ถึงแม้ว่าปีนี้ตลาดอสังหาฯ จะเจอความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เปราะบาง จนทำให้ตลาดรวมเติบโตแบบชะลอตัว แต่ถ้ามองไปที่ “อสังหาฯ กลุ่มไฮเอนด์” หรือ “บ้านลักซ์ชัวรี่” กลับเป็นเซกเมนต์ที่มีการเติบโต แม้จะไม่ร้อนแรงเท่ากับช่วงโควิด แต่ยอดขายยังเติบโตไปได้ สะท้อนได้จากข้อมูลของ LWS ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ที่อยู่อาศัยระดับ 10 ล้านบาท มีอัตราการขาย ณ วันเปิดตัวเฉลี่ย 9% จึงทำให้เราเห็นหลายแบรนด์เปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์กันอย่างคึกคักเพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้
ทำให้ “บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด” (The Nest Property) ผู้ประกอบการอสังหาฯ ในกลุ่มบริษัท พี.เอ็ม.กรุ๊ป ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแบรนด์อสังหาฯ ระดับพรีเมียมต้องขยับปรับเกมใหม่ จากเดิมที่เน้นทำเลใจกลางเมืองมาตลอด สู่การรุกตลาดในทำเลใหม่ๆ มากขึ้น โดยล่าสุดได้ร่วมลงทุนกับ บริษัท คันเดน เรียลตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (KRD) เปิดตัวบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม “เอเวียน ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา” ในย่านกรุงเทพกรีฑา เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ มองเห็นโอกาสอะไรบนทำเลนี้ ตามมาฟังคำตอบจาก คุณอุษณา มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด พร้อมทิศทางการบุกตลาดนับจากนี้
“กรุงเทพกรีฑา” ทำเล “Luxury Community” ราคาพุ่ง 150%
เมื่อพูดถึง “ศรีนครินทร์-กรุงเทพกรีฑา” ต้องบอกว่าในอดีตเป็นพื้นที่ห่างไกลจากศูนย์กลางธุรกิจอย่างสีลม และสาทรค่อนข้างมาก บวกกับโครงสร้างพื้นฐาน และการเดินทางยังไม่ค่อยสะดวกมากนัก จึงถูกมองเป็นชานเมืองกรุงเทพฯ กระทั่งในปี 2512 คนกลุ่มหนึ่งได้สร้างสนามกอลฟ์กรุงเทพกรีฑาระดับไฮคลาสขึ้น เพื่อเป็นคอมมูนิตี้ของคนมีเงินได้มาเล่นกีฬาร่วมกัน จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้คนเริ่มรู้จักชื่อกรุงเทพกรีฑามากขึ้น ต่อมาในปี 2518 ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดกีฬาแหลมทอง หรือกีฬาซีเกมส์ พื้นที่กรุงเทพกรีฑาถูกเลือกให้เป็นสถานที่สร้างที่พักสำหรับนักกีฬา 3.200 หลัง จนกลายเป็น “หมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง” เมื่อการแข่งขันจบลง บ้านที่สร้างถูกขายต่อให้กับคนทั่วไป
หลังจากนั้นก็เริ่มมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งถนนศรีนครินทร์ ถนนมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี ไปจนถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสีส้ม ทำให้เมืองเริ่มขยาย และเชื่อมต่อความเจริญอย่างครบครัน ทั้งโครงการบ้านจัดสรร โดยเฉพาะบ้านไฮเอนด์ ศูนย์การค้า โรงพยาบาล และโรงเรียนนานาชาติ ส่งผลให้ทำเลนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จนปัจจุบันกลายเป็นทำเล “ดาวรุ่ง” ของกรุงเทพฯ โซนตะวันออก และถูกเรียกว่าเป็น “Luxury Community” แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ
เมื่อมาดูที่ราคาอสังหาฯ จากข้อมูลของ คุณวิฑูร เลิศพนมวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอเอฟซีจี จำกัด (มหาชน) บริษัทนายหน้าอสังหาฯ ชั้นนำ พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินและบ้านระดับไฮเอนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 150% โดยปัจจุบันราคาที่ดินติดถนนใหญ่ มีการซื้อขายอยู่ที่ 1.3-1.4 แสนบาทต่อตารางวา หาก 10 ปีก่อนซื้อบ้านในย่านนี้ราคา 10 ล้านบาท ปัจจุบันราคาจะอยู่ที่ 25 ล้านบาท
ขณะที่โครงการที่อยู่อาศัยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากการสำรวจพบว่า มีกว่า 780 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 27 ล้านบาท สอดคล้องกับข้อมูลจาก JLL ระบุว่า ผ่านมาแค่ไตรมาสแรกของปี 2567 ทำเลกรุงเทพกรีฑา มีบ้านระดับไฮเอนด์สร้างเสร็จรวม 619 หลัง ทั้งหมด 15 โปรเจค และมีโครงการเปิดใหม่ 14 โครงการ รวม 1,026 หลัง โดยราคาบ้านมีตั้งแต่ 15 ล้านบาท – 515 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566-ไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายบ้านมากกว่า 200 หลัง ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่เฉลี่ย 461 ตารางเมตร ส่วนราคาพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา
ผนึกทุนญี่ปุ่น ส่งบ้านหรู AVIAN เจาะครอบครัวรุ่นใหม่
จากการเติบโตของทำเลดังกล่าวนี่เอง คุณอุษณา จึงเห็นโอกาส และตัดสินใจเข้ามาปักหมุดทำเลนี้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากส่งบ้านเดี่ยวหรู 3 ชั้น “AERIE ศรีนครินทร์ – กรุงเทพกรีฑา” บุกตลาดเป็นโครงการแรก และมาปีนี้ได้จับมือยักษ์อสังหาจากประเทศญี่ปุ่น “KRD” เปิดตัวโครงการ “เอเวียน ศรีนครินทร์ – กรุงเทพกรีฑา” ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม ราคาตั้งแต่ 16 ล้าน ถึง 30 ล้านบาท มาเจาะกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง
และในไตรมาส 4 ปีนี้ เดอะเนสท์ พร็อพเพอร์ตี้ ยังมีแผนจะเปิดตัวอีก 2 โครงการ โดยโครงการแรกเป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury “AERIE ศรีนครินทร์ – สวนหลวง” และอีก 1 โครงการคือ “AVIAN บางนา กม.5” เป็นบ้านเดี่ยวระดับ Luxury 2 ชั้น เพื่อสร้างการเติบโตบนทำเลใหม่ๆ ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้น
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE