ปัจจุบันบริบทโลกเปลี่ยน เมื่อ “เทคโนโลยี” ทรงอิทธิพลต่อการใช้ชีวิต การเรียนรู้ การทำงาน ขับเคลื่อนธุรกิจต่างๆ เรียกว่าอยู่ในทุกมิติของผู้คน
“ซัมซุง” (Samsung) หนึ่งในยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ดิจิทัลของโลกไม่เพียงพัฒนา สร้างสรรค์สินค้านวัตกรรม นำเทรนด์ ดึงเทคโนโลยีใหม่ๆมาตอบสนองความต้องการ ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค แต่ยังมีอีกภารกิจในการ “บ่มเพาะทรัพยากรมนุษย์” ให้มีความรู้ความสามารถ ทักษะด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล ผ่านการทำกิจกรรมดีๆ เพื่อสังคม
ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี กิจกรรมที่ ‘ซัมซุง’ ขับเคลื่อนเพื่อสังคมจึงมีมากมาย หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับเยาวชนไทย ผ่านโครงการ “Samsung Innovation Campus” หลักสูตรพัฒนาเยาวชนด้านการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ในระดับโลก ที่จะเป็นการเติมทักษะใหม่ได้ทุกที่ ทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน เพื่อสร้างคนเก่งรับโลกแห่งอนาคต รวมถึงมุ่งสานเป้าหมาย “การขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ Thailand 5.0”
สำหรับโครงการ “Samsung Innovation Campus” ได้จัดกิจกรรมภายในโรงเรียนต่างๆ มาแล้วมากกว่า 10 แห่งทั่วประเทศ และปี 2567 “ซัมซุง” ลุยต่อกับ “Samsung Innovation Campus 2024” มุ่งพัฒนาทักษะ ขีดความสามารถพิเศษด้านเทคนิค ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้มีความรอบรู้ของน้องๆระดับมัธยมศึกษา เพื่อก้าวทันโลกเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกด้านเป็นการปูทางโอกาสดีๆ สู่อาชีพที่ดีให้กับน้องๆ
ปี 2567 มีน้องๆ ระดับชั้นมัธยมศึกษาเข้าร่วมโครงการ “Samsung Innovation Campus 2024” มากถึง 7,286 คน โดยโรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ เป็น “ต้นแบบ” ความสำเร็จจากนำความรู้จากโครงการไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เกิดเป็นเรื่องราวความประทับใจจากคุณครูและนักเรียนกว่า 113 คน
คุณมาร์ค คิม ประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ฉายภาพว่า โครงการ Samsung Innovation Campus เป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะส่งเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีให้กับเยาวชนไทย โดยเน้นการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อยกระดับการศึกษาของเยาวชนให้เท่าเทียมกันทั่วประเทศ และเป็นการเตรียมความพร้อม เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้สังคมไทย
การลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ ซัมซุง ให้ความสำคัญไม่แพ้กับการให้ความรู้ด้านเทคโนโลยี ในการลงพื้นที่แต่ละครั้งจะนำเรื่องราวประทับใจต่อยอดสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้เยาวชน เพื่อบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์การเรียนด้านเทคโนโลยี เพราะการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพย่อมนำไปสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น
คุณสุจิตรา โสมนัส คุณครูวิทยาการคำนวณและภาษาอังกฤษ โรงเรียนวัดคลองสวนฯ จังหวัดสมุทรปราการ เล่าว่า กิจกรรมการเรียนการสอนเทคโนโลยีในโครงการจะเริ่มจากเรื่องง่ายๆ รอบตัวเด็ก เพื่อให้เด็กสนใจและเปิดใจในการเรียน ไม่มองว่าเทคโนโลยีเป็นเรื่องไกลตัว แม้ว่าตอนแรกเด็กๆ อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับเรื่องของ A.I. และการเขียนโค้ด แต่พอได้ลองเรียนและทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนในคาบวิชา ICS ที่ซัมซุงเข้ามาพัฒนาหลักสูตรและจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นในการเรียน ทำให้นักเรียนเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีและมีความกระตือรือร้นมากขึ้น
“โครงการ Samsung Innovation Campus มีกระบวนการคิดที่ออกแบบมาให้เด็กสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน เช่น การฝึกภาษาอังกฤษผ่านการคุยกับ A.I. และมีโปรแกรมที่ช่วยให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้นอย่าง ดรีมวีฟเวอร์ (Dreamweaver) เสริมร่วมกับวิชา HTML รวมทั้งเรายังใส่ใจเด็กพิเศษในห้องให้ได้รับความรู้อย่างเหมาะสมตามความสามารถ ซึ่งเห็นได้ว่าเด็กๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น และเข้าใจเนื้อหาเกินครึ่ง”
ช่วงแรกเด็กๆ จะมีความกลัวในการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี เพราะหลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว เข้าไม่ถึง และเข้าใจยาก แต่ด้วยเทคนิคการสอนของโครงการ Samsung Innovation Campus ที่อธิบายอย่างเข้าถึงง่าย จึงทำให้เทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องใกล้ตัว
เพลงรัก-สุวภัทร ทิมทะวงษ์ หนึ่งในนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ บอกว่า เริ่มแรกกลัวและไม่เข้าใจเรื่อง A.I. เมื่อลองเรียน กลับไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งก่อนหน้านี้เรียนอยู่แค่หน้าจอคอม รู้สึกเบื่อ ไม่ค่อยเข้าใจ พอซัมซุงมาพัฒนาการเรียนการสอน ได้ทำงานกลุ่มร่วมกับเพื่อนมากขึ้น จึงรู้สึกสนุก จำเนื้อหาได้มากขึ้น และสามารถใช้ A.I. ช่วยค้นหาข้อมูลเวลาทำการบ้านหรือแปลภาษา ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ ครูใจดีและสอนสนุก เลยทำให้การเรียนเทคโนโลยีเป็นเรื่องสนุกไปด้วย อนาคตต้องการนำเทคโนโลยีที่เรียนไปต่อยอดค้นหาข้อมูล เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และวางแผนในการทำงาน สานฝันสู่การเป็นเภสัชกรเก่ง ๆ
เมธาวี ใจแสน นักเรียนจากโรงเรียนวัดคลองสวนฯ ที่เข้าร่วมโครงการ Samsung Innovation Campus กล่าวเสริมว่า การทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ ไม่เพียงสนุก แต่ทำให้เข้าใจเทคโนโลยีมากขึ้น สามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ A.I. ตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ ใช้วางแผนจัดการตารางเรียนและการอ่านหนังสือ อนาคตจะนำความรู้ด้านเทคโนโลยีมาช่วยในการวิเคราะห์ออกแบบทรงผมให้เข้ากับรูปหน้า ซึ่งเป็นความฝันของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จจากโครงการ Samsung Innovation Campus ถือเป็นแรงผลักดันที่ดีให้เยาวชนไทยได้ยกระดับความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยี เพื่อเปิดมุมมองความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน