แบรนด์ญี่ปุ่นถึงคราวต้องหลุดจากประเทศที่อยู่ในซัพพลายเชนของการผลิตไอโฟน โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ แอปเปิล (Apple) ผู้ผลิตไอโฟน สมาร์ทโฟนชื่อก้องออกมาส่งสัญญาณว่า จะเปลี่ยนไปใช้หน้าจอ OLED ในโทรศัพท์มือถือ iPhone SE รุ่นที่จะเปิดตัวในปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งข้อมูลนี้คือการส่งสัญญาณกลาย ๆ ว่า บริษัทผู้ผลิตหน้าจอสัญชาติญี่ปุ่นอย่างชาร์ป (Sharp) และ Japan Display ซึ่งเป็นผู้ผลิตจอ LCD ป้อนให้กับแอปเปิลจะไม่อยู่ในซัพพลายเชนของแอปเปิลอีกต่อไปแล้วนั่นเอง
การเปลี่ยนแปลงนี้มีขึ้น พร้อม ๆ กับการประกาศว่า iPhone SE เจเนอเรชันถัดไปนั้น จะเปลี่ยนไปใช้หน้าจอ OLED ของผู้ผลิตสัญชาติเกาหลีใต้อย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (Samsung Electronics) และแอลจี ดิสเพลย์ (LG Display) รวมถึงค่ายจีนอย่าง BOE Technology Group
ส่วน Japan Display และ Sharp จะกลับเข้าไปแข่งขันได้หรือไม่นั้น รายงานจาก Nikkei Asian Review ระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นทั้งสองรายไม่ได้เป็นผู้ผลิตหน้าจอ OLED สำหรับสมาร์ทโฟนในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด ซึ่งทำให้โอกาสในการแข่งขันกับแบรนด์เกาหลีเท่ากับศูนย์ไปโดยปริยาย
อย่างไรก็ดี หากย้อนอดีตในส่วนของ Sharp เชื่อว่าหลายคนยังจำกันได้กับการเป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องตลาด LCD และมีการผลิตจอ LCD เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย เช่น เครื่องคิดเลข ที่สามารถทำตลาดมาตั้งแต่ปี 1970 ก่อนจะพัฒนาสู่หน้าจอโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์พีซี และโทรทัศน์ โดยอาจกล่าวได้ว่า ในยุค’90 แบรนด์ญี่ปุ่นครองตลาด LCD ทั่วโลกเอาไว้เป็นส่วนใหญ่
แต่หลังจากปี 2000 เป็นต้นมา ตลาดหน้าจอเริ่มเปลี่ยนไป โดยผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับขนาดมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ญี่ปุ่นจึงเริ่มเสียคะแนนนิยมให้กับผู้ผลิตหน้าจอจากเกาหลีและไต้หวันที่เน้นผลิตหน้าจอขนาดใหญ่ไปในที่สุด ซึ่งในเวลานั้น บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นเลือกที่จะปรับตัวด้วยการบุกตลาดหน้าจอขนาดกลาง และเล็กแทน เช่น หน้าจอสำหรับตู้เอทีเอ็มของสถาบันการเงิน ฯลฯ โดยเน้นความสามารถในการประหยัดพลังงานเป็นตัวชูโรง
ส่วน Japan Display (เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 จากการจับมือกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ในเวลานั้นของญี่ปุ่น ได้แก่ โตชิบา ฮิตาชิ และโซนี่ เพื่อลงทุนในการผลิตจอ LCD) พบว่าในปี 2023 รายได้จากตลาดสมาร์ทโฟน ไม่ใช่รายได้หลักของบริษัทอีกต่อไป โดยปัจจุบัน บริษัทหันไปโฟกัสที่ตลาดอุปกรณ์ Wearable และหน้าจอในรถยนต์เป็นหลัก ขณะที่ Sharp พบว่า บริษัทเน้นการทำตลาดหน้าจอขนาดกลางสำหรับคอมพิวเตอร์พีซีและแท็บเล็ตแทนแล้วเป็นส่วนใหญ่