่ดี ผ่านการปั้นโปรดักต์ไลน์ใหม่ที่มากกว่าพัดลม และฮาตาริยังไม่เคยมีในตลาดมาก่อน ซึ่งจะทำให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น และทำให้ฐานผู้ใช้ไม่อยู่ในวงจำกัด
ในเบื้องต้นโปรดักต์แรกที่ฮาตาริพัฒนาออกมาชิมลางตลาดคือ พัดลมพกพา และในครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนนำโปรดักต์อีกหลายตัวมาทำตลาดต่อเนื่อง เช่น Windbox เป็นพัดลมสี่เหลี่ยมที่ออกแบบมาสำหรับผู้อยู่อาศัยในคอนโดที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก และพฤติกรรมผู้บริโภคในเมืองที่ชอบความมินิมอล โดยมาพร้อมเสียงที่เบาและการหมุนเวียนอากาศในห้องได้ทั่วถึง รวมถึง Wall Fan เป็นพัดลมที่ออกแบบให้สามารถตั้งโต๊ะและติดผนังได้ด้วย ไปจนถึง Slide Fan และเครื่องปรับอากาศ
ไม่เพียงแต่ปรับดีไซน์และแบรนด์ใหม่เท่านั้น ในแง่กลยุทธ์การตลาด ฮาตาริยังปรับรูปแบบให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย ทั้งการหันมาทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Lazada และ Shopee จัดกิจกรรมมัดใจแฟนด้อมศิลปิน “แบมแบม” และล่าสุดยังปล่อยแคมเปญ Shaped By Wind #พัดไทยให้ไกลกว่าเดิม ซึ่งเป็นครั้งแรกของการนำวิสัยทัศน์ของแบรนด์มาเล่าเรื่องราวผ่านฮีโร่ของคนไทยในหลากหลายอาชีพ เพื่อแสดงจุดยืนความเป็นแบรนด์ไทยที่จะพัดพลังบวกสู่จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจดีๆ อีกมากมาย
ควบคู่กับการขยายตลาดในต่างประเทศมากขึ้น โดยในปีนี้จะโฟกัสประเทศในกลุ่มอาเซียน เช่น กัมพูชา ลาว เวียดนาม พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เนื่องจากลักษณะอากาศและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตใกล้เคียงกัน ซึ่งคุณทัศน์ลักษณ์เชื่อว่า จากการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ จะช่วยให้แบรนด์ฮาตาริเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น และสร้างการรับรู้ในกลุ่มคน Gen Z ได้เพิ่มขึ้นเป็น 40%
ทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เท่านั้น เชื่อว่าต่อจากนี้เราจะได้เห็น Movement ใหม่ๆ ของฮาตาริออกมาตอกย้ำภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ให้เด่นชัดยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อพาแบรนด์ก้าวสู่การเป็น Global Brand ต่อไป
“คุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างเปิดรับกับไอเดียใหม่ๆ และ Support การทำงานมากๆ แต่สิ่งที่เราคิดและตัดสินใจทำก็ต้องตอบได้ด้วยตัวเลขเช่นกัน เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นการทำงาน ก็ไว้วางใจมากขึ้น จึงเป็นการนำประสบการณ์ความเก๋าเกมของคุณพ่อคุณแม่ มาผสานเข้ากับไอเดียใหม่ๆ ของเรา เพื่อให้แบรนด์ฮาตาริเติบโตมากขึ้น และก้าวไปสู่ระดับ Global Brand” คุณทัศน์ลักษณ์ และคุณชัญญา ย้ำถึงเป้าหมายของฮาตาริยุคใหม่
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE