หลังสร้างผลประกอบการสุดท็อปฟอร์มในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ด้วยการทำยอดขายมากกว่า 7,345 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% ส่วนสำคัญผลักดันการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม 11.2% ซึ่งมี แบรนด์ M-150 หรือ มิโซ เป็นแบรนด์เรือธงนำทัพสร้างยอดขาย
คืบหน้าสุด “โอสถสภา” ก็เดินหน้ารุกตลาดครั้งสำคัญ ด้วยการประกาศทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งสายการผลิตเครื่องดื่มบรรจุกระป๋องแห่งใหม่ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองรับการผลิตเครื่องดื่มทั้งในและต่างประเทศที่บรรจุกระป๋องได้ ภายใต้แบรนด์ “เอ็ม-150” “ชาร์ค” และ “คาลพิส แลคโตะ” ซึ่งจะส่งผลให้โอสถสภามีกำลังการผลิตรวมสูงถึงกว่า 300 ล้านกระป๋องต่อปี ภายในโรงงานได้มีการใช้เทคโนโลยีการผลิตกระป๋องที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย จะทำให้โอสถสภาสามารถบริหารต้นทุนการผลิตได้ดีขึ้น โดยสายการผลิตนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 /2568
ทั้งนี้ มีเป้าหมายในการเสริมยุทธศาตร์เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศและต่างประเทศ และขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่และเซกเมนต์พรีเมียม เพื่อสร้างการเติบโตในประเทศและในภูมิภาค ตลอดจนตอกย้ำแบรนด์ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง
คุณวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โอสถสภา เผยว่า การขยายไลน์การผลิตดังกล่าวเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคและคนรุ่นใหม่ที่นิยมเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นในรูปแบบกระป๋อง ภายในโรงงานจะเป็นการเตรียมผลิตเครื่องดื่มกระป๋องทั้งแบบอัดคาร์บอเนตและแบบไม่อัดคาร์บอเนต ซึ่งเป็นเทรนด์การเติบโตของเครื่องดื่มในอนาคต
ปัจจุบันโอสถสภาเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศและเป็นผู้นำในภูมิภาค เช่น เมียนมา ลาว และยังจำหน่ายในอีกกว่า 30 ประเทศทั่วโลก มียอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มกว่า 22,000 ล้านบาท โดยมีเครื่องดื่ม “เอ็ม-150” หรือ “มิโซ” ที่ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมและเป็นแบรนด์หลักในการทำตลาด ทำให้แบรนด์สามารถเติบโตในกลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน ที่เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมทั้งตอบโจทย์ในเรื่องของรูปแบบ รสชาติ และภาพลักษณ์ที่น่าดึงดูด กอปรกับการใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencers) อย่าง “พี่จอง-คัลแลน” จึงทำให้เกิดกระแสกระหึ่มโซเชียล
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE