ดับบลิวเอชเอ ยักษ์ใหญ่ในวงการนิคมอุตสาหกรรม พลังงาน และโลจิสติกส์ เปิดตัวธุรกิจใหม่ Mobilix บริการเช่ารถ EV ขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมสถานีชาร์จไฟฟ้า และซอฟต์แวร์เพื่อบริหารจัดการ ตอบโจทย์นักลงทุน เริ่มต้น 300 คันในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ EEC รับเทรนด์ กรีนโลจิสติกส์ ผู้บริหารเผย ปีแรกก็กำไรแล้ว 10 ล้านบาท ตั้งเป้ามีรถให้บริการ 10,000 คันภายใน 3 ปี
ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA Group ในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ และสร้างธุรกิจใหม่อย่าง Mobilix เพื่อตอบสนองความต้องการของนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องเดินหน้าสู่ Green Logistics โดยสิ่งที่ Mobilix ให้บริการ ประกอบด้วย
- บริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV Rental Service) เป็นบริการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร พร้อมแผนการบำรุงรักษาที่ออกแบบมาสำหรับการใช้ยานพาหนะของบริษัทหรือองค์กรโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสภาพรถอย่างสม่ำเสมอ การอัปเดตซอฟต์แวร์ และการบริการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้มีลูกค้าใช้บริการเช่าแล้วกว่า 321 คัน ครอบคลุมทั้งรถกระบะ รถบรรทุก รถยนต์โดยสารและจักรยานยนต์ไฟฟ้า
- สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (On Premise & Public EV Charging Solution) บริการเครื่องชาร์จและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ ซึ่งรองรับการให้บริการภายในสถานีของลูกค้า รวมทั้งให้บริการจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ครอบคลุมเส้นทางหลักทั่วประเทศไทย โดยให้บริการครบวงจรตั้งแต่การติดตั้ง บริการหลังการขาย และการบำรุงรักษา เพื่อให้การใช้งานของลูกค้าเป็นไปอย่างสะดวก
- Mobilix Software Solution แพลตฟอร์มสำหรับจัดการรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ สามารถตรวจสอบตำแหน่งของยานพาหนะ วิเคราะห์สภาพรถยนต์และแบตเตอรี่ได้แบบเรียลไทม์เพื่อการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ และสามารถวิเคราะห์รูปแบบการขับรถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมโยงผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทุกคันเข้ากับเครือข่ายสถานีชาร์จ โดยผู้ใช้สามารถตรวจสอบตำแหน่งสถานที่ของจุดชาร์จ จองเวลาการชาร์จ และบันทึกข้อมูลการชาร์จได้
สำหรับแพลตฟอร์ม Mobilix เป็นผลงานการพัฒนาของทีมงานภายในของ WHA ซึ่งปัจจุบันมีรถ EV ขนาดใหญ่หลายประเภทให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นหัวรถลากขนาดใหญ่ รถโดยสาร ซึ่งมีตั้งแต่ขนาด 2 ล้อ 4 ล้อ และ 6 ล้อ
ส่วนลูกค้า ประกอบด้วย บริษัทภายในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA ที่ต้องการเช่ารถเพื่อใช้ในบริษัท (เช่น ขนส่งสินค้า – รับส่งพนักงานภายในนิคมอุตสาหกรรม) ตลอดจนผู้เช่าภายนอก
ทั้งนี้ ทางบริษัทเริ่มต้นการให้บริการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ด้วยรถจำนวน 321 คัน และตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนรถเป็น 10,000 คันภายใน 3 ปี
เปิดตัวหนึ่งปี กำไรแล้วหลักสิบล้านบาท
คุณนันท์ศิลป์ เจนวารินทร์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล จำกัด และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความน่าสนใจของแพลตฟอร์ม Mobilix ว่า สามารถบริหารจัดการรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ของรถได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงสามารถลดต้นทุน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้กับบริษัทได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วย
“ในส่วนของแอปพลิเคชัน Mobilix พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างรถ EV เช่น ตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ว่าก่อนให้เช่า ประสิทธิภาพแบตเตอรี่เป็นอย่างไร หลังจากครบสัญญา 5 ปี แบตเตอรี่เป็นอย่างไร เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่ารถขนส่งสินค้าจะต่างจาก Passenger car เพราะจะมีการวางเส้นทางที่ชัดเจนในแต่ละวัน การมีแอปพลิเคชัน Mobilix จะช่วยให้บริษัทสามารถบริหารจัดการการขนส่งได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น หากพบว่าแบตเตอรี่ของรถ EV ใกล้จะหมด จะมีการจองสถานีชาร์จไว้ล่วงหน้า ทำให้การขนส่งไม่หยุดชะงัก”
ด้านคุณชัยรินทร์ เนติพีระพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงบริการ Mobilix ว่า โลจิสติกส์เป็นภาคส่วนสำคัญของการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ ซึ่งหลังจากเปิดตัวแพลตฟอร์มแล้ว จะมีการจับมือกับภาครัฐและเอกชนในการสร้างเครือข่ายพันธมิตรสีเขียว (Green Partnership) ต่อไปด้วย
ฐานรากธุรกิจต้องแข็งแรงก่อน จึงจะปรับใช้เทคโนโลยี
ทั้งนี้ คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริ
“การทำ Digital Transformation สิ่งที่ยากที่สุดคือการเปลี่ยน Mindset ของคนในองค์กร เมื่อปี 2017 ลูกน้องเราเริ่มกังวลว่า เราจะโดน Digital Disruption ไหม ซึ่งพี่ตอบว่า ธุรกิจ Infrastructure เหล่านี้ไม่โดน Disrupt หรอก แต่ถ้าเราอยู่นิ่ง ๆ เราจะโตแบบ Linear แต่ถ้าเรานำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เราจะโตแบบ Exponential”
“พี่จะพูดเสมอว่า การนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ เราต้องมี Infrastructure ที่พร้อมก่อน เพราะถ้าคุณมีแต่เทคโนโลยีอย่างเดียว คุณจะเจอกับ Bubble เนื่องจากคุณไม่มีฐานอะไรมารองรับ แต่ WHA เราพร้อมเพราะเรามีฐานอย่างนิคมอุตสาหกรรมเตรียมไว้แล้ว และนั่นทำให้ WHA สามารถรองรับลูกค้าระดับโลกได้หมดเลย”