ปีนี้ บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC Asset ก้าวสู่ปีที่ 21 นอกจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขาย ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำแบรนด์บ้านระดับไฮเอนด์แล้ว ปีนี้ได้ประกาศเรือธงธุรกิจใหม่ SCX Corporation ที่เป็น “Engine 2” กลุ่มธุรกิจสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income)
ทำความรู้จัก SCX ซึ่งมีที่มาจากชื่อ SC และ X ที่เปรียบเป็นปีกนกกระเรียน ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วเป็นนกที่เดินทางไปสู่น่านน้ำใหม่ เช่นเดียวกับ SC Asset ที่แสวงหาโอกาสเติบโตในธุรกิจหลากหลายและมีแนวโน้มเติบโต
คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าในโลกยุคผันผวน “ความแม่นยำไม่ทรงพลังเท่ากับความหลากหลาย” ดังนั้นการรับมือกับความผันผวนของสถานการณ์ต่างๆและการเติบโตอย่างยั่งยืนต้องสร้างความหลากหลายของธุรกิจ
SC Asset จึงวางยุทธศาสตร์ทำธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อรับมือความผันผวนทางเศรษฐกิจยุคใหม่ ปัจจัยในการเลือกทำธุรกิจต้องมี 2 เรื่องหลัก 1. สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอ และ 2. อยู่ในธุรกิจที่มีแนวโน้มขาขึ้น และอนาคตสดใส
โดยสนใจธุรกิจ “ท่องเที่ยว” ที่เป็นเครื่องยนต์หลักของประเทศไทย มีมูลค่าสัดส่วน 20% ของเศรษฐกิจไทย มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นทุกปี สูงสุดในปี 2562 ก่อนโควิด จำนวน 39 ล้านคน จากนั้นลดลงเหลือ 6 ล้านคนในช่วงโควิด
ธุรกิจท่องเที่ยวไทยใช้เวลา 2 ปีในการฟื้นตัวหลังโควิด ปี 2567 คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะกลับมา 90% ของช่วงก่อนโควิด จากดีมานด์ที่แข็งแกร่งและประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางติดอันดับท็อปของโลก รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นด้วย Free Visa การขยายสนามบินเก่าและสร้างสนามบินใหม่ คาดว่าปี 2568 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะทำสถิติใหม่ที่ 40 ล้านคน มีการใช้จ่ายมากขึ้น รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักของโรงแรมปรับขึ้นได้ 18% SCX จึงมองโอกาสขยายธุรกิจโรงแรม
อีกธุรกิจที่มาแรงในช่วงโควิด คือ อีคอมเมิร์ซ ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโต SCX จึงเข้าไปลงทุนในธุรกิจ “คลังสินค้า” ซึ่งมีปริมาณพื้นที่เพิ่มขึ้นทุกปี อัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ย 80% และผู้เล่นในตลาดนี้มีไม่มาก
SCX ลงทุน 3 ธุรกิจ “ออฟฟิศ-คลังสินค้า-โรงแรม
คุณรชฎ นันทขว้าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีเอ็กซ์ คอร์ปอเรชัน จำกัด กล่าวว่าปัจจุบัน SCX มี 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า (SCX Logistics) ธุรกิจโรงแรม (SCX Hospitality) และธุรกิจอาคารสำนักงาน (SCX Working Solutions) เป็นกลุ่มธุรกิจ Recurring Income ตอบโจทย์หลากหลายของลูกค้าและรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว และธุรกิจสำนักงานให้เช่า
โรดแมปลงทุน 5 ปี (2568 – 2572) ของ SCX ใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างกำไรจากกลุ่มธุรกิจ Recurring Income สัดส่วน 25% ของกำไรรวมทุกกลุ่มทุกธุรกิจของ SC และ SCX มีมูลค่า Assets Portfolio รวม 40,000 ล้านบาท
โรดแมป 5 ปี 3 ธุรกิจหลัก SCX ดังนี้
1. ธุรกิจคลังสินค้า (SCX Logistics) รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ในประเทศไทย โดยพัฒนาอาคารคลังสินค้าเพื่อเช่า ครอบคลุมทำเล บางนา, EEC และ อยุธยา-วังน้อย ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงเหมาะสมสำหรับการขนส่งทางด้านโลจิสติกส์ สามารถเชื่อมต่อกับเส้นทางคมนาคมหลัก ปัจจุบันมีพื้นที่ 120,000 ตร.ม. ในปี 2572 จะมีพื้นที่เช่ารวม 700,000 ตรม.
2. ธุรกิจโรงแรม (SCX Hospitality) รองรับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดบริการแล้ว คือ YANH Ratchawat ขนาด 70 ห้อง ราคาห้องพัก 2,000-2,500 บาทต่อคืน รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่ม FIT (นักท่องเที่ยวอิสระเดินทางเอง) ส่วนใหญ่เป็นตลาดจีน 40% โดยมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 80%
ปี 2568 ไตรมาสแรกเปิดตัวโรงแรม Kromo, Curio Collection by HILTON ขนาด 306 ห้อง ตั้งอยู่สุขุมวิท 29 ตรงข้าม Emsphere ราคาห้องพัก 6,000 บาทต่อคืน เป็นโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น DAIWA HOUSE INDUSTRY และไตรมาส 2 เปิด The Standard Pattaya Jomtien ตั้งอยู่ริมหาดจอมเทียน ขนาด 161 ห้อง ราคาห้องพัก 5,000 บาทต่อคืน เป็นโครงการร่วมทุนพัฒนากับ Syntec Construction ธุรกิจก่อสร้างจากประเทศไทย
ในปี 2568 จะมีทั้งหมด 3 โรงแรมรวม 545 ห้อง ตามแผนธุรกิจ 5 ปีจะขยายจำนวนโรงแรมและห้องพักให้ได้มากกว่า 2,000 ห้อง โดยเน้น 4 ทำเลท่องเที่ยวหลัก กรุงเทพฯ พัทยา สมุย และภูเก็ต รูปแบบการลงทุนจะมีทั้งลงทุนเอง ร่วมทุนกับพันธมิตร และซื้อกิจการโรงแรมที่มีอยู่แล้วมารีโนเวทใหม่ สนใจทำเลภูเก็ต การลงทุนโรงแรมระดับบน (Upscale) จะใช้เชนโรงแรมต่างประเทศบริหาร
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายโรงแรม YANH ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมของ SCX ในกลุ่มพรีเมียม ไลฟ์สไตล์ โดยจะมีขนาดใหญ่ขึ้น จากแห่งแรกมี 70 ห้อง มองการลงทุนใหม่ขนาด 150 ห้อง หลังจากขยายโรงแรม YANH ได้ 3-4 แห่ง จะพัฒนาเป็นเชนโรงแรมรับบริหารให้กับเจ้าของโรงแรมต่อไป
3. ธุรกิจอาคารสำนักงาน (SCX Working Solutions) เริ่มต้นเมื่อ 20 ปีก่อน พร้อมกับธุรกิจอสังหาฯ พัฒนาที่อยู่อาศัย ปัจจุบันมีพื้นที่สำนักงานให้เช่า 6 แห่ง รวมพื้นที่ 120,000 ตร.ม. มีอัตราการเช่ามากกว่า 90% ตามแผนธุรกิจ 5 ปี ยังไม่มีการลงทุนใหม่ แต่จะปรับปรุงและพัฒนาอาคารเดิม รวมทั้งระบบเทคโนโลยีในอาคารให้มีความทันสมัยตอบโจทย์ผู้เช่า เช่น WELL : Health & Safety และอาคารประหยัดพลังงานระดับอาเซียน มีระบบฆ่าเชื้อในอากาศของอาคาร โดยติดตั้งหลอด UVC ใน AHU ตามแผน 5 ปีใช้งบรีโนเวท 1,400 ล้านบาท
SC Asset จะใช้ความหลากหลายของกลุ่ม SCX เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน วางเป้าหมายให้กลุ่มธุรกิจ Recurring Income ที่ปัจจุบันมีอัตรากำไร (EBITDA) อยู่ที่ 10% ตามแผน 5 ปี จะเพิ่มเป็น 25% เพื่อสร้างความสมดุลให้การเติบโตของ SC Asset และมีกำไรที่หลากหลาย
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE
อ่านเพิ่มเติม