นับว่าสร้างปรากฏการณ์อีกรอบ หลังจาก “เดนทิสเต้” ผลิตภัณฑ์ดูแลสัญชาติไทยคว้าตัว ‘ลิซ่า – ลลิษา มโนบาล’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ครั้งที่ 3 อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำ Brand Purpose ที่เชื่อว่า “Your Best Moment”
เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เล่าถึง เมื่อครั้งที่เขาตัดสินใจติดต่อเพื่อร่วมงานกับลิซ่า โดยระบุว่า พาร์ทเนอร์ที่เกาหลีเชื่อว่าเดนทิสเต้ เป็นแบรนด์ระดับพรีเมี่ยม คนมีกำลังซื้อ 90% ใช้เดนทิสเต้ ส่วน ดร.แสงสุข เอง เมื่อเห็นลิซ่าขึ้นปกนิตยสารหลายฉบับ รวมทั้งเห็นคลิปที่แสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มของลิซ่า เขาก็ตัดสินใจได้ทันที
“ผมดูคลิปหนึ่งแล้วผมตัดสินใจเลย แล้วผมเห็นเลยว่า รอยยิ้มที่มั่นใจกับไม่มั่นใจ มันแตกต่างกัน” เจ้าของแบรนด์เดนทิสเต้ กล่าว
รวมทั้งเหตุผลที่ยังคงเลือกลิซ่า เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างต่อเนื่อง หลังจากร่วมงานกันครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2564 ก็ด้วยชื่อเสียงของลิซ่าที่เป็นคนไทยแต่โด่งดังได้รับการยอมรับในระดับสากล สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของเดนทิสเต้ แบรนด์ไทยที่ต้องการก้าวขึ้นสู่ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนทั่วโลก นั่นทำให้ที่ผ่านมานับตั้งแต่ร่วมงานกับลิซ่า เดนทิสเต้มียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 50-100% ที่ ดร.แสงสุข ให้ความสำคัญยิ่งกว่าก็คือ มูลค่าแบรนด์ที่มีเพิ่มขึ้น 3 เท่า โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่และ Gen Z
สำหรับการต่อสัญญาในครั้งนี้ที่ทางเดนทิสเต้ รอคอยมากว่า 1 ปี เพื่อให้ลิซ่าจัดการเรื่องสัญญาของตัวเองให้เรียบร้อยก่อน และทางเดนทิสเต้ก็พร้อมทำงานร่วมกับลิซ่าต่อไป โดยทาง ดร.แสงสุข เล่าว่า
“การทำงานตอนที่ลิซ่าอยู่ YG เกาหลีนี่เขามีความเป๊ะมาก เริ่มงานตอนเช้าๆ บ่ายสาม หรือสี่โมงก็เสร็จแล้ว หน้าแบบไหน หันแบบไหน ยิ้มแบบไหน เขาวางมาหมดแล้ว ก็จะมีความรวดเร็ว แต่พอลิซ่าเขาเป็น Lady Boss ของค่ายตัวเอง เขาก็ใส่ใจ รายละเอียดเยอะมาก ถ่ายถึงตีหนึ่งยังไม่เสร็จ เขาเลือกช็อตที่ดีที่สุด แล้วเขาน่ารักมาก มีความพิถีพิถัน”
ถ่ายในภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้ ถ่ายทอดเรื่องราวของ ลิซ่า ที่เป็น Lady Boss กิจวัตรประจำวันมีทั้งการพบปะแฟนคลับ สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็ต้องทำงานเบื้องหลัง เติบโต ตัดสินใจด้วยตัวเองมากขึ้น โดยทั้งหมดนี้ มีรอยยิ้มที่มั่นใจอยู่คู่กับเธอในทุกๆ ที่
หลังจากต่อแคมเปญการตลาด The New Chapter : Dentiste’ x The Power of Lisa’s Confident Smile เผยแพร่ ทางเดนทิสเต้ คาดหวังว่า จะช่วยดันยอดขายเพิ่มขึ้น “เท่าตัว” ได้อีกครั้ง และคาดหวัง การเติบโตในตลาดกว่า 20 ประเทศที่จำหน่าย ขณะเดียวกัน จากเดิมที่การสื่อสารของเดนทิสเต้ ที่มักจะสื่อสารคุณสมบัติของสินค้าผ่าน “คู่รัก” ด้วย Pain Point ที่แบคทีเรียในช่องปากจะเติบโตในเวลากลางคืน จนทำให้คู่รักไม่กล้าเอ่ยปากทักทายกันในยามเช้า จนเป็นที่มาของการเล่าเรื่องผ่านดาราคู่รักหลายคู่
แต่เมื่อเดนทิสเต้ ต้องการจับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมที่ใช้ Tagline ว่า Healthy Relation จึงพัฒนาขึ้นเป็น Your Best Moment ซึ่งครอบคลุมมากกว่า รวมทัังนำเอาความมั่นใจ สดใส และตัวตนของลิซ่ามานำเสนอ ผสานกับการที่ลิซ่าก็เป็นคนไทย จึงมีช็อตที่พร้อมโชว์ Soft Power ผ่านสารพัดเมนูอาหารไทย เช่น พะแนงหมู ต้มยำกุ้ง น้ำแข็งไส ก่อนที่จะใช้ สเปรย์ระงับกลิ่นปาก ซึ่งขยายไลน์สินค้าจากเดิมที่ลิซ่าเป็นตัวแทนในกลุ่มยาสีฟัน แต่ในปีนี้จะมีสินค้าอื่นๆ เข้ามาด้วย
ดร.แสงสุข ผู้ก่อตั้งแบรนด์ เดนทิสเต้ และ สมูท อี ซึ่งในตอนนี้ เขาบอกว่า เขามีอาชีพหลักสอนหนังสือ ที่สถาบัน IESA ของเขาเองกล่าวทิ้งท้ายว่า
“การขายสินค้าในปัจจุบันไม่ใช่พูดแค่เรื่องคุณสมบัติอย่างเดียว แต่ต้อง Talk Functional Emotionally แล้วแบรนด์ของคุณถึงจะยั่งยืน หลายครั้งการใช้พรีเซนเตอร์อาจจะทำให้ยอดขายพุ่ง 300% แต่ถ้าปีต่อมาตกลงมาเท่าเดิม แบบนี้ไม่ดี แบรนด์ของผมจะเน้นไปที่กลุ่ม Niche ดังนั้นเราก็จะเข้าไปเจาะตลาดต่างๆ แบบ Niche ค่อยๆ เข้าไปในกลุ่มพรีเมียม และเราขอไปแบบยั่งยืน ยอดขายเติบโตเรื่อยๆ รวมทั้งมีผลกำไรที่ดี“