เป็นที่รู้กันดีว่าทายาทคนเล็กแห่งบ้าน “สิริวัฒนภักดี” อย่าง “คุณอัศวิน-ฐาปณี เตชะเจริญวิกุล” เป็นทั้งพาร์ทเนอร์ทั้งในชีวิตรัก และชีวิตการทำงาน ทั้งคู่สามารถทำหน้าในบทบาทของแม่ทัพใหญ่อาณาจักร บีเจซี บิ๊กซี ทำหน้าที่กุมบังเหียนอาณาจักร 2 แสนล้านบาทให้เติบโตได้อย่างสวยงามทั้งในและต่างประเทศ
เช่นเดียวกับบทบาทในฐานะสามี-ภรรยา ทั้งคู่ต่างก็ทำหน้าที่ดูแลครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดย “คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล” หรือ “คุณโอ๊ะ” ที่ทุกคนรู้จักดี เธอมักจะแบ่งเวลาว่างเพื่อดูแลลูกๆ ด้วยตัวเองอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็ก ที่เธอมองว่าถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดในการเสริมสร้างพัฒนาการของลูกให้สมบูรณ์มากที่สุด…โดยเฉพาะเรื่องของ “นมแม่” ที่เจ้าตัวถึงกับบอกว่าเชื่อมั่นอย่างสุดใจ
พร้อมต่อยอดธุรกิจควบคู่ใส่ใจพัฒนาการเด็ก กับบทบาทคุณแม่ ลูก 3
คุณฐาปณี หรือ คุณโอ๊ะ เริ่มต้นเล่าถึงแนวทางการเลี้ยงลูกตามแบบฉบับของตัวเองว่า “ตอนนี้โอ๊ะมีลูกอยู่ 3 คน คนโตอายุ 15 ปี คนกลางอายุ 13 ปี และคนเล็กอายุ 10 ปี ซึ่งแต่ละคนห่างกันเกือบ 3 ปี เพราะว่าโอ๊ะต้องการให้นมแม่คนละ 2 ปีตามที่ WHO แนะนำ…เพราะเราเชื่อมั่นในนมแม่ และอะไรที่ดีที่สุด เราทำให้เขาเต็มที่ นั่นทำให้ลูกๆ แข็งแรงและมีพัฒนาการตามที่เขาแนะนำมาจริงๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้องเล็กๆ เราต้องยิ่งมีความรู้และใส่ใจเต็มที่ 3 ปีแรกหรือ 1,000 วันแรกของชีวิต เซลล์สมองของเด็กจะโต 1,000 เซลล์ต่อวินาที หรือ 3 ปีแรกสมองของเด็กแรกเกิดโตไปแล้ว 98% ดังนั้น เราต้องช่วยกันดูแลเด็กๆ เพื่อให้สามารถเติบโตและสร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติ”
นับตั้งแต่วันแรกที่ “คุณโอ๊ะ” เลี้ยงลูกด้วยตัวเองทั้ง 3 คน ด้วยความเชื่อมั่นในคุณประโยชน์ของ “นมแม่” ที่ใช้เลี้ยงลูกมาโดยตลอด วันนี้ผ่านมา 17 ปี เธอยังคงเดินหน้าสนับสนุนห้อง “อิ่มอุ่น” ในออฟฟิศ โรงงาน พื้นที่สาขาต่างๆ ในองค์กรมาต่อเนื่อง จากการแนะนำขององค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ที่นำพาองค์กรให้ลงนาม MOU ร่วมกันในนาม มูลนิธิ บีเจซี บิ๊กซี
นอกจากการทำธุรกิจที่มองในแง่ผลกำไรแล้ว “บีเจซี บิ๊กซี” ในฐานะองค์กรเอกชน จึงอยากมีส่วนร่วมทำประโยชน์ให้กับสังคม ด้วยการเปิดพื้นที่ให้กับครอบครัวมากขึ้น ด้วยการนำความใส่ใจในฐานะคนเป็น “แม่” มาเป็นส่วนหนึ่งในการทำธุรกิจที่เจ้าตัวดูแลอยู่ ในการดูแลเด็กเล็กด้านต่างๆ จนนำมาสู่การเปิด “Biggy’s Club” พื้นที่ให้บริการรับฝากเด็กขึ้นมาเป็นครั้งแรกในพื้นที่ “บิ๊กซี” ทั้ง 10 สาขา
โพซิชันของ “บิ๊กซี” ก็มีความเป็น Family Place อยู่แล้ว จึงอยากให้น้องๆ ได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่ของเรา ตั้งแต่ร้านหนังสือ Asia Books ที่เป็นร้านหนังสือภาษาอังกฤษ-ไทย การเปิดพื้นที่เฉพาะสำหรับเด็กเมื่อมาช็อปปิงกับผู้ปกครอง เพื่อเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการเด็กที่แฝงอยู่ทุกอณูของการบริหารธุรกิจ”
พื้นที่ให้ “คุณแม่” ได้ช็อปปิงส่วน “คุณลูกได้พัก-เสริมทักษะ”
คุณฐาปณี เตชะเจริญวิกุล ในฐานะรองประธานกรรมการ กรรมการ เลขานุการ และเหรัญญิก มูลนิธิ บีเจซี บิ๊กซี ยังบอกอีกว่า “ขณะเดียวกันการช็อปปิงเป็นเหมือนสวรรค์ของเหล่าผู้ปกครองโดยเฉพาะคุณแม่ที่มีเวลาจำกัดในการออกมาช็อปปิง บางคนออกมาช็อปปิงโดยนำลูกมาด้วยหรือบางคนไม่ได้นำลูกมาช็อปปิงด้วย ซึ่งจะมีความกังวลในขณะช็อปปิง และรีบซื้อของแล้วกลับ บิ๊กซีจึงหาวิธีที่ทำให้ผู้ปกครองกังวลใจน้อยลงหากแหล่งช็อปปิงนั้นมีพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กที่พร้อมด้วยมาตรฐานและความปลอดภัย เพื่อช่วยให้ผู้ปกครองและลูกค้าช็อปปิงอย่างมีความสุข สบายใจขึ้น และช่วยให้เด็ก ๆ ได้เล่น เรียนรู้ และมีความสุข ระหว่างรออีกด้วย“
โดย “Biggy’s Club” คือ พื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็กอายุระหว่าง 1-8 ปี ที่บิ๊กซีนำร่องใน 10 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด ประกอบไปด้วย “บิ๊กซี สาขาสะพานควาย, บิ๊กซี สาขาพระราม 2, บิ๊กซี สาขาบางพลี, บิ๊กซี สาขาสมุทรปราการ, บิ๊กซี สาขาสุขสวัสดิ์, บิ๊กซี สาขาขอนแก่น, บิ๊กซี สาขาพิษณุโลก, บิ๊กซี สาขาหาดใหญ่ 2, บิ๊กซี สาขาเชียงราย และบิ๊กซี สาขาสุราษฎร์ธานี ทั้งนี้ บิ๊กซี วางแผนจะขยายไปยังสาขาอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต”
“Biggy’s Club” ออกแบบเป็นสนามเด็กเล่นในร่ม มีทั้งหนังสือ ของเล่น และเกมเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กๆ ไปพร้อมกับความสนุกของทุกครอบครัว “Biggy’s Club” ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และเหมาะสำหรับเด็กอายุ 1-8 ปีและครอบครัว ซึ่งแต่ละสาขาจะมีพี่ๆ พนักงานคอยดูแล 4 คนเพื่อให้น้องๆ สามารถเล่นได้อย่างสนุกและมีความรู้ โดยเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. นอกจากนี้ ที่ Biggy’s Club ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่เพื่อคอยดูแลเด็กๆ ด้วย ทั้งนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปีควรใช้พื้นที่เรียนรู้นี้พร้อมกับผู้ปกครอง
การเนรมิตพื้นที่เรียนรู้สำหรับเด็ก “Biggy’s Club” จะทำให้เด็กๆ เข้าถึงหนังสือ ของเล่น และได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมพัฒนาการของพวกเขา และทำให้การช็อปปิงเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุกคนในครอบครัว
สุดท้าย “คุณโอ๊ะ” บอกว่า ต่อจากนี้จะเดินหน้าขยาย Biggy’s Club ในพื้นที่บิ๊กซี ทั้ง 200 สาขาที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในส่วนของ มินิ บิ๊กซี ที่มีอยู่อีกกว่า 1,000 แห่งก็จะมีการเปิดโซนเล็กๆ ที่มีคุณภาพสำหรับเด็กๆ ให้ได้แวะเวียนมา ก่อนที่ในอนาคตจะต่อยอดไปยังเนิร์สเซอรี่ สำหรับเด็กๆ ซึ่งน่าจะเป็นการเริ่มต้นภายในองค์กรก่อน ทั้งออฟฟิศ โรงงาน ก่อนจะขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ เพิ่มเติม
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE