HomeBrand Move !!“Andrew Ng” แนะไทยต่อยอด AI เสริมจุดแข็งประเทศ “HealthCare-เกษตร-ท่องเที่ยว”

“Andrew Ng” แนะไทยต่อยอด AI เสริมจุดแข็งประเทศ “HealthCare-เกษตร-ท่องเที่ยว”

ชี้การมาถึงของ AI คือโอกาสครั้งใหญ่ของ "สตาร์ทอัพ"

แชร์ :

ดร.Andrew Ng ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับโลก และ Managing General Partner ของ AI Fund

ท่ามกลางกระแสความสนใจในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก การปรากฏตัวของ “ดร.Andrew Ng” ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ระดับโลก และ Managing General Partner ของ AI Fund บนเวที KBTG Techtopia นับเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับวงการเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพในไทย เพราะไม่เพียงแต่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ เกี่ยวกับ AI แต่ยังสามารถต่อยอดเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ และนำไปสู่การพัฒนาและนวัตกรรมที่ก้าวหน้าต่อไปได้อีกหลายด้าน

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

BEARING.ai แรงบันดาลใจใหม่สตาร์ทอัพ

หนึ่งในเรื่องที่ ดร. Andrew Ng กล่าวถึงคือ สตาร์ทอัพ BEARING.ai ของ Dylan Keil กับการติดตั้งเซนเซอร์จำนวนมากลงบนเรือเดินสมุทรเพื่อส่งค่าต่าง ๆ กลับเข้าสู่ระบบเพื่อให้ AI นำค่าเหล่านั้นมาวิเคราะห์ต่อไป ผลก็คือ ระบบได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรือและการเดินเรือแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถนำไปวิเคราะห์และลดค่าใช้จ่ายให้การเดินเรือทะเลได้ในหลายด้าน เช่น

  • สามารถระบุได้ว่า เรือลำนั้นมีประสิทธิภาพดีแค่ไหน ต้องทำสัญญาในการเดินเรืออย่างไรจึงจะเหมาะสม เบี้ยประกันภัยควรจะเป็นเท่าไร การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของเรือเป็นอย่างไร ภาษีคาร์บอนที่อาจเกิดขึ้นควรอยู่ที่เท่าไร ฯลฯ

ทั้งนี้ ในมุมของ ดร.Andrew Ng ได้ให้ทัศนะเกี่ยวกับการใช้ AI ของ BEARING.ai ว่า เป็นอีกหนึ่งแนวทางของสตาร์ทอัพในการสร้างความแตกต่างและการเติบโต

AI จะสร้างผลกระทบในหลายอุตสาหกรรม

อีกหนึ่งข้อมูลที่ Andrew Ng นำมากล่าวถึงบนเวทีคือ ผลการศึกษาของ McKinsey ที่ระบุว่า AI จะสร้างผลกระทบในหลายอุตสาหกรรม และผู้ที่ได้รับผลกระทบลำดับต้น ๆ คือกลุ่มพนักงานที่มีค่าจ้างสูง ส่วนอาชีพที่ได้รับผลกระทบก่อนใครก็คือ กลุ่มนักการศึกษา นักกฎหมาย ฯลฯ ซึ่งในจุดนี้ เขากล่าวด้วยว่า เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ เพราะในขณะเดียวกัน AI ก็จะสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นด้วย และการคว้าโอกาสนั้นให้ได้เป็นสิ่งจำเป็น

อนาคตของ AI จะผสานอยู่ในอุปกรณ์ – กระบวนการต่าง ๆ

ในมุมของ ดร.Andrew Ng เกี่ยวกับอนาคตของ AI นั้น เขาตอบตรง ๆ ว่าไม่ทราบ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้อธิบายภาพของการใช้งาน AI ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า จะเข้าไปอยู่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ – กระบวนการต่าง ๆ มากขึ้น เช่น การเข้าไปช่วยให้การขับขี่รถยนต์มีความปลอดภัยมากขึ้น เป็นต้น (ผ่านการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมรอบตัวรถ) พร้อมเตือนด้วยว่า ไม่ว่า AI จะฉลาดขึ้นแค่ไหน มนุษย์ก็ไม่ควรคาดหวังว่า AI จะสามารถทำได้ทุกอย่างแบบที่มนุษย์ทำได้

AI and Thailand

แต่ละประเทศมีจุดแข็งที่แตกต่างกัน และการใช้งาน AI ของแต่ละประเทศก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน โดยในมุมของ ดร. Andrew Ng เขาได้ยกตัวอย่างจุดแข็งของประเทศไทยไว้ 3 ข้อ นั่นคือ ด้าน HealthCare, การเกษตร และภาคการท่องเที่ยว นอกจากนั้น AI ยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการศึกษา และสร้างการเติบโตให้กับวงการสตาร์ทอัพของไทยได้ด้วย

AI สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 15.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ

ด้านคุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส – เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เผยว่า AI สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับโลกได้เทียบเท่าเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา หรือคิดเป็นมูลค่า 15.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ภูมิภาคเอเชีย AI สามารถเพิ่ม GDP ได้ราว 10% เลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ การเข้าถึง AI จึงเป็นสิ่งจำเป็น และทำให้ภายในงาน Techtopia มีการลงนามใน MOU สองฉบับเพื่อสร้างความพร้อมให้กับประเทศไทยในการเข้าถึง AI โดยฉบับแรก เป็นการลงนามของ KBTG กับ Deeplearning.ai และ AIAT เพื่อสร้าง KBTG.AI Kampus สำหรับฝึกทักษะด้าน AI ให้กับนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยของไทย

ส่วนฉบับที่สองเป็นการพัฒนา AI Assistant เพื่อช่วยในการเรียนของเด็กไทย โดยเป็นการจับมือกับ AI Fund และ EEF เพื่อให้เด็กไทยและครูไทยได้เข้าถึง AI Technology รวมถึงเป็นตัวช่วยให้ครูในการสอน

(ซ้าย) คุณกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล และ ดร.Andrew Ng

น่าสนใจว่า ท่ามกลางความคาดหวังให้ประเทศไทยเร่งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจรอบใหม่ การมาถึงของ AI และมุมมองของ ดร.Andrew Ng ในครั้งนี้ อาจช่วยจุดประกายให้กับผู้ประกอบการและนักพัฒนาชาวไทยในการนำศักยภาพของ AI มาใช้สร้างนวัตกรรม และสามารถผลักดันให้ไทยมีที่ยืนในโลกที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดนี้ก็เป็นได้

 


แชร์ :

You may also like