ในยุคที่ Collaboration เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดยอดนิยมของหลายแบรนด์ดังทั่วโลก ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้แก่ผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างการประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้แก่ผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการขยายฐานลูกค้าร่วมกันระหว่างแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
อีกหนึ่งการ Collaboration ที่น่าจับตาคือ “เบอร์เกอร์คิง X Carnival” การจับมือกันแบบข้ามห้วยระหว่าง “เบอร์เกอร์คิง” (Burger King) ในฐานะผู้นำตลาดเบอร์เกอร์สัญชาติอเมริกัน และ “คาร์นิวาล” (Carnival) แบรนด์สตรีทแฟชั่นสัญชาติไทยที่ดังไกลระดับโลก เปิดตัวแคมเปญ “BURGER KING MEETS CARNIVAL” มีเป้าหมายในการเจาะตลาดเจนใหม่ สร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านอินไซต์ผู้บริโภคตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สายตรีทและคนรักแฟชั่น
การจับมือกันครั้งนี้เป็นดึงเอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ออกมาในการนำเสนอ ผ่านผลิตภัณฑ์หลักของทั้ง 2 แบรนด์ ทั้ง “กลุ่มอาหาร” และ “แฟชั่น” เริ่มจากการเปลี่ยนร้าน CARNIVAL ใจกลางสยามสแควร์ ซอย 7 ให้กลายเป็นพื้นที่ปลดปล่อยไอเดียและการสร้างสรรค์ผลงานของ 2 แบรนด์ระดับโลกที่โคจรมาพบกันครั้งแรก เน้นเข้าถึงง่ายแต่ยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับคอนเซ็ปต์ Exhibition Journey ตั้งแต่วันที่ 14-23 กันยายน 2567
มาพร้อมไฮไลต์การเปิดตัวสินค้า Cross Brand ตั้งแต่การออกแบบเครื่องแต่งกายคอลเลกชันลิมิเต็ด อิดิชั่น ไปจนถึงเมนูเบอร์เกอร์ที่ผสานแนวคิดการตลาดแนวใหม่สไตล์เบอร์เกอร์คิง เพื่อสร้างความแตกต่าง โดยยังคงคอนเซ็ปต์ผู้นำเทรนด์กระแสไวรัลที่สร้างสีสันให้กับตลาดอาหารอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังสร้างสีสันให้กับวงการแฟชั่น ด้วยการออกคอลเลกชันเครื่องแต่งกายลิมิเต็ดอิดิชัน อาทิ เสื้อยืด กางเกง เสื้อกันหนาว และหมวก ที่ได้นำสี CI ประจำแบรนด์ รวมถึงคาแร็กเตอร์สนุกสนานโดดเด่นและทันสมัยของเบอร์เกอร์คิง มาเป็นองค์ประกอบหลักสำหรับการดีไซน์ โดยเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 14 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
“Spicy & Crispy Carnival Burge” เบอร์เกอร์ที่เชื่อมโยงเอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์เข้าด้วยกัน
ขณะที่ฝั่ง “เบอร์เกอร์คิง” จะเป็นการเปิดตัวเมนูเบอร์ใหม่อย่าง “Spicy & Crispy Carnival Burger” ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเชื่อมโยงเอกลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ผสมผสานระหว่างความอร่อยของเบอร์เกอร์และความสนุกสนานของแฟชั่นสตรีท ด้วยคอนเซปต์ “ลิ้นไทยต้องรสไทยแท้” กับขนมปังเบอร์เกอร์หนานุ่ม สอดไส้เนื้อหมูหรือเนื้อวัว เพิ่มความร้อนแรงด้วยซอสแจ่วสไตล์ไทย เสริมความกลมกล่อมด้วยมายองเนสและชีสเยิ้ม ๆ พร้อมหอมแดงเจียวเคี้ยวเพลิน ในราคา 99 บาท โดยวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน –15 ตุลาคม 2567 ณ ร้านเบอร์เกอร์คิง ทุกสาขาทั่วประเทศไทย (ยกเว้นสาขาท่าอากาศยานและสาขาท่องเที่ยว)
คุณชนินทร์ นาคะรัตนากร ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดดิจิทัล บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาร้านเบอร์เกอร์คิงมีสัดส่วนลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยรุ่น โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Gen Alpha เพิ่มขึ้นถึง 15% ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงและมีบทบาทสำคัญ ต่อการเติบโตของแบรนด์ในอนาคต ทำให้เบอร์เกอร์คิงมีการมุ่งเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ผ่านการออกเมนูที่หลากหลายในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งจะสะท้อนคาแรกเตอร์ของแบรนด์ที่สนุกสนาน กวน ๆ และเป็นมิตร ซึ่งสร้างความใกล้ชิดกับกลุ่มวัยรุ่นได้อย่างดี ทั้งยังทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
การจับมือกันครั้งนี้จึง เป็นการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมกลุ่มวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการร่วมมือกับ คาร์นิวาล (Carnival) ร้านจำหน่ายสินค้าแฟชั่นแนวสตรีทมัลติแบรนด์สัญชาติไทย ที่นอกจากจะได้รับความนิยมในกลุ่มคนนิวเจนและเหล่าแฟชั่นนิสตา ยังโด่งดังด้วยผลงานการคอลแลบกับแบรนด์ระดับโลกมากมาย
“คาร์นิวาลและเบอร์เกอร์คิงมีฐานกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึงสอดคล้องกัน โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทั้งสองแบรนด์ในการขยายฐานลูกค้าเป้าหมายให้กว้างขึ้น และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ อีกทั้งยังสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ ให้กับลูกค้าปัจจุบัน ผ่านการผสมผสานจุดเด่นที่แตกต่างของทั้งสองแบรนด์อย่างลงตัว”
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน “เบอร์เกอร์คิง” มีทั้งหมด 226 สาขา (ไม่รวมสาขาในสนามบิน) แบ่งเป็น 80% ในเเขตกรุงเทพฯ และ 20% ในเขตหัวเมืองใหญ่ อาทิ โคราช พัทยา ฯลฯ ซึ่งจากการทำแคมเปญครั้งนี้ ทางเบอร์เกอร์คิงตั้งเป้าว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะวัยรุ่น และคาดว่าจะช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์เบอร์เกอร์คิงในวงกว้างมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขับเคลื่อนการเติบโต ในช่วงไตรมาสสุดท้ายโดยจะเน้นไปที่การเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ราว 40% และกลายเป็นแบรนด์ที่เข้าใจ เข้าถึงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE