ปีนี้ “ภูเก็ต” เป็นจังหวัดที่มีความคักคักมาก สะท้อนได้จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายอุตสาหกรรรมเติบโตอย่างน่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ ศูนย์การค้า นั่นจึงทำให้ล่าสุด “บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด” เตรียมจัดงานฉลองจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต โฉมใหม่อย่างเต็มรูปแบบ หลังใช้เวลาในการรีโนเวทมาตั้งแต่ปี 2565 ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ตอบรับทุกความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่
รีโนเวทครบ 4 โซน รับนักท่องเที่ยวฟื้น
คุณประวิช จรรยาสิทธิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ภูเก็ตสแควร์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าจังซีลอน ป่าตอง ภูเก็ต บอกว่า ปัจจุบันภูเก็ตกลับมาคึกคักมากขึ้น หลังโควิดซา โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก ยังเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 80% ซึ่งหลังจากเดินหน้าปรับปรุงศูนย์การค้าทั้งภายในและภายนอกศูนย์การค้าฯ บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิดใหม่ The Oasis of Shopping in Patong มากว่า 2 ปี เพื่อรองรับการพื้นตัวของตลาดภูเก็ต ขณะนี้พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบครบทั้ง 4 โซนแล้ว ซึ่งโดดเด่นด้วยดีไซน์การตกแต่งที่แตกต่างกันในแต่ละโซนที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ในการชอปปิง ท่ามกลางธรรมชาติมากยิ่งขึ้น โดยทั้ง 4 โซน ประกอบด้วย
1. โซนเดอะจังเกิ้ล (The Jungle Zone) เป็นอาคารต่อเนื่องจากถนนป่าตองสาย 2 ที่เป็นทางเข้าหลักของศูนย์การค้า มีทางเชื่อมต่อกับโรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ฝั่ง After Glow โดยภายในตกแต่งด้วยคอนเซปต์ “Amid the Shady Trees” ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ อุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ และสัตว์ป่ามากมายที่สรรสร้างผ่านงานสถาปัตยกรรมได้อย่างกลมกลืนและลงตัว ในรูปแบบของ “Tropical Resort Mall”
สำหรับโซนเดอะจังเกิ้ลเป็นอาคาร 4 ชั้น เริ่มจากชั้น B ซึ่งจะรวบรวมร้านค้าแฟชั่น ร้านขายของฝากจากทุกภาคของไทย สปาเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงธนาคาร และร้านอาหารทั้งอาหารไทยและนานาชาติหลากหลายเมนูความอร่อยมาเอาใจนักชิมในราคาสบายกระเป๋า ตามด้วยชั้น 1 เป็นร้านค้าแฟชั่นแบรนด์เนม และร้านอาหารมากมาย ได้แก่ UNIQLO, X=Act, Volcom, Jelly Dreams, Viera by Regazze, Melissa, Misty Mynx, LYN, American Eagle Outfitters, Rip Curl, AIIZ, VNC, Shoebar, Sunshine Service, Eye Center, Havaianas, Thann, Studio7, Naraya, MK Gold, The Coffee Club, Burger King, Swensen’s และ Starbucks ถัดมาเป็นชั้น 2 โซนนี้จะเป็น Sport Fashion & Beachwear ได้แก่ Adidas, Puma, Quiksilver & Roxy, DC Shoes RVCA และ Billabong รวมถึงร้านอาหารเปิดใหม่อย่าง “LOVE EAT” และร้านอาหารเกาหลีสำหรับคนรุ่นใหม่และกลุ่มครอบครัว ได้แก่ Sukishi Korean Charcoal Grill, Din Tai Fung, Okuna Sushi, Akimitsu, Wa Japanese Yakiniku, Pancake Corner ฯลฯ และชั้น 3 สนามโกคาร์ทไฟฟ้าอินดอร์ติดแอร์ บนศูนย์การค้าแห่งแรกของจังหวัดภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 2,000 ตรม.
2. โซนเดอะโบทานิกา (The Botanica Zone) อยู่ติดถนนป่าตองสาย 3 จุดเชื่อมต่อระหว่างโซนต่างๆ รวมถึงโรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ฝั่ง Sun-Kissed โดยบรรยากาศภายในตกแต่งในรูปแบบ “Colour of Flower Blooming” เพิ่มความสนุกสดใสด้วยดอกไม้หลากสีสัน ทำให้การชอปปิงสดใสและสนุกมากขึ้น โดยโซนนี้จะประกอบด้วย ชั้น 1 ซึ่งจะรวบรวมร้านค้าแฟชั่นแบรนด์เนม เครื่องสำอางและแอกเซสซอรีชั้นนำ ได้แก่ Coach, Birkenstock, Jaspal, CPS, CC DOUBLE O, GENTLEWOMAN, Playboy, New Era, Under Armour, Skechers, Charles & Keith, Annebra, Levi’s, GUESS, G-Shock, Fitflop, Crocs, Timberland, Samsonite, Carolina Lemke, Eye Love It, Top Charoen Optical, KT Optic, Thann, Moshi Moshi, Watsons, Boots และ Beautrium ต่อด้วยชั้น 2 เป็นห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (Robinson) และบิ๊กซี (Big C) ส่วนชั้น 3 เป็นโรงภาพยนตร์ SF Cinema City, Kidzooona, Froggy’s Fun Park, IT zone, Banana IT และ Samsung
3. โซนเดอะเบย์ (The Bay Zone) ลานอเนกประสงค์แบบ Semi Outdoor ใจกลางศูนย์การค้า ตกแต่งบรรยากาศภายใต้คอนเซปต์ “A Sense of Sea Breeze” โดดเด่นด้วยเรือขนาดใหญ่ และ Art Sculpture โลมาและวาฬขนาดใหญ่กลางสระน้ำ พร้อมด้วยฝูงปลาและแมงกระพรุนที่มาแต่งแต้มสีสันใจกลางโอเอซิส ให้ตื่นตา ตื่นใจยิ่งขึ้น โดยบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่เปิดสำหรับจัดกิจกรรมอิเวนต์และโปรโมชันต่างๆ ล้อมรอบไปด้วยร้านค้าชั้นนำ ได้แก่ Shabushi, McDonald’s, Fuji Japanese Restaurant, Le Siam, KFC, Tim Hortons, และ Superdry
4. โซนเดอะการ์เด้น (The Garden Zone) ตั้งอยู่บริเวณชั้น G เชื่อมต่อทางเข้าฝั่งถนนสาย3 ต่อเนื่องสู่บริเวณโซนเดอะเบย์ เป็นแหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติ ไลฟ์สไตล์คาเฟ่ และแหล่งบันเทิง Hang Out สุดชิค ที่ตกแต่งภายใต้คอนเซปต์ “A Green Mythical Romance” โดดเด่นด้วยตึกแถวโบราณสไตล์ชิโนโปรตุกีสของภูเก็ตในแบบ Modern Classic ให้ความรู้สึกโล่ง โปร่งสบาย ผ่อนคลาย เสมือนอยู่ในสวนสวย ที่แวดล้อมไปด้วย Modern Art Sculptures ขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ช้าง นกฟามิงโก้ นกแก้ว กระต่าย ผีเสื้อ โลมา วาฬ ฝูงปลา แมงกะพรุน
โซนนี้ประกอบไปด้วยร้านอาหารชั้นนำ ได้แก่ Hachiban Ramen, The Thai Food Factory, Zen, Urban Food, Spoon, Wine Connection, Spice House, Wabi Sabi, Churrasco, Taco Bell, Mc Donald, Roxane Café, Yayoi, Irish Time Pub, Greyhound café, Whynot, Café 101, Pizza hut, Lacasa, Lavanille รวมถึงโรงแรมพิมนารา บูติค โฮเต็ล (Pimnara Boutique Hotel)
จัดบิ๊กอิเวนต์-โปรโมชัน ฉลองเปิดห้างเต็มรูปแบบ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าห้าง
นอกจากการรีโนเวทศูนย์การค้าจังซีลอน ภูเก็ต ป่าตอง ในคอนเซปท์ใหม่แล้ว บริษัทยัง Rebrand และปรับปรุง โรงแรมเอ็ม โซเชียล ภูเก็ต (M Social Phuket) ในเครือแบรนด์ “M Social” แห่งที่ 6 ของโลก และแห่งแรกในประเทศไทยใหม่หมด โดยนำนวัตกรรมผู้ช่วย AI Voice-Controlled มาให้บริการพร้อมอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานอย่างพิถีพิถันและล้ำยุค ผสานการออกแบบสุดเก๋เข้ากับเทคโนโลยีอย่างไร้รอยต่อ เพื่อให้เป็นโรงแรมไฮเทคแห่งแรกในภูเก็ต โดยมีห้องพักและห้องสวีทให้บริการรวม 418 ห้อง
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมงบการตลาดกว่า 60 ล้านบาท จัดโปรโมชันแบบจุกๆ กับนักช้อปนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อฉลองการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ กับ “Blooming Sales” โดยร้านค้าภายในศูนย์การค้า ขนสินค้ามาลดราคาสูงสุดถึง 70% และเมื่อช้อปครบทุก 3,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์ร่วมสนุกกับ Blooming Balloon Game ลุ้นรับรางวัลใหญ่สร้อยคอทองคำทุกวัน!! ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย. – 7 ก.ค. 67 ทั้งยังยกทัพศิลปินชั้นนำโดยพิธีกรมากความสามารถ “อาร์ม – กรกันต์ สุทธิโกเศศ” จัดกิจกรรม “The Blooming Oasis” พร้อมเปิดตัว Queen of Oasis ซูเปอร์สตาร์สาวสวยระดับประเทศ “ใหม่ – ดาวิกา โฮร์เน่” และคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบจาก Queen Of Dance ของเมืองไทย “เคที กระแต” ในวันศุกร์ที่ 28 มิ.ย. 67
“เชื่อว่าจากการปรับโฉมศูนย์การค้าใหม่ครบทั้งหมด บวกกับการปรับแนวทางการตลาดรูปแบบใหม่ จะผลักดันให้ศูนย์การค้า มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเท่ากับปี 2562 ที่มีลูกค้าประมาณ 45,000 – 50,000 คนต่อวัน (ก่อนโควิด19) และดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ เข้ามาในศูนย์การค้าจังซีลอน ภูเก็ต ป่าตอง มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม FIT ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่วางแผนการเดินทางเอง และมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นในปัจจุบัน” คุณประวิช ย้ำเป้าหมาย