WHA กางแผนครึ่งปีหลังใช้ AI ในทุกธุรกิจ ชี้การลงทุนจากจีนเพิ่ม – ถึงเวลาสร้างยูนิคอร์นเอง

คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

WHA กางแผน 4 ธุรกิจ “นิคมอุตสาหกรรม-โลจิสติกส์-ดิจิทัล-สาธารณูปโภค” ชี้ความท้าทายด้าน Geo-Political กำลังส่งผลดีต่ออาเซียน ประกาศเดินหน้าสะสมที่ดินเพิ่มทั้งในไทยและเวียดนามรับการลงทุนจากต่างชาติ และมุ่งหน้าสู่การเป็น Tech Company ที่สามารถสร้าง “ยูนิคอร์น” ได้ด้วยตัวเอง

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นโดยคุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมกับเผยถึงการเติบโตของ 4 ธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่

• นิคมอุตสาหกรรม
• โลจิสติกส์
• ดิจิทัล
• สาธารณูปโภค

กางตัวเลขครึ่งปีแรก กำไรสุทธิโต 91%

สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของ 2567 นั้น คุณจรีพรระบุว่า เป็นการเติบโตท่ามกลางความท้าทาย 4 ประการ นั่นคือ ความท้าทายด้าน Geo-Political ที่ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ สถานการณ์ Climate Change และการมองหาพลังงานทดแทนแบบที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ของแบรนด์ที่ต้องการย้ายฐานการลงทุน ความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และข้อสุดท้ายคือ การเปลี่ยนแปลงด้านวิถีชีวิตคนเมือง โดยหลายประเทศเริ่มมีตัวเลขด้านประชากรที่เปลี่ยนไป

สำหรับ WHA คุณจรีพรกล่าวว่า ได้มีการปรับตัวรับความท้าทายที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ในทุกธุรกิจ การพัฒนาเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรมและนำกลับไปขายให้กับลูกค้าในนิคมฯ ได้ใหม่ การลงทุนด้านไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ ตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อรองรับการเติบโตของนิคมอุตสาหกรรม เช่น Mobilix, Whasapp เป็นต้น

จากการปรับตัวดังกล่าว คุณจรีพรระบุว่า ธุรกิจของ WHA สามารถทำรายได้ครึ่งปีแรกที่ 7,273 ล้านบาท เติบโตขึ้น 28% (YoY) และมีกำไรสุทธิ 2,653 ล้านบาท เติบโตขึ้น 91% (YoY) เลยทีเดียว

จีนลงทุนไทยเพิ่มขึ้น

ผู้บริหาร WHA ยังเปิดเผยถึงความเปลี่ยนแปลงในด้านการลงทุน โดยในระหว่างปี 2020 – ช่วงครึ่งปีแรกของ 2024  พบว่า มีการลงทุนจากแบรนด์จีนเพิ่มมากขึ้น จากที่ในอดีตเป็นการลงทุนจากบริษัทญี่ปุ่นเป็นหลัก

ส่วนประเภทของลูกค้าแยกตามอุตสาหกรรม พบว่า ส่วนใหญ่ยังคงเป็นธุรกิจยานยนต์ สินค้าคอนซูเมอร์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์

รถ EV ธุรกิจศูนย์เหรียญจริงไหม

คุณจรีพร ยังได้ตอบในประเด็นแบรนด์รถ EV จากจีนที่เดินหน้าเข้ามาปักหมุดประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และเป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของ WHA ว่า ไม่ใช่ธุรกิจศูนย์เหรียญ เนื่องจากแบรนด์รถ EV เหล่านั้น นอกจากจะลงทุนตั้งฐานการผลิตในไทยแล้ว ยังมีการจ้างงานคนไทยไม่ต่างจากธุรกิจอื่น ๆ โดยในส่วนของการจ้างงานคนจีนเข้ามานั้น จะอยู่ที่ 10% ส่วนอีก 90% เป็นการจ้างงานคนไทย

ขยายธุรกิจคอนโดมิเนียม รับเทรนต์การทำงาน “จีน”

