ถึงแม้ว่าปัจจุบัน “บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด” หรือ “Kubota” จะเป็นแบรนด์เครื่องจักรกลการเกษตรที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน ทั้งยังสร้างยอดขายเติบโตอย่างมาก โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้ถึง 58,000 ล้านบาท และ 8 เดือนแรกของปี 2567 ยอดขายในประเทศเติบโตขึ้นถึง 13% คิดเป็นรายได้ราว 29,000 ล้านบาท แต่ความท้าทายที่เป็นโจทย์ใหญ่เสมอมาของ Kubota คือ Mindset ของเกษตรกรที่ติดกับการทำเกษตรแบบดั้งเดิม รวมถึง “แรงงาน” ภาคการเกษตรมีแนวโน้ม “ลดลง” ต่อเนื่อง ดังนั้น หากปล่อยสถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป จะทำให้เกษตรกรหายไปจากตลาด และกลายเป็นข้อจำกัดในการผลักดันยอดขายของแบรนด์ให้เติบโต
นั่นจึงทำให้ Kubota ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ด้วยการดึงคนรุ่นใหม่เข้าสู่ภาคการเกษตรให้มากขึ้น หลายคนอาจยังเห็นภาพไม่ชัดว่าการดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้กลับเข้ามาทำการเกษตรนั้นเป็นอย่างไร? ตามไปฟังแนวคิดนี้จาก “คุณพิษณุ มิลินทานุช” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอชั่น จำกัด พร้อมเจาะลึกยุทธศาสตร์การขยายฐานเกษตรกรรุ่นใหม่ที่ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% ภายใน 5 ปีนับจากนี้
รายได้ไม่จูงใจ ต้นเหตุเกษตรกรรุ่นใหม่น้อยลง
ที่ผ่านมาเราอาจคุ้นเคยกับ Kubota ในฐานะ Key Player ในตลาดเครื่องจักรกลการเกษตร เพราะเป็นแบรนด์ที่มีจุดแข็งในการพัฒนานวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรที่ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร พร้อมกับให้บริการหลังการขายที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกษตรกรใช้นวัตกรรมต่างๆ อย่างถูกต้องและคุ้มค่า โดยในยุคแรกมีแต่รถไถเท่านั้น ต่อมาได้พัฒนาเครื่องจักรกลรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เช่น รถแทรกเตอร์ รถเกี่ยวนวดข้าว และปัจจุบันขยับมาสู่สินค้าเทคโนโลยีการเกษตรแบบครบวงจร เช่น โดรนการเกษตร และ IoT จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดเครื่องจักรกลการเกษตร โดยในปี 2566 Kubota มีรายได้ 58,000 ล้านบาท จากตลาดรวมเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยที่มีมูลค่า 70,000 ล้านบาท
แต่เมื่อมาดูฐานลูกค้าเกษตรกร จากการศึกษา ทำให้พบว่า ปัจจุบันแรงงานในภาคการเกษตรมีอายุเฉลี่ย 59 ปีขึ้นไป ในขณะที่คนอายุ 35 ปีลงมา มีสัดส่วนแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น นั่นหมายความว่าคนเข้ามาทำอาชีพเกษตรน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งคุณพิษณุ บอกว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่นิยมทำงานในภาคเกษตร คือ “รายได้” เฉลี่ยของแรงงานภาคการเกษตรค่อนข้าง “น้อย” เมื่อเทียบกับอาชีพอื่น จึงทำให้หลายพื้นที่การเกษตรถูกทิ้งร้างว่างเปล่าเป็นจำนวนมาก
จากสถานการณ์ดังกล่าวนี่เอง ทำให้กลับมานั่งคิดว่า หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป จนวันหนึ่งไม่มีคนทำเกษตรเลย จะเกิดอะไรขึ้น นั่นเลยเป็นที่มาให้ Kubota ต้องลุกขึ้นมาขยายฐานสู่เกษตรกรรุ่นใหม่ที่เป็นเจเนอเรชั่น Y และ Z มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตให้กับภาคการเกษตรและแบรนด์อย่างต่อเนื่อง
ประเดิมส่งแคมเปญกินใจ-พัฒนานวัตกรรมล้ำสมัย ดึงคนรุ่นใหม่สู่ภาคเกษตร
คุณพิษณุ บอกว่า พฤติกรรมของเกษตรกรรุ่นใหม่แตกต่างจากเกษตรกรรุ่นเก่ามาก โดยเกษตรกรรุ่นใหม่ต้องการใช้เทคโนโลยีมาช่วยลดเวลา ต้นทุน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ขณะที่คนรุ่นก่อนจะชินกับการทำเกษตรแบบเดิมๆ มากกว่า ทำให้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา Kubota จึงได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเกษตรล้ำสมัยเข้ามาให้เกษตรกรรุ่นใหม่ได้สัมผัสเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการทำการเกษตรเป็นเรื่องง่าย เพื่อดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้กลับเข้ามาสู่ภาคการเกษตร
ควบคู่กับการปรับวิธีการสื่อสารใหม่ผ่าน Music Marketing พร้อมกับปล่อยแคมเปญ “No Farmer, No Us ไม่มีเขา ไม่มีเรา” เพื่อให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญของการทำเกษตร ด้วยการบอกเล่าเรื่องราวของเกษตรกรผ่านวิดีโอที่แสนกินใจ จนยอดวิวสูงถึง 50 กว่าล้านวิว อีกทั้งยอดขายจากเกษตรกรรุ่นใหม่ยังเติบโตขึ้น 4% โดยมีสัดส่วนของสินค้าโดรนเพื่อการเกษตรสูงถึง 65%
“ปัจจุบันลูกค้าเกษตรกรรุ่นใหม่มีสัดส่วนเพียง 30-35% จากฐานลูกค้าเกษตรกรของบริษัทที่มีกว่า 570,000 ราย ทำให้เราต้องการเพิ่มสัดส่วนลูกค้ากลุ่มนี้เป็น 50% ให้ได้ใน 5 ปี” คุณพิษณุ บอกถึงเป้าหมาย และส่งผลให้แนวทางการทำตลาดนับจากนี้ จึงเน้นไปที่การให้ความรู้และสร้างประสบการณ์การทำเกษตรสมัยใหม่แบบครบวงจรกับเกษตรกรรุ่นใหม่มากขึ้นผ่านคูโบต้าฟาร์ม เพื่อให้เกษตรกรได้เห็นถึงการปฏิบัติและผลลัพธ์จริง
เนื่องจากพบว่า พฤติกรรมของเกษตรกรรุ่นใหม่ ไม่เพียงต้องการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้ แต่ยังต้องการความรู้ในการทำเกษตรสมัยใหม่ไปปรับใช้ในการบริหารจัดการฟาร์มของตัวเองให้ได้ผลผลิตออกมาดี และเพิ่มรายได้ให้ตัวเองมากขึ้น ซึ่งเมื่อเกษตรกรมีความรู้และรายได้มากขึ้น ก็จะช่วยให้ Mindset ในการทำเกษตรสมัยใหม่ดีขึ้น ทั้งยังดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้กลับเข้าสู่ภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น และทำให้ Kubota เติบโตอย่างแข็งแรงตามไปด้วย
โดยในปี 2567 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ราว 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตขึ้น 2-3% จากปี 2566 ที่ผ่านมา โดยตลาดที่สร้างการเติบโตมากที่สุดคือ “โดรนเพื่อการเกษตร” แม้บริษัทเพิ่งจะรุกตลาดได้เพียง 3 ปี แต่ปัจจุบันเป็นอันดับ 1 ในตลาด ด้วยส่วนแบ่งตลาด 37%
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE