HomeReal Estate & Condoเปิดมุมมองธุรกิจ “ทยา ทีปสุวรรณ” กับการปักธงอสังหาฯ ชลบุรีครั้งแรก ปั้นบิ๊กโปรเจกต์ “Wisdom First Residence” 300 ยูนิต หมื่นล้านให้แข่งขันได้ท่ามกลางยักษ์ใหญ่

เปิดมุมมองธุรกิจ “ทยา ทีปสุวรรณ” กับการปักธงอสังหาฯ ชลบุรีครั้งแรก ปั้นบิ๊กโปรเจกต์ “Wisdom First Residence” 300 ยูนิต หมื่นล้านให้แข่งขันได้ท่ามกลางยักษ์ใหญ่

แชร์ :

หากเอ่ยชื่อของ “ทยา ทีปสุวรรณ” ทายาทสาวหนึ่งเดียวแห่งบ้านศรีวิกรม์ คนส่วนใหญ่อาจจะจดจำผู้หญิงคนนี้ในฐานะนักการเมือง อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. และนักธุรกิจชั้นนำของไทย โดยเฉพาะบทบาทในการเป็นผู้จัดการโรงเรียนศรีวิกรม์ ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวดั้งเดิมที่เธอเข้ามารับช่วงดูแลต่อ จนโรงเรียนขยับขยายกลายเป็นโรงเรียนนานาชาติ St Andres Internation Campus ศรีวิกรม์มาถึงทุกวันนี้ ทั้งยังช่วยครอบครัวดูแลธุรกิจโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่อง

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

กระทั่งเมื่อ 7 ปีที่แล้ว “คุณทยา” ตัดสินใจควงสามี “คุณณัฏฐพล” สร้างธุรกิจของตนเองขึ้นมา โดยธุรกิจแรกที่เลือกทำคือ โรงเรียน ด้วยการนำที่ดินบริเวณเขาไม้แก้ว เปิดโรงเรียนนานาชาติ Rugby School Thailand ต่อมาก็ผุด Wisdom Valley เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวให้คนมาพักผ่อนและทำกิจกรรม Outdoor ได้อย่างอิสระ และล่าสุดกับการบุกตลาดอสังหาฯ ครั้งแรก ด้วยการเปิดตัวบ้านเดี่ยว “Wisdom First Residence” เจาะกลุ่มไฮเอนด์ ท่ามกลางตลาดอสังหาฯ ที่ซบเซา เธอเห็นโอกาสอะไรถึงเข้ามาบุกตลาดในช่วงนี้ มาเปิดมุมมองธุรกิจ “คุณทยา” กับการปั้นธุรกิจอสังหาฯ ให้สามารถแข่งขันได้ท่ามกลางคู่แข่งยักษ์ใหญ่จำนวนมาก พร้อมเป้าหมายผลักดันอาณาจักรแห่งนี้ให้เป็นเมืองเล็กๆ ที่ยั่งยืน

จากที่ดินสะสม สู่เส้นทางธุรกิจอสังหาฯ

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว คุณทยา เล่าว่า ทางตระกูลทีปสุวรรณ โดย “คุณวีระพันธุ์” คุณพ่อของคุณณัฏฐพลได้เริ่มเก็บสะสมพื้นที่บริเวณเขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรีเรื่อยมา จนมีพื้นที่ 1,400 ไร่ กระทั่งรัฐบาลประกาศนโยบายพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณพ่อคุณณัฏฐพลอยากนำพื้นที่นี้มาพัฒนา จึงสอบถามคุณทยาและคุณณัฏฐพลว่าจะเริ่มจากอะไรดี ด้วย Passion และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาการศึกษามาตลอด เลยตัดสินสินใจนำที่ดิน 190 ไร่มาพัฒนาเป็นโรงเรียน บวกกับต้องการสร้างโรงเรียนที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดในแถบเอเชีย เมื่อ 7 ปีที่แล้ว จึงร่วมกับ Rugby School จากประเทศอังกฤษ ซึ่งก่อตั้งมากว่า 457 ปี สร้างโรงเรียนานาชาติ Rugby School Thailand

คุณทยา บอกว่า จากพื้นที่ที่ไม่มีอะไรเลย ก็ค่อยๆ สร้างและพัฒนาขึ้นมา จนธุรกิจเริ่มอยู่ตัวและได้รับการยอมรับทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณนักศึกษา โดยปัจจุบันมีนักเรียนศึกษาอยู่ 1,200 คน แบ่งเป็นนักเรียนไทย 45% และนักเรียนต่างชาติ 65% ต่อมาจึงต้องการพัฒนาพื้นที่ให้เป็น Destination ของคนรักธรรมชาติ บวกกับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวชอบกิจกรรม Outdoor เลยนำพื้นที่ 1,400 ไร่ มาสร้างเป็น “Wisdom Valley” เพื่อรองรับการพักผ่อนและการทำกิจกรรม Outdoor ของคนทุกกลุ่ม ก่อนจะต่อยอดมาสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยครั้งแรก ด้วยการก่อตั้งบริษัท วิสดอม พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เพื่อพัฒนาบ้านเดี่ยวไฮเอนด์ ภายใต้แบรนด์ Wisdom First Residence

เหตุผลที่เลือกเข้าสู่ตลาดอสังหาฯ คุณทยา บอกว่า เนื่องจากเห็นดีมานด์ของลูกค้ามาสักพักแล้ว โดยเฉพาะผู้ปกครองที่อยากส่งลูกมาเรียนที่นี่ แต่ไม่อยากให้อยู่โรงเรียนประจำ รวมถึงผู้ปกครองที่มีลูกเล็ก ทำให้ต้องเรียนแบบไปกลับ จึงต้องการที่พักอาศัยใกล้โรงเรียนเพื่อไปรับส่งลูกเอง เลยสนใจทำธุรกิจอสังหาฯ เพื่อตอบความต้องการของผู้ปกครอง รวมไปถึงผู้บริหารที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม และคนที่มองหาบ้านพักหลังที่ 2 ใกล้เมือง

“คำว่า First มาจาก Family in RST แต่เราไม่ได้จำกัดแค่โรงเรียน Rugby School Thailand เท่านั้น แต่รวมไปถึง Family จากที่ไหนก็ได้ สามารถเข้ามาอยู่ร่วมกันในพื้นที่แห่งนี้ได้” คุณทยา บอกถึงที่มาของแบรนด์บ้านเดี่ยว Wisdom First Residence

ถึงมือใหม่ แต่ไม่กังวล ดีมานด์ “บ้านหรู” ชลบุรี ยังโต  

แม้จะมีประสบการณ์การบริหารธุรกิจโรงเรียนมานาน แต่คุณทยา ยอมรับว่า การทำธุรกิจอสังหาฯ ในพื้นที่นี้ยังใหม่มาก เพราะเป็นครั้งแรกบนสังเวียนนี้ แต่ก็ไม่กังวลมาก แม้จะมีผู้เล่นในพื้นที่นี้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งตลาดอสังหาฯ ในช่วง 2-3 ไตรมาสที่ผ่านมาค่อนข้างอยู่ในภาวะซบเซา จากสภาพเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวหลังโควิดที่ยังฟื้นตัวไม่ 100%

นั่นเพราะ Supply ที่อยู่อาศัยในชลบุรี ส่วนใหญ่เป็นบ้านระดับกลางและล่าง ขณะที่บ้านไฮเอนด์ยังมีไม่มาก และดีมานด์ตลาดบ้านไฮเอนด์ยังเติบโตต่อเนื่องจากความเจริญของพื้นที่ ประกอบกับ Wisdom First Resident ก็แตกต่างจากคู่แข่งขันชัดเจน จึงเชื่อว่าตลาดบ้านไฮเอนด์ในพื้นที่ชลบุรียังมี “ช่องว่าง” ในการ “เติบโต” อีกมาก

โดยจุดเด่นที่สร้างความแตกต่างให้กับ Wisdom First Residence จากคู่แข่ง คือ การวางจุดยืนเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ด้วย Location ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติ ผสานกับการออกแบบบ้านให้เข้ากับธรรมชาติ และใช้วัสดุธรรมชาติ ทั้งยังเต็มไปด้วยความปลอดภัยสูง โดยสามารถเดินไปโรงเรียนด้วยทางเชื่อมลอยฟ้าภายใน 1-2 นาที รวมถึงอยู่ใกล้ Medical Hub และล่าสุดกำลังพูดคุยกับโรงพยาบาลกรุงเทพ เพื่อมาเปิดคลินิกในพื้นที่ Wisdom Valley เพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับในเฟสแรกนั้น บริษัทจะเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ Rugby เป็นจำนวน 47 ยูนิตก่อน ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 13 หลังแล้ว หลังเปิดขายมาเพียง 2 เดือน โดย 11 ยูนิตเป็นลูกค้าต่างชาติ และ 2 หลังเป็นลูกค้าชาวไทย โดย 80% เป็นผู้ปกครอง จากนั้นในปีหน้าจะเริ่มสร้างคลับเฮ้าส์ พร้อมกับทยอยสร้างบ้านหรูจนครบ 300 หลัง บนพื้นที่ 300 ไร่

เสริมทัพด้วย Wisdom Village ก้าวสู่เมืองเล็กๆ ที่ยั่งยืน

สำหรับเป้าหมายในอนาคต คุณทยา ต้องการสร้างพื้นที่แห่งนี้ให้เติบโตเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีคุณภาพชีวิตยั่งยืน เพราะมองว่าเป็นแนวทางที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ของคนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธุรกิจหลังจากนี้ จึงมีแผนพัฒนาพื้นที่ 8,000 ตร.ม. เป็น Wisdom Village ประกอบด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ สปอร์ตบาร์ รวมถึงพื้นที่สำหรับเซิฟสเก็ต และพื้นที่สำหรับกิจกรรมดนตรีต่างๆ เพื่อดึงดูดคนให้เข้ามาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้อยากโฟกัสธุรกิจอสังหาฯ รวมถึงสร้างคอมมูนิตี้และร้านค้าต่างๆ ให้แข็งแรงก่อน โดยตอนนี้ยังเหลือพื้นที่อีกประมาณ 700 ไร่ที่ยังเป็นผืนป่า ก็ดูว่าจะพัฒนาอะไรเพิ่มอีก ควบคู่ไปกับการศึกษาความต้องการของตลาดในอนาคต”

จากประสบการณ์ในการทำธุรกิจมาหลากหลาย บวกกับแนวคิดการพัฒนาอสังหาฯ ที่แตกต่าง ทำให้น้องใหม่อย่าง Wisdom First Residence เป็นอีกหนึ่งอสังหาฯ ที่น่าจับตามอง ถึงหลายคนมองว่าสถานการณ์อสังหาฯ ตอนนี้ไม่ดี แต่ถ้าจับตลาดให้ถูก ย่อมมีโอกาสและตลาดรองรับอย่างแน่นอน

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like