อีกหนึ่งธุรกิจที่กลุ่ม WHA เปิดเผยว่ามีการลงทุนเพิ่มเติมคือธุรกิจที่พักอาศัย โดยจะอยู่ในรูปแบบคอนโดมิเนียม แบบ  Build-to-suit สำหรับรองรับชาวจีนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงเข้ามาทำงานในไทย และเวียดนาม เนื่องจากพฤติกรรมการทำงานของคนจีน จะเน้นหาที่พักใกล้ ๆ กับที่ทำงาน หรือโรงงาน เพื่อให้ไปทำงานได้อย่างสะดวก (แตกต่างจากชาวญี่ปุ่นที่เคยเข้ามาทำงานในอดีต) และจะมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ในบริเวณเดียวกันด้วย โดยคาดว่าปี 2026 จะพร้อมสำหรับการเข้าพัก

คุณจรีพร จารุกรสกุล และคุณณัฐพรรษ ตันบุญเอก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

กางแผนครึ่งปีหลัง 2567

สำหรับแนวทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของ 2567 ของ 4 กลุ่มธุรกิจหลัก มีรายละเอียดดังนี้

ธุรกิจโลจิสติกส์ กลยุทธ์การดำเนินงานยังคงมุ่งขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศไทย มีการขยายจากกรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปริมณฑล และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  ส่วนในต่างประเทศมุ่งเน้นการขยายในประเทศเวียดนาม ให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจกับอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต

สำหรับเป้าหมายในปี 2567 ตั้งเป้าหมายพื้นที่ให้เช่าใหม่ และสัญญาเช่าใหม่รวม 200,000 ตารางเมตร โดยมุ่งเน้นคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit คาดว่าครึ่งปีหลัง จะส่งมอบพื้นที่ให้เช่าใหม่มากกว่า 140,000 ตร.ม. โดยมีสัญญาเช่าคลังสินค้าแบบ Built to Suit และแบบสำเร็จรูปกว่า 105,000 ตร.ม. จากลูกค้าในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและกลุ่มสุขภาพ และ 35,000 ตารางเมตรจากโครงการแรกในจังหวัดฮึงเอียน  (Hung Yen) ประเทศเวียดนาม ผ่านความร่วมมือกับไดวะเฮาส์ (Daiwa House) และมีแผนการขายสิทธิการเช่าทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ WHAIR รวมทั้งสิ้นประมาณ 40,172 ตร.ม. คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,065 ล้านบาท

นอกจากนี้ การเปิดตัว โมบิลิกส์ (Mobilix) โซลูชันกรีนโลจิสติกส์ครบวงจรครั้งแรกของไทย ประกอบด้วย 3 บริการหลัก คือให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า และโมบิลิกส์ซอฟต์แวร์โซลูชัน (Mobilix Software Solution) โดยมีแผนดำเนินธุรกิจตาม 4 กลยุทธ์หลักคือพัฒนาพันธมิตรทางธุรกิจ (Develop Partnership)  ขยายช่องทางการขาย (Expand Sale Channels) การเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (Launch New Products) และนำเสนอข้อเสนอทางการค้าใหม่ๆ (Provide New Commercial Offerings)  โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าและหางลากให้เช่าเป็น 1,000 คัน ภายในสิ้นปี 2567 อีกด้วย

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม

คุณปจงวิช พงษ์ศิวาภัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

ผู้บริหาร WHA เผยว่า พบความต้องการที่ดินจากภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทฯ ปรับเพิ่มประมาณการขายที่ดินจากเป้าหมายเดิมที่ 2,275 ไร่ เป็น 2,500 ไร่ โดยมูลค่าสัญญาขายที่ดินคาดว่าจะเติบโต 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน และครึ่งหลังปี 2567 มีเป้าหมายที่จะขายที่ดินมากกว่า 1,400 ไร่

ทั้งนี้ ยอดขายที่ดินจากประเทศไทยจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เนื่องจากในเวียดนามกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาที่ดินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปี 2025 หลังจากที่มียอดขายที่ดินสูงเกินคาดในปี 2023 นอกจากยอดขายที่แข็งแกร่งแล้วบริษัทฯ ยังเดินหน้าพัฒนาที่ดินอุตสาหกรรม โดยวางแผนเพิ่มที่ดินอุตสาหกรรมเกือบ 10,000 ไร่ ในประเทศไทย เข้าสู่พอร์ตโฟลิโอในอีก 4 ปีข้างหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมใหม่ 6 โครงการ โดยเป็นโครงการพัฒนาใหม่ 4 แห่ง และขยายพื้นที่โครงการเดิมอีก 2 แห่ง

สำหรับโครงการในเวียดนามยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง โดยเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 2 – เหงะอาน (WHA Industrial Zone 2 – Nghe An) คาดว่าจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตสำหรับเฟส 1 ของโครงการ บนพื้นที่ 1,200 ไร่ ภายในสิ้นปีนี้  และ WHA Smart Technology Industrial Zone 1 ในจังหวัดทาญฮว้าจะเริ่มก่อสร้างภายในสิ้นปี 2024

ในขณะที่ WHA Smart Technology Industrial Zone 2 ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกัน มีเป้าหมายที่จะได้รับใบรับรองการลงทุน (IRC: Investment Registration Certificate) ภายในสิ้นปีนี้เช่นเดียวกัน

ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) มีการลงทุนในพื้นที่ใหม่ ๆ นอกเหนือจากในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA และมุ่งเน้นขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value-added Water) เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ และขยายการลงทุนโรงผลิตน้ำและโรงบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ ในเวียดนาม ตลอดจนพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้น

คุณสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และคุณอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)

สำหรับการเติบโตในปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายน้ำรวมที่ 178 ล้านลูกบาศก์เมตร จากความต้องการน้ำที่มากขึ้นของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม และปริมาณน้ำมูลค่าเพิ่มที่เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ๆ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของน้ำในประเทศเวียดนามที่มีการเติบโตอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากโรงงานของลูกค้าในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน (WHA Industrial Zone 1 Nghe AN) เริ่มดำเนินการ และนอกจากนั้นในปี 2567 ได้ลงนามในสัญญาน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จำนวน 3.5 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี และสัญญาขายน้ำประปาให้แก่การประปาส่วนภูมิภาคอีก 2.6 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี โดยทั้ง 2 สัญญาจะเริ่มมีการรับรู้รายได้ภายใน ครึ่งปีหลังของปี 2567 ทันที

ธุรกิจไฟฟ้า WHA ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเป็น 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากพลังงานสะอาด 472  เมกะวัตต์ โดยเป็นพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof Top) 283 เมกะวัตต์ และบริษัทฯ ได้มุ่งต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและ โซลูชันด้านพลังงานใหม่ ๆ อาทิ การเปิดให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งสอดรับกับแผนการลงทุนในโมบิลิกส์ (Mobilix) โดยมีเป้าหมายที่จะมีชาร์จเจอร์ 120 ตัว ในปีนี้ รวมถึงสถานีชาร์จที่ใหญ่ที่สุดในประเทศขนาดกำลังติดตั้ง 5,400 กิโลวัตต์ด้วย

คุณนันท์ศิลป์ เจนวารินทร์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล จำกัด และผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ – ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ธุรกิจดิจิทัล ยกระดับองค์กรในทุกมิติเพื่อบรรลุเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็น Technology Company ในปี 2024 และเตรียมพร้อมสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Tech-Driven Organization) ในปี 2025 โดยจะมีการสร้างรายได้จากการให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ๆ รวมถึงการนำ AI มายกระดับประสิทธิภาพองค์กร

นอกจากนี้ WHA ยังมีการนำ AI มาพัฒนาส่วนงานต่าง ๆ ในกลุ่มธุรกิจด้วย เช่น

• Solar Anomaly Detection หรือก็คือการตรวจจับปัญหาที่เกิดขึ้นกับแผงโซลาร์ด้วย AI ทำให้สามารถเข้าบำรุงรักษาแผงโซลาร์ได้อย่างรวดเร็ว
• Solar Forecasting ประเมินและคาดการณ์ปริมาณแสงแดดล่วงหน้า เพื่อการวางแผนเพิ่มปริมาณการผลิตพลังงานและลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ
• RO Performance Forecasting ใช้ Data Analytics ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำภายในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสีย และสอดคล้องกับข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น

“ปี 2567 เราได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ในทุกมิติของการดำเนินงานเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ ด้วยรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง วิสัยทัศน์ WE SHAPE THE FUTURE ที่ชัดเจน พร้อมการเป็น Tech and Sustainable Company เพื่อก้าวสู่การเป็น Tech-Driven Organization ในปีหน้า เรายังคงเดินหน้าสู่อนาคตพร้อมกับเป้าหมายใหม่ ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยและภูมิภาคอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน” คุณจรีพรกล่าวปิดท้าย