HomePR NewsGAC AION เปิดตัวยานยนต์แห่งอนาคต HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ เน้นความหรูหราเหนือระดับ และเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ [PR]

GAC AION เปิดตัวยานยนต์แห่งอนาคต HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ เน้นความหรูหราเหนือระดับ และเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ [PR]

แชร์ :

GAC AION สร้างความตื่นเต้นครั้งยิ่งใหญ่ในประเทศไทย เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ เน้นความหรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูง ที่ผสานเข้ากับการออกแบบและการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยจุดเด่น 5 ด้านของตัวรถ ได้แก่ HYPTEC Design, HYPTEC Space, HYPTEC Smart, HYPTEC Energy และ HYPTEC Performance พร้อมลงสู้ศึกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอความหรูหราเหนือระดับและเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมยานยนต์

 คุณ โอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล เซลส์ (ประเทศไทย) และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอออน ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ GAC AION ได้มีการแนะนำแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ Hyper อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัว Hyper HT รถยนต์เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ที่หลายคนรอคอย ในงาน Motor Show 2024 ครั้งที่ 45 ที่ผ่านมา ได้มีกระแสตอบรับแรงเกินคาดมีประชาชนให้ความสนใจ Hyper HT อย่างล้นหลาม เนื่องจาก Hyper (ไฮเปอร์) เป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ (Hi-End) ของ GAC AION ที่ตอบสนองความต้องการในกลุ่มลูกค้าผู้หลงใหลความเป็นที่สุด ทั้งความหรูหรา เทคโนโลยี และสมรรถนะขั้นสูง สะท้อนภาพลักษณ์ และรสนิยมอย่างเหนือชั้น ผ่านการคิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ดีที่สุด

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ล่าสุด HYPER แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับไฮเอนด์ ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่เป็น HYPTEC และไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนชื่อแบรนด์เท่านั้น แต่เป็นการปรับปรุงภาพลักษณ์และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ครอบคลุมมากขึ้น สะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีล้ำสมัยและการขยายตัวในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ โดยการเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก HYPER เป็น HYPTEC เกิดจากการศึกษาวิจัยตลาดและความต้องการของลูกค้าทั่วโลกอย่างละเอียดลึกซึ้ง ชื่อ “HYPTEC” ถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่ โดยชื่อแบรนด์ HYPTEC มีที่มาจาก “Hyper” สื่อถึงความสุดยอดและความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และ “Technology” สื่อถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่หรูหรา แต่ยังล้ำหน้าด้วยคุณสมบัติทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่โดดเด่น

คุณ พอนตุส ฟอนเทอุส (Pontus Fontaeus) ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ GAC Advanced Design Los Angeles และผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ HYPTEC ได้กล่าวว่า ปรัชญาการออกแบบของ HYPTEC เริ่มต้นจากหลักปรัชญาการออกแบบ Human-Machine Symbiotic Aesthetics ที่มุ่งเน้นการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีอัจฉริยะ และธรรมชาติอย่างลงตัว ในยุคที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เรามุ่งหวังที่จะมอบประสบการณ์ที่น่าทึ่งให้แก่ผู้ใช้ ด้วยการออกแบบภายในที่ทันสมัยและเรียบง่าย สะท้อนถึงบรรยากาศที่หรูหราของการเดินทางระดับเฟิร์สคลาส และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่สะดวกสบาย

คุณ สวี่เจ้าหยู่ (Xu Zhaoyu) ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ ได้กล่าวว่า HYPTEC HT ถูกพัฒนาขึ้นด้วย 5 แกนหลักสำคัญ ได้แก่ HYPTEC Design, HYPTEC Space, HYPTEC Smart, HYPTEC Energy และ HYPTEC Performance ที่เป็นการผสมผสานความสวยงามทางด้านดีไซน์, พื้นที่ภายในห้องโดยสาร, เทคโนโลยีอัจฉริยะ, การจัดการพลังงาน และสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม รวมกันไว้ใน HYPTEC HT เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับลูกค้า ทำให้ทุกคนหลงใหลในทุกการขับขี่ พร้อมเป็นเพื่อนคุณในทุกเส้นทาง

HYPTEC HT เอสยูวีไฟฟ้าลักซ์ชัวรี่ระดับไฮเอนด์ เปิดตัวทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่

  • HYPTEC HT 620 Premium ราคาจำหน่าย 1,449,000 บาท
  • HYPTEC HT 620 Luxury (ประตูปีกนก) ราคาจำหน่าย 1,749,000 บาท

คุณ โอเชี่ยน หม่า (Ocean Ma) ยังได้กล่าวอีกว่า “GAC AION ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบพลังงานควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่ เราทำงานร่วมกับ GAC Energy โดยตั้งเป้าสร้างสถานีชาร์จ 25 แห่งในปีนี้ และสร้างเครือข่ายสถานีชาร์จภายในรัศมี 15 กิโลเมตรทั่วกรุงเทพฯ”

“ภายในปี 2570 เราวางแผนจะสร้างสถานีชาร์จให้ครอบคลุม 100 เมืองทั่วประเทศ เป็นจำนวน 200 แห่ง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า AION และ HYPTEC จะได้รับความสะดวกสบายในการชาร์จไฟฟ้า ในด้านการพัฒนาบุคลากร เราได้เพิ่มจำนวนพนักงานในประเทศไทยถึง 12.6 เท่า จากช่วงเริ่มต้น และได้สนับสนุนการสร้างงานในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง”


แชร์ :

You may also like