ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศยุติการทดสอบ Data Center ใต้น้ำแล้ว แม้ว่าผลการทำงานของ Data Center เหล่านั้นจะมีอัตราการล้มเหลวเพียง 1 ใน 8 ของ Data Center ที่ตั้งอยู่บนบก (ภายใต้เงื่อนไขเดียวกัน) โดยหลังจากนี้ บริษัทเผยว่าจะไม่มีการติดตั้ง Data Center ใต้น้ำอีก และจะใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากโปรเจ็คดังกล่าวไปพัฒนาในด้านอื่น ๆ ต่อไป
โปรเจ็คการพัฒนา Data Center ใต้น้ำของไมโครซอฟท์เริ่มต้นขึ้นในปี 2013 ภายใต้ชื่อ Natick โดยจุดเริ่มต้นของโปรเจ็คดังกล่าว มีที่มาจากความต้องการประหยัดพลังงานที่ใช้ทำความเย็นให้กับ Data Center ซึ่งในช่วงแรกเป็นการทดสอบที่บริเวณชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย ด้วยการนำ Data Center รุ่นโปรโตไทป์ลงไปติดตั้งที่ระดับความลึก 30 ฟุต เป็นเวลา 105 วัน
จนกระทั่งปี 2018 โครงการ Natick ได้เข้าสู่เฟส 2 โดยมีการร่วมมือกับ Naval Group ในการพัฒนาร่วมกัน และได้ส่ง Data Center ตัวใหม่ลงไปติดตั้งที่ชายฝั่งของยุโรปที่ทะเล Orkney ในวันที่ 1 มิถุนายน 2018 ซึ่ง Data Center ดังกล่าวอยู่ใต้น้ำเป็นเวลาสองปี และถูกใช้ในการประมวลผลการวิจัยวัคซีนช่วง Covid-19 ระบาดด้วย
ทั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นกับโปรเจ็ค Natick เฟส 2 ก็คือ มีเซิร์ฟเวอร์เพียง 6 เครื่องจากทั้งหมด 855 เครื่องที่เกิดการล้มเหลว ซึ่งเมื่อเทียบกับเซิร์ฟเวอร์แบบเดียวกันแต่ตั้งอยู่บนบก พบว่ามีความเสียหายมากถึง 8 เครื่องจากทั้งหมด 135 เครื่อง โดย Microsoft ชี้ว่าอุณหภูมิ (ใต้น้ำ) ที่คงที่ เป็นปัจจัยของผลที่แตกต่างกันดังกล่าว และนำไปสู่ตัวเลขความสำเร็จที่ระบุไว้ข้างต้น
อย่างไรก็ดี Noelle Walsh รองประธานองค์กรของทีมปฏิบัติการคลาวด์ และนวัตกรรมของ Microsoft ซึ่งดูแลโครงการดังกล่าวเผยว่า “เราได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ใต้ระดับน้ำทะเล และเราจะนำการเรียนรู้เหล่านั้นไปใช้กับกรณีอื่น ๆ ต่อไป”
มีรายงานว่า โปรเจ็คนี้ทำให้ Microsoft ได้รับรางวัลกลับมาพอสมควร เช่น รางวัล the Carbon Reduction Award ในปี 2018 จาก Scottish Renewables ก่อนจะมีการนำ Data Center ดังกล่าวขึ้นจากน้ำในปี 2020 และบริษัทได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการในปี 2024 ว่า บริษัทไม่มี Data Center ใต้น้ำอีกแล้ว