แม้ที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจ B2B ของ “บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)” หรือ “ซีพีเอฟ” (CPF) จะครอบคลุมฐานลูกค้าหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโฮเรก้า โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม และเชนร้านอาหาร โดยสร้างรายได้ปีละ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 10-15% ต่อเนื่องทุกปี แต่ซีพีเอฟไม่เคยหยุดมองหาโอกาสเพื่อสร้างการเติบโต โดยหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มการเติบโตให้กับธุรกิจคือ การผนึกกำลังกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันพัฒนาสินค้าใหม่ ล่าสุดจึงได้ร่วมมือกับ Sky Café ของ สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ ในการพัฒนาเมนูอาหารพร้อมรับประทานเพื่อเสิร์ฟบนเครื่องบินเป็นครั้งแรก
ทำไมถึงสนใจตลาดสายการบิน และที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้เป็นอย่างไร? Brand Buffet พามาฟังคำตอบเรื่องนี้กันชัดๆ จาก คุณศุภรา ศรีบูรณ์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจการค้าในประเทศ ซีพีเอฟ
ตลาดท่องเที่ยว โอกาสใหม่ของอาหารพร้อมรับประทาน
ตลาดท่องเที่ยวถือเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพ จากการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศ กระทั่งได้รับการติดต่อจากสายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์เพื่อร่วมกันพัฒนาเมนูอาหารพร้อมรับประทานบนเครื่องบิน จึงเกิดความสนใจ เพราะที่ผ่านมาซีพีเอฟได้จำหน่ายวัตถุดิบให้กับ Catering ของสายการบินเกือบทุกสายอยู่แล้ว ทำให้เห็นโอกาส เพราะเป็นครั้งแรกของซีพีเอฟในการพัฒนาอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานที่เสิร์ฟบนเครื่องบิน จึงเป็นที่มาของความร่วมมือกันในครั้งนี้ขึ้น
คุณศุภรา กล่าวว่า ความร่วมมือในการพัฒนาเมนูอาหารพร้อมรับประทานร่วมกันครั้งนี้ เบื้องต้นเป็นความร่วมมือเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยโจทย์ของสายการบินเวียตเจ็ทต้องการพัฒนาเมนูอาหารให้หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกเพศ และรสชาติต้องอร่อยถูกปากผู้โดยสาร เนื่องจากผู้โดยสารของสายการบินเวียตเจ็ทมีทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยในเฟสแรกจะนำร่อง 5 เมนูก่อน ซึ่งเป็นเมนูที่ผู้โดยสารนิยมสั่งบนเครื่องเป็นประจำมาให้ CPF พัฒนา
หลังจากได้รับโจทย์มา บริษัทจึงประสานกับทีมศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารซีพีเอฟในการศึกษาและพัฒนาเมนูที่เหมาะสมสำหรับการบริการบนเครื่องบินอยู่ประมาณ 2 เดือน เพราะการเสิร์ฟอาหารพร้อมรับประทานบนเครื่องไม่เหมือนกับอาหารพร้อมรับประทานปกติ และใช้เวลาในการชิม 2 ครั้ง ถึงได้รสชาติสำหรับทานบนเครื่อง จนออกมาเป็น 5 เมนู ประกอบด้วย ข้าวกะเพราไก่ ข้าวแกงเขียวหวานไก่ ข้าวไก่เทอริยากิ บะหมี่ไก่ และข้าวผัดมังสวิรัติ
ลุยพัฒนาเมนูใหม่ เสิร์ฟความอร่อยบนเครื่อง
สำหรับ 5 เมนูนำร่องนี้ จะเริ่มวางขายบนเครื่องบินตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมนี้ในทุกเส้นทางบินทั่วเอเชีย โดยจะวางขายประมาณ 6 เดือน จากนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูไปตามซีซัน โดยคุณศุภรา บอกว่า เมนูแชมเปี้ยนส์อาจจะคงไว้อยู่ เพราะมีฐานลูกค้าประจำ ส่วนการพัฒนาเมนูใหม่ จะนำฐานลูกค้าของสายการบิน และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวมาเป็นหลักในการพัฒนา เช่น ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีน อินเดีย และตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น เมนูจึงต้องหลากหลายกว่าเดิม นอกจากอาหารไทย ต้องเพิ่มอาหารตามมาตรฐานฮาลาล รวมถึงอาหารอินเดีย อาหารมังสวิรัติ และกลุ่มสแนคที่สะดวกทาน เนื่องจากระยะเวลาในการบินมีตั้งแต่ 1 ชั่วโมงและมากกว่า 5 ชั่วโมง จึงต้องสามารถบริการลูกค้าได้ทุกกลุ่ม
“การร่วมมือกับสายการบินเวียตเจ็ทในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งเบื้องต้นน่าจะสร้างรายได้เกิน 10 ล้านบาท และเรามีแผนร่วมมือกันระยะยาว 3 ปี ในการพัฒนาเมนูต่างๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรือหวาน เพื่อที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ไทยเป็นครัวของโลกอย่างแท้จริง”
คุณศุภรา บอกถึงเป้าหมายของความร่วมมือในครั้งนี้ และนอกจากสายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์แล้ว ซีพีเอฟยังมีการพูดคุยกับสายการบินอื่นเพื่อพัฒนาเมนูอาหารพร้อมรับประทานร่วมกันมากขึ้น เพื่อตอบรับเทรนด์ของการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโต และสร้างความสะดวกให้กับแอร์โฮสเตทบนเครื่องบิน
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE