ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการเดินทางของมนุษย์มากขึ้น หนึ่งในนวัตกรรมที่เริ่มมีการใช้งานอย่างแพร่หลายคือ “กระเป๋าเดินทางไฟฟ้า” หรือ Electric Suitcases ที่ทำให้การเดินทางของใครหลายคนสะดวกสบายขึ้นอย่างมาก แต่สิ่งประดิษฐ์นี้อาจไม่ได้เหมาะกับทุกประเทศเสมอไป เห็นได้จากสนามบินในญี่ปุ่นที่กระเป๋าเดินทางไฟฟ้ากำลังทำให้เจ้าหน้าที่ปวดหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากกฎหมายญี่ปุ่นได้ระบุว่า การที่มันมีมอเตอร์และแบตเตอรี่ ทำให้มันถูกจัดเป็น “ยานพาหนะ” เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์ ที่หากจะขึ้นไปขี่ต้องสวมหมวกกันน็อก และต้องมีใบอนุญาตขับขี่เพื่อความปลอดภัยนั่นเอง
กระเป๋าเดินทางไฟฟ้าคืออะไร?
กระเป๋าเดินทางไฟฟ้าคือกระเป๋าเดินทางที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและระบบควบคุมที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายกระเป๋าโดยไม่ต้องออกแรงลากกระเป๋าเอง บางรุ่นยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการติดตามผ่าน GPS การชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบต่าง ๆ ด้วย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักข่าว Telegraph ระบุว่า ความนิยมในกระเป๋าเดินทางไฟฟ้ากำลังเพิ่มขึ้นอย่างมากในภูมิภาคเอเชีย โดยหนึ่งในนั้นมาจากศิลปินดังวง Blackpink อย่าง Jennie ที่นั่งบนกระเป๋าเดินทางไฟฟ้าและเผยแพร่ภาพผ่านช่องทาง TikTok ทำให้แฟน ๆ ของสาว Jennie อยากทำตามบ้างนั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก Telegraph
อย่างไรก็ดี สำหรับการใช้งานในประเทศญี่ปุ่น กระเป๋าเดินทางไฟฟ้าอาจไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสมนัก โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยว เนื่องจากกระเป๋าเดินทางไฟฟ้ามีการติดตั้งแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งกฎหมายจราจรของญี่ปุ่นจัดประเภทของมันเอาไว้ในกลุ่ม Motorized Bicycles (ยานพาหนะเทียบเท่าจักรยานยนต์) และทำให้ผู้ครอบครองต้องมีใบอนุญาตขับขี่ ส่วนคนที่จะขึ้นไปนั่งบนกระเป๋าเดินทางไฟฟ้านี้ ตามกฎหมายกำหนดให้พวกเขาต้องสวมหมวกกันน็อก อีกทั้งยังต้องมีการซื้อประกันด้วย
ผลกระทบในสนามบินและสถานที่ต่าง ๆ
ความนิยมใช้งานกระเป๋าเดินทางไฟฟ้าของนักท่องเที่ยวทำให้เจ้าหน้าที่ของสนามบินญี่ปุ่นต้องปวดหัวมากขึ้น และเริ่มพบว่ามีสนามบินในญี่ปุ่นหลายแห่งที่เข้มงวดกับการใช้งานกระเป๋าเดินทางไฟฟ้า เช่น สนามบินนาริตะในกรุงโตเกียวมีการเตือนนักท่องเที่ยวอย่างเคร่งครัด ส่วนสนามบินฮาเนดะนั้นประกาศห้ามใช้งานกระเป๋าเดินทางไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด และยังแจ้งให้ร้านค้าภายในประเทศย้ำกับผู้ซื้อด้วยว่า ประเทศญี่ปุ่นมีข้อกำหนดในการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าวอย่างไร
ไม่เฉพาะในญี่ปุ่น แต่สนามบินชางงีของสิงคโปร์ก็ห้ามใช้กระเป๋าเดินทางไฟฟ้าแล้วเช่นกัน ซึ่งการออกมาแบนกระเป๋าเดินทางไฟฟ้าจึงกลายเป็นความท้าทายของสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว ที่เมื่อนำมาใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริงบนตัวบทกฎหมายแบบเดิม มันจึงกลายเป็น “ยานพาหนะ” แถมยังเป็นยานพาหนะที่ไม่สามารถขับขี่บนถนนได้ตามกฎหมาย เนื่องจากไม่มีกระจกมองหลังและไฟเลี้ยว หรือนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ถึงเวลาจัดหมวดหมู่ใหม่ให้กับสินค้าเทคโนโลยี เพื่อให้มันได้ทำหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็นจริง ๆ เสียทีก็เป็นได้