HomePR Newsไวทัลไลฟ์ ในเครือบำรุงราษฎร์ ปรับโฉมใหม่สู่ “ศูนย์กลางสุขภาพแห่งอนาคต”

ไวทัลไลฟ์ ในเครือบำรุงราษฎร์ ปรับโฉมใหม่สู่ “ศูนย์กลางสุขภาพแห่งอนาคต”

แชร์ :

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพและต้องการมีอายุยืนยาวขึ้น เวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว (Longevity Medicine) นับเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายทั่วโลก สถิติหลายแห่งได้เผยให้เห็นว่า คนทั่วโลกมีอายุขัยเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ไปจนถึงวัยชรา

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ดร. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ Chief Executive Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ Executive Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ได้เปิดเผยถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรมสุขภาพทั่วโลก (The Global Health and Wellness Industry) จากข้อมูลการวิจัยของ New Global Wellness Institute ระบุว่า มีมูลค่า 5.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตขึ้นเป็น 8.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2027 และมีอัตราเติบโตเพิ่มสูงขึ้นถึง 40% หากเทียบกับปี 2023

ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ (VitalLife Scientific Wellness Center) ภายใต้การนำทีมของ ผศ.นพ. พลกฤต ทีฆคีรีกุล Chief Executive Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ และ Chief Science Officer โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์และศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ จึงนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI มาการสร้างการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลเพื่อให้ผู้คนมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพอย่างยั่งยืน

รวมถึงการปรับรูปโฉมใหม่ของไวทัลไลฟ์และการให้บริการแบบบูรณาการครอบคลุมทุกมิติ โดยย้ายมาที่ตึก D ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ภายใต้การออกแบบที่หรูหราและทันสมัย อีกทั้งยังได้ปรับทัพทีมผู้บริหารและทีมแพทย์เพื่อให้สอดรับการเติบโตด้านเวชศาสตร์การมีอายุยืนยาว ซึ่งเป็นเมกะเทรนด์ทางการแพทย์

ซีอีโอและทีมผู้บริหารไวทัลไลฟ์

หัวใจสำคัญของไวทัลไลฟ์ คือ การมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) นวัตกรรมในห้องปฏิบัติการ (Lab Innovation) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล ผลการตรวจวิเคราะห์ที่แม่นยำและรวดเร็วจากเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้งานในห้องปฏิบัติการ ซึ่งได้รับการรับรองจากวิทยาลัยพยาธิแพทย์อเมริกัน (College of American Pathologists: CAP) ช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและวางแผนการรักษาของผู้รับบริการแต่ละบุคคลได้อย่างตรงจุด

2) การบูรณาการ AI (AI Integration) ด้วยการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพจำนวนมหาศาลหรือการวินิจฉัยโรคที่มีความซับซ้อนทางชีวเคมี เช่น โรคมะเร็ง และโรคทางระบบประสาทได้อย่างครอบคลุม ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาโรคได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น และ

3) นวัตกรรมแห่งความร่วมมือ (Collaborative Innovation) โดยผนวกจุดแข็งในด้านนวัตกรรมในห้องปฏิบัติการเข้ากับความเป็นเลิศทางคลินิกของบำรุงราษฎร์ ทำให้เกิดกระบวนการการวินิจฉัยและการวางแผนการดูแลสุขภาพที่ไร้รอยต่อ

นพ. สุธี ศิริเวชฎารักษ์ Chief Administrative Officer ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์และเอสเพอรานซ์ กล่าวว่า การมีอายุยืนยาวไม่ใช่เพียงแค่การมีชีวิตอยู่ให้นาน แต่หมายถึงการมีสุขภาพที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกช่วงอายุ ไวทัลไลฟ์ให้ความสำคัญกับการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสาเหตุของความชรา เพื่อนำมาพัฒนาแนวทางการดูแลสุขภาพที่สามารถชะลอกระบวนการชรา และช่วยให้ทุกคนมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพที่ดี

จากงานวิจัยและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้มี 12 สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่วัยชรา เช่น การกลายพันธุ์ของ DNA ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดเนื้องอกและโรคมะเร็งตามอายุ การสูญเสียความสมดุลของการควบคุมการผลิตและทำลายโปรตีนในเซลล์ ซึ่งจะส่งต่อความผิดปกติของระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน รวมถึงการตอบสนองต่อสารอาหารผิดปกติ นำไปสู่ภาวะผิดปกติของระบบเผาผลาญ ส่งผลต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เป็นต้น

ขณะที่ พญ. สุวรรณา สุวรรณพงษ์ Program Director ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ กล่าวปิดท้ายถึงการพัฒนาของไวทัลไลฟ์ว่า มาจากการออกแบบพัฒนาและกลั่นกรองมานานหลายปี จนเป็น ‘โปรแกรมการดูแลสุขภาพของไวทัลไลฟ์’ โดยได้นำเทคโนโลยีขั้นสูงและข้อมูลเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้เข้ารับบริการมีอายุยืนยาวอย่างมีคุณภาพ โปรแกรมนี้เน้นการประเมินสุขภาพเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคล ผ่านการตรวจสุขภาพที่ครอบคลุม รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมและชีวภาพต่าง ๆ เพื่อสร้างแผนการดูแลสุขภาพที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคนได้นั่นเอง


แชร์ :

You may also like