เพราะเป้าหมายของ “บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)” หรือ “Supalai” ที่นอกจากการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างยอดขายให้เติบโตต่อเนื่องทุกปีแล้ว ยังต้องการลดผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 40% ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การเป็นองค์กร Zero Waste แบบครบจร
หลายปีที่ผ่านมา ศุภาลัยจึงนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาเป็นหลักในการทำงานตั้งแต่การออกแบบบ้าน การพัฒนานวัตกรรมการก่อสร้างที่ประหยัดพลังงาน รวมไปถึงบริหารจัดการขยะและวัสดุเหลือใช้ในงานก่อสร้างให้เหลือน้อยที่สุด มาปีนี้จึงต่อยอดไปอีกขั้นด้วยการจับมือ 4 พันธมิตรสายกรีน ประกอบด้วย Wilsonart, SC GRAND, MORE และ SONITE ปั้นโมเดล “การออกแบบและแต่งบ้านรักษ์โลก” หรือ “Sustainable Design” เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สอดรับกับเทรนด์การแต่งบ้านยุคใหม่ ที่สวยอย่างยั่งยืน
ผู้บริโภครักษ์โลกเพิ่มขึ้น ดันเทรนด์แต่งบ้านแบบ Sustainable Design มาแรง
ต้องบอกว่า Sustainable Design ไม่ใช่เทรนด์เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจกันมากขึ้น เหตุผลส่วนหนึ่ง คุณกิตติพงษ์ ศิริลักษณ์ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บอกว่า มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ รวมถึงต้องการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น จึงทำให้สไตล์การแต่งบ้านเปลี่ยนแปลงไป นอกจากความสวยงามแล้ว ยังต้องช่วยรักษาธรรมชาติด้วย
บวกกับความตั้งใจของศุภาลัยที่ต้องการพัฒนานวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียวในทุกกระบวนเพื่อลดผลกระทบให้กับสิ่งแวดล้อม จึงต่อยอดมาสู่การร่วมมือกับ 4 พันธมิตรสายกรีน ได้แก่ Wilsonart, SC GRAND, MORE และ SONITE เพื่อนำทรัพยากรเหลือใช้มาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในงานแต่งบ้าน ด้วยกระบวนการ Upcycling โดยนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และวัสดุทดแทน มาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์รักษ์โลกที่มีคุณภาพ ดีไซน์สวย และตอบโจทย์การใช้งานได้จริง
ยกตัวอย่าง วัสดุปิดผิวของเฟอร์นิเจอร์ Built-in ภายในบ้าน ใช้แผ่นลามิเนตทำจากไม้ป่าปลูกเชิงพาณิชย์ ส่วน Top Solid Surface เคาน์เตอร์ครัว ทำจากเปลือกไข่ผสมหินสังเคราะห์ ขณะที่ผ้าม่าน ผ้าที่บุหุ้มเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ผลิตจากผ้าที่มาจากเศษผ้า เศษด้าย และเก้าอี้ทำจากเยื่อกากกาแฟ เป็นต้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้นำผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมาตกแต่งในบ้านตัวอย่างของโครงการศุภาลัยทั่วประเทศแล้ว
ผนึก 4 พาร์ทเนอร์ นำวัสดุเหลือใช้ เปลี่ยนการแต่งบ้านให้สวยยั่งยืน
คุณอดิศักดิ์ เธียไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท วิลสันอาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า แผ่นลามิเนตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบในการผลิตมาจากไม้จากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ ทั้งยังปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮต์ในระดับที่ต่ำกว่ามาตรฐานกำหนด ขณะที่ลามิเนตของแบรนด์ Wilsonart มีค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่ 3.70 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่าต่อตารางเมตร และมีการใช้ Recycle raw material ในกระบวนการผลิตมากกว่า 48% ความร่วมมือกับศุภาลัยในการนำแผ่นลามิเนตมาตกแต่งปกปิดผิวของเฟอร์นิเจอร์ Built-in ภายในบ้านตัวอย่างศุภาลัย จึงช่วยลดการตัดต้นไม้ ทั้งยังปลอดภัยและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย
ขณะที่ คุณจิรโรจน์ พจนาวราพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แสงเจริญแกรนด์ จำกัด บอกว่า ความร่วมมือกับศุภาลัยนำเศษผ้า เศษด้ายที่ไม่ใช้แล้วมาแปรรูปเป็นผ้าม่าน ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งในบ้านตัวอย่างโครงการศุภาลัย มีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เกือบ 100% เพราะไม่เพียงช่วยลดขยะ ยังประหยัดทรัพยากรและพลังงานในการผลิตผ้าใหม่ อีกทั้งผ้ารีไซเคิลที่นำมาใช้ยังทนทาน และสวยงาม รวมถึงลูกค้าสามารถเลือกประเภทของผ้า โครงสร้าง และดีไซน์ได้ตามต้องการ
คุณเจตนัตว์ ศุภพิพัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท ฟิวเจอร์ไซเคิ้ล จำกัด บอกว่า เฟอร์นิเจอร์ที่นำมาใช้ในโครงการนี้ เป็นการนำวัสดุรีไซเคิล กับวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่น้อยกว่า 25% และโครงสร้างไม้ยางพาราจากการเหลือใช้ของภาคการเกษตร มาออกแบบเป็นเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น Slab Chair ใช้เยื่อกาแฟที่เหลือทิ้งจากกระบวนการคั่วเทียบเท่ากาแฟที่ใช้ในการเสิร์ฟ 23.7 แก้ว และ Woven Bound Chair ใช้เยื่อกาแฟที่เหลือทิ้งจากกระบวนการคั่วเทียบเท่ากาแฟที่ใช้ในการเสิร์ฟ 22.2 แก้ว การร่วมมือกับศุภาลัยในครั้งนี้ จึงช่วยกระตุ้นให้เกิดการนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วกลับเข้าสู่กระบวนการ Upcycling เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุทางเลือกในชีวิตประจำวันที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
เช่นเดียวกับ คุณอโนมา ไทยกล้า Operating Manager บริษัท โซไนต์ อินโนเวทีฟ เซอร์เฟสเซส จำกัด บอกว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยนำผลิตภัณฑ์จากวัสดุเหลือใช้ เช่น เปลือกข้าว เปลือกไข่ ใยมะพร้าว และพลาสติกที่ย่อยสลายได้ยาก มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์ทันสมัย ใช้งานได้จริง โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ศุภาลัยได้นำผลิตภัณฑ์ TOP SOLID SURFACE มาตกแต่งเคาน์เตอร์ครัวในบ้านตัวอย่าง ทำให้พื้นผิวเรียบสนิท ทำความสะอาดง่าย ทั้งยังยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และปลอดภัยต่อลูกค้า
จึงเป็นความร่วมมือที่นอกจากจะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ผลิตภัณฑ์สวยๆ แล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปในคราวเดียวกัน ซึ่ง ศุภาลัย ยังคงมีแผนพัฒนาที่อยู่อาศัยสีเขียวอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กร Zero Waste ต่อไป