HomeBrand Move !!“สลัดแฟคทอรี่” ส่งโมเดล Compact Store บุกทำเล รพ. รับเทรนด์เฮลตี้มาแรง ตั้งเป้า 3 ปีทำรายได้ทะลุพันล้าน

“สลัดแฟคทอรี่” ส่งโมเดล Compact Store บุกทำเล รพ. รับเทรนด์เฮลตี้มาแรง ตั้งเป้า 3 ปีทำรายได้ทะลุพันล้าน

แชร์ :

ยิ่งนานวันดูเหมือน Healthy Trend หรือเทรนด์การดูแลสุขภาพของคนยุคใหม่ยิ่งมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มทวีคูณ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องล้วนแต่เติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหารสุขภาพที่เติบโตต่อเนื่องตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จนทะยานมูลค่าหลายพันล้านบาท

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

จากผู้เล่นหลักที่มีเพียง 3 ราย จวบจนปัจจุบันร้านอาหารเพื่อสุขภาพมีจำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 20 แบรนด์ตั้งแต่รายเล็ก ไปจนถึงรายใหญ่ ผู้เล่นหน้าเก่าตลอดจนบิ๊กเนมรายใหม่ที่หันมากรุยทางในธุรกิจร้านอาหารสุขภาพมากขึ้น โดยในปี 2566 ตลาดร้านอาหารสุขภาพ มีมูลค่าสูงถึง 4,500 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 30% ต่อปี นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอาหารทั่วไปที่กำลังเผชิญปัจจัยลบในหลายๆด้าน

แม้ตลาดจะมีการแข่งขันจากหลายแบรนด์ร้านอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ทว่าในหลายเมืองไทยกลับมีเชนร้านอาหารสุขภาพที่เป็นที่คุ้นเคยกันดีเพียงไม่กี่แบรนด์ ซึ่งชื่อของ “สลัดแฟคทอรี่” ที่ปัจจุบัน CRG ในเครือเซ็นทรัล ถือหุ้นอยู่ 51% ก็คือหนึ่งในแบรนด์ที่หลายคนคุ้นเคย เพราะด้วยจำนวนสาขาในปัจจุบันที่มีอยู่ 43 สาขา นับว่าเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจร้านอาหารประเภทดังกล่าว

คุณปิยะ ดั่นคุ้ม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรีนฟู้ด แฟคทอรี่ กล่าวว่า “ความยากของการเข้ามาเล่นในตลาดนี้ของผู้เล่นหน้าใหม่คือเรื่องของคอนเซปต์ที่ต้องชัดเจน เพราะด้วยจำนวนผู้เล่นที่มากขึ้น ทำให้ตลาดหดตัวลงมา ไม่ใช่การโตที่ลดลง แต่เป็นการชิงเค้กก้อนเดียวกันจากผู้เล่นหลายรายที่ส่วนแบ่งจะต้องลดลงตามการแข่งขัน ดังนั้นแนวทางการทำตลาดจะต้องมีการสื่อสารแบรนด์มากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า โดยจะต้องมีเรื่องของคุณภาพและคอนเซปต์ที่ชัดเจนเป็นสำคัญ”

 

 

ส่งโมเดลใหม่ Compact Store เจาะทำเลโรงพยาบาลครึ่งปีหลัง (2567) 

หนึ่งในยุทธ์ศาสตร์สำคัญของ “สลัดแฟคทอรี่” คือการใช้จุดแข็งในการขยายสาขาให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุดเฉลี่ยปีละ 9 สาขาต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2567 มีร้านสลัดแฟคทอรี่ 48 สาขา เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ รวมทั้งขยายไปยังทำเลศักยภาพใหม่ ๆ

โดยในช่วงครึ่งปีหลังนับจากนี้มีแผนขยายสาขาทั้งสิ้น 5 สาขา หลังจากต้นปีเปิดไปแล้ว 4 สาขา โดยจะขยายสาขาทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มโดยเฉพาะในทำเลโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นทำเลหลักที่จะโฟกัสนับจากนี้ไป เนื่องจากเป็นทำเลที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่เป็นจำนวนมาก

สำหรับโมเดลหลักที่จะใช้ขยายในทำเลโรงพยาบาล คือโมเดล Compact Store ร้านขนาดกลาง 100-120 ตารางเมตร 40-50 ที่นั่ง เสิร์ฟอาหาร 70-80% จากเมนูที่มีทั้งหมด โดยจะเน้นความสะดวกสบาย ใช้เวลารวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์มากขึ้น รองรับทั้งกลุ่มบุคลากร ผู้มาติดต่อ ตลอดจนญาติผู้ป่วย ฯลฯ

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดโมเดล Compact Store ครั้งแรกเมื่อปี 2564 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  ก่อนที่จะขยายไปโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลเมดพาร์ค และยังมีแผนขยายเข้าไปในโรงพยาบาลพระราม 9 และ โรงพยาบาลวิภาวดีในสิ้นปีนี้อีกด้วย

 

คุณปิยะ ดั่นคุ้ม

คุณปิยะ ดั่นคุ้ม

 

“แม้เราจะโฟกัสไปยังทำเลโรงพยาบาล ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพ แต่ว่ายังเป็นโลเคชันที่หาพื้นที่เช่าได้ไม่ง่ายนัก เพราะส่วนใหญ่พื้นที่รีเทลในโรงพยาบาลค่อนข้างมีจำกัด ทำให้ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าจะมีจำนวนสาขาได้มากน้อยขนาดไหน” 

 

การเปิดโมเดลดังกล่าวทำให้ปัจจุบัน “สลัดแฟคทอรี่” มีการทำตลาดอยู่ทั้งสิ้น 3 โมเดลหลัก ได้แก่

  • โมเดล Full Service Restaurant  โมเดลขนาดใหญ่ จำนวน 60 ที่นั่งขึ้นไป
  • โมเดล Compact Store จำนวน 40-50 ที่นั่ง มีเมมนู 70-80% ของร้านแบบ Full Service Restaurant
  • โมเดล Fresh and Easy  ขนาด 20 ที่นั่ง ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 2 สาขา  ได้แก่ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ และสาขาเซ็นทรัลเวสต์วิลล์

 

ผนึก S-Pure จัด 5 เมนูอกไก่ ต่ออาหารขายดีของร้าน จับ Gen Z

คุณปิยะ ยังบอกอีกว่า “แม้ปัจจุบันสลัดแฟคทอรี่จะเป็นที่รู้จักในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มเป้าหมายครอบครัว และคนทำงานวัย 25 ปีขึ้นไป ส่วนคนรุ่นใหม่ หรือ Gen Z รู้จักเราน้อยมาก หรือหากรู้จักก็จะมองว่าเราคือร้านจำหน่ายสลัด นั่นทำให้เราต้องพัฒนากลยุทธ์ที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งเพื่อขยายฐานคนรุ่นใหม่ และเอาใจลูกค้าเดิม”

นอกจากนี้ยังพัฒนาเมนูใหม่กลุ่มเนื้อสัตว์มากขึ้นด้วย ผ่านแคมเปญพิเศษ “สุข ฉ่ำ เต็มอก” ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์อกไก่ “S-Pure” จากเบทาโกรมาผสานจุดแข็งร่วมกันในการพัฒนาเมนูจากอกไก่ ซึ่ง “อกไก่” ถือเป็นเมนูที่มียอดขายอันดับ 1 ในร้านอยู่แล้วมาต่อยอดเป็นเมนูใหม่ๆร่วมกัน 5 เมนูใหม่ ได้แก่ สเต๊กอกไก่บาร์บีคิวเอสเพียวสับปะรดและพริกหวาน พิซซ่าอกไก่กรอบเอสเพียวฮาวายเอียน สลัดอกไก่กรอบเอสเพียวยูสุผลไม้รวม สเต๊กอกไก่ย่างเอสเพียวซอสทรัฟเฟิลพาร์มีซานชีสและผักโขม และสเต๊กอกไก่ย่างเอสเพียวและซัลซาอโวคาโดผลไม้ จำหน่ายระหว่างวันที่ 8 สิงหาคม – 30 กันยายน 2567 

 

เมนูพิซซ่าอกไก่กรอบเอสเพียวฮาวายเอียน

 

“การเลือกอกไก่นอกจากจะเป็นเมนูขายดีของร้านแล้ว ยังเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสุขภาพและคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็ถือเป็นโปรตีนสูงในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสรรกลยุทธ์เพื่อรองรับการแข่งขันแล้ว ยังเป็นการขยายฐาน Gen Z ให้รู้จักร้านของเรามากกว่าความเป็นสลัดอีกด้วย”

นอกจากนี้ยังมีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ผู้บริโภคเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้สะดวกยิ่ง ขึ้นผ่านแพลตฟอร์มใหม่ ๆ เช่น Shopee และ TikTok เพื่อสร้างการเข้าถึงในหมู่คนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย 

โดยวางเป้าหมายรายได้ในสิ้นปี 2567 ไว้ที่ 750 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 18% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้  593 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจากแผนงานดังข้างต้นยังวางเป้าหมายระยะยาสู่รายได้ 1,000 ล้านบาท ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like