กำลังซื้อคนไทยยังไม่แผ่ว แคนนอนเปิดสถิติยอดจอง (และจ่ายเงินแล้ว) ของกล้องระดับ Flagship อย่าง EOS R1 พบทะลุ 100 ตัว (ราคา 235,900 บาท) และ EOS R5 Mark II ทะลุ 200 ตัว (ราคาเฉพาะกล้อง 147,900 บาท) คาดครึ่งปีหลังเติบโตได้อีกจากกระแสความนิยมในการเป็น Content Creator ของคนไทยที่เพิ่มสูง ประกาศอัดความสามารถ AI ตอบโจทย์มือโปร
การเติบโตดังกล่าวได้รับการเปิดเผยจากคุณเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชัน บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด โดยระบุว่า ปัจจุบัน แคนนอนมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมิเรอร์เลส EOS R ทั้งสิ้น 14 รุ่น (ตั้งแต่ระดับเริ่มต้น – ระดับมืออาชีพ) และในครึ่งปีหลัง ทางบริษัทได้มีการเปิดตัวกล้องระดับ Flagship สองรุ่นได้แก่ EOS R1 และ EOS R5 Mark II ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และมีการเพิ่มฟีเจอร์ AI ในหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค เช่น
- การลด Noise โดยใช้ Neural Network ที่สามารถลดได้พร้อมกันทีละหลาย ๆ ภาพ
- การจดจำใบหน้าคนในภาพได้
- การให้ความสำคัญกับ Action ในภาพ (สำหรับโหมดการถ่ายภาพกีฬา เช่น บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล และฟุตบอล ที่การโฟกัสของกล้องจะให้ความสำคัญกับลูกบอลร่วมด้วย)
- ความสามารถในการปรับชัตเตอร์ตามที่เจ้าของกล้องกำหนดได้เอง
- การถ่ายภาพแบบ Dual Shooting ที่สามารถถ่ายคลิปแบบ Full HD พร้อม ๆ กับถ่ายภาพนิ่งได้ (ภาพนิ่งความละเอียด 17.8MB)
“AI – กีฬา – คอนเทนต์ครีเอเตอร์” 3 กลยุทธ์เติบโต
สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดในครึ่งปีหลัง คุณเนตรนรินทร์เผยว่า นอกจากเน้นเรื่องฟีเจอร์ AI (มาจากการทำสำรวจความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลก) ให้กับกล้องแล้ว ยังมีการโปรโมตผ่านกีฬา – การท่องเที่ยวร่วมด้วย เช่น การเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอลไทยลึกอย่าง Bangkok United นั่นเอง
ส่วนด้านกำลังซื้อที่หลายอุตสาหกรรมอาจกำลังประสบปัญหานั้น ในมุมของแคนนอน คุณเนตรนรินทร์ เผยว่า บริษัทพอใจกับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก ที่พบว่ามีการเติบโตขึ้นของทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มกล้องมิเรอร์เลส ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเทรนด์ผู้บริโภคที่นิยมกล้องชนิดดังกล่าวมากขึ้น เพราะความสะดวกในการพกพา นอกจากนั้นยังพบว่า การที่คนไทยจำนวนมากต้องการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น TikTok ก็มีส่วนผลักดันยอดขายให้เติบโตด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ แคนนอนยังได้กล่าวถึงตัวเลขในภาพรวมของปีนี้ด้วยว่า ตั้งเป้าการเติบโตไว้ที่ 10% ส่วนยอดจำหน่ายกล้องตั้งไว้ที่ 90,000 ตัว หรือคิดเป็นมูลค่าตลาดที่ 3,000 ล้านบาท