Super Aged Society หรือ สังคมที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่า 28% ของประชากรในประเทศ กลายเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสุขภาพที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่สถานการณ์ดังกล่าวเร็วขึ้น
โดยในปี 2050 คาดการณ์ว่าประชากรของไทยจะกลายเป็นกลุ่มผู้สูงวัยแบบสมบูรณ์ โดยจะมีสัดส่วนของคนที่อายุเกิน 65 ปีมากกว่า 30% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และอีก 10% จะเป็นผู้สูงวัยที่อายุเกิน 80 ปี ทำให้ไทยต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างประชากรและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของประชากรไทย
ไม่ว่าจะเป็น โรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่ยังคงเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตและการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (ก่อนอายุ 70 ปี) ในอัตราสูงถึง 14% นอกจากนี้ยังมีความท้าทายจากการก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) ภายในปี 2574 ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อความต้องการด้านสาธารณสุขที่เพิ่มมากขึ้น
ปัจจัยดังกล่าวทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวข้องเริ่มเล็งเห็นความสำคัญและปรับแผนงานเพื่อรองรับประชากรกลุ่มนี้ที่มีมากขึ้น DKSH คืออีกหนึ่งองค์กรระดับโลกที่พัฒนาแผนงานเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยในหลายประเทศทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่ในประเทศไทยที่ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา DKSH ได้กางแผนงานด้าน Digital Healthcare ด้วยการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีรูปแบบใหม่มาใช้ในระบบขนส่งเพื่อสร้างความรวดเร็ว
คุณแพทริค แกรนเด รองประธานฝ่ายบริหาร และหัวหน้าฝ่าย Commercial Outsourcing ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก DKSH เปิดเผยว่า “ประเทศไทยกำลังเผชิญความท้าทายด้านสุขภาพ หลังสังคมไทยกำลังจะเข้าสู่ Super Aged Society เร็วกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ นั่นทำให้บริษัทมีการพัฒนาแผนงานด้านการขนส่งสินค้าในกลุ่ม Healthcare มาอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่สำคัญจะส่งถึงมือผู้ป่วยชาวไทยอย่างรวดเร็วและอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดอย่างทั่วถึง ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลสุขภาพ การให้บริการด้านการขยายตลาดที่ครบวงจร รวมถึงด้าน Commercial Outsourcing Partner ภายใต้หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค หน่วยธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม และหน่วยธุรกิจเทคโนโลยี ที่มีประสบการณ์เกือบ 120 ปีในประเทศไทยและเกือบ 160 ปีในเอเชีย
เกิดเป็นการพัฒนา DKSH Healthcare พันธมิตรทางธุรกิจและผู้นำในด้านการให้บริการด้านการขยายตลาดที่ครบวงจร นำเสนอบริการเชิงกลยุทธ์ที่หลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่ การกระจายสินค้า การวางแผนการตลาดและการขาย รวมถึงบริการด้านการขยายตลาดสำหรับ บริษัทผู้ผลิตเวชภัณฑ์ยา บริษัทผู้ผลิตยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ (OTC) ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เครื่องมือแพทย์ ที่มองหาช่องทางการเติบโตทางธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย
ส่องขุมกำลัง 3 ศูนย์กระจายสินค้าด้าน Healthcare หน่วยธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของ DKSH
ปัจจุบัน DKSH Healthcare มีศูