ที่ผ่านมาคนไทยรู้จัก “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” (Krungsri Consumer) ในฐานะแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยครึ่งปีแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา ก็เติบโตอย่างน่าพอใจ แต่ทว่าทิศทางจากนี้ไปของ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ต้องการปรับเปลี่ยนตัวเอง จากการเป็นแบรนด์บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล สู่การเป็น “Payment Facilitator” หรือ “ผู้อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้านการชำระเงิน”
ทำไมกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ต้องการเป็นผู้อำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน ในเมื่อแบรนด์มีความแข็งแกร่งทั้งในด้านยอดขายและเป็นผู้นำตลาดสินเชื่อและบัตรเครดิตอยู่แล้ว และการเป็น Payment Facilitator คืออะไร? Brand Buffet พามาเจาะวิธีคิด พร้อมยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนแบรนด์สู่การเป็น Payment Facilitator จาก “คุณอธิศ รุจิรวัฒน์” ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์
ชี้ “ตลาดบัตรเครดิต” แข่งดุ – คนเปลี่ยนวิธีใช้จ่ายเงิน
แม้ “กรุงศรี คอนซูมเมอร์” จะทำตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลมายาวนาน อีกทั้งตัวเลขการเติบโตในแต่ละปีก็น่าพอใจ โดยผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 189,000 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับตลาดอยู่ที่ 4.9% ส่วนยอดสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 47,000 ล้านบาท เติบโต 6% และจำนวนบัญชีลูกค้าใหม่ 287,000 ราย เติบโต 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เมื่อมามองที่ตลาดบัตรเครดิต คุณอธิศ ยอมรับว่า แม้ตลาดยังพอไปได้ แต่ต้องเจอสถานการณ์ท้าทายหลายอย่าง ทั้งการแข่งขันอย่างรุนแรง และคาดว่าในไตรมาส 4 จะเข้มข้นขึ้น จากการออกโปรโมชันของสถาบันการเงินเพื่อดึงดูดลูกค้า รวมถึงสภาพเศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ปัจจุบันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง
ประกอบกับพฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความรวดเร็ว และคล่องตัว จึงทำให้กรุงศรี คอนซูมเมอร์เชื่อว่า วิธีการใช้จ่ายเงินในอนาคตไม่จำเป็นต้องยึดอยู่กับบัตรเครดิตที่เป็นบัตรพลาสติกอีกต่อไป นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กรุงศรี คอนซูมเมอร์ต้องการปรับเปลี่ยนตัวเองสู่การเป็น Payment Facilitator เพราะมองว่าการเป็นผู้อำนวยความสะดวกด้านการชำระเงิน จะทำให้กรุงศรี คอนซูมเมอร์สามารถตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้ตรงจุดมากขึ้น ทั้งยังสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้
โดยการเป็น Payment Facilitator ในความหมายของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ คือ การพัฒนาวิธีการชำระเงินที่สะดวกสบายให้กับผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่ง คุณอธิศ บอกว่า การจะไปถึงเป้าหมายนี้ได้ คุณอธิศ หัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้าง “นวัตกรรมการชำระเงิน” (Innovative Payment Solution) รูปแบบใหม่ๆ ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม โดยล่าสุดได้พัฒนานวัตกรรม “ไบโอเมทริกซ์ เพย์เมนต์” (Biometric Payment) ซึ่งเป็นการจ่ายเงินโดยไม่ต้องพกบัตร หรืออุปกรณ์มือถือ แต่จะใช้สัญลักษณ์ของผู้จ่ายเป็นสิ่งยืนยันตัวตนในการชำระเงิน เช่น การสแกนใบหน้า เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ลืมบัตรเครดิต หรือไม่ต้องการพกบัตร สามารถจ่ายเงินได้ง่ายดายขึ้น
นำร่องด้วย Biometric Payment ไม่ต้องพกบัตร มือถือ ก็จ่ายเงินได้
ปัจจุบันกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้เริ่มทดลองนวัตกรรม Biometric Payment แล้วกับท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ตเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่ง คุณอธิศ ยอมรับว่า ด้วยขั้นตอนที่ยังค่อนข้างยาก และช้า ทำให้ตอนนี้นวัตกรรมดังกล่าวยังไม่ Take Off ซึ่งบริษัทกำลังปรับปรุงและพัฒนาขั้นตอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิม
“ตอนคิวอาร์เองก็ใช้เวลานานมากกว่าจะได้สเกลระดับนี้ ฉะนั้น ถ้าถามเราว่านวัตกรรมนี้จะมีผู้ใช้งานจำนวนมากไหม เราก็ไม่รู้ แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลในการพัฒนา ที่เราทำเพราะเชื่อว่าเมื่อไหร่ที่มัน Take Off แล้วเราไม่ได้ทำ เราจะแข่งขันไม่ได้ ดังนั้น เราต้องมีทุกช่องทาง เป็น Omni Payment ให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ ลูกค้าสะดวกชำระเงินแบบไหน ก็จะเลือกใช้บริการแต่ละช่องทาง”
คุณอธิศ บอกถึงการพัฒนานวัตกรรมการชำระเงิน ซึ่งทำให้ในอนาคตยังมีแผนจะคิดค้นวิธีการชำระเงินรูปแบบใหม่ๆ ออกมาให้บริการอย่างต่อเนื่อง เช่น วิธีชำระเงินผ่านอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable Payment Device) เป็นต้น
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังจนถึงครึ่งปีแรกของปี 2568 กรุงศรี คอนซูเมอร์ ยังมีแผน Refocus และ Relook ผลิตภัณฑ์หลัก ซึ่งประกอบไปด้วยบัตรเครดิตกรุงศรี บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิต โลตัส ให้มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่ตอบไลฟ์สไตล์ลูกค้าในปัจจุบันมากขึ้น เพื่อให้บัตรเครดิตของกรุงศรี คอนซูเมอร์ เป็นบัตรที่อยู่ในใจ และลูกค้าดึงออกมาใช้งานเป็นบัตรแรกอยู่เสมอ
รวมถึงขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีพันธมิตรร้านค้ากว่า 25,000 ร้านค้า ซึ่งแบ่งเป็นพันธมิตรหลักที่ร่วมออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต โดยจะต่อยอดความร่วมมือในการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่มากกว่าแค่บัตรเครดิตแบบเดิมๆ และพันธมิตรที่ร่วมกันนำเสนอโปรโมชัน โดยจะเน้นหมวดร้านอาหารและการผ่อนชำระให้มากขึ้น
จากการปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของตลาด ทำให้คุณอธิศเชื่อว่า ยอดสินเชื่อใหม่ทั้งปีจะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท เติบโต 9% ขณะที่ยอดบัญชีลูกค้าใหม่อยู่ที่ 617,000 บัญชี เพิ่มขึ้น 10% ส่วนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะแตะที่ 393,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวมทั้งทำให้ภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์กับการเป็น Payment Facilitator ชัดเจนมากขึ้นด้วย
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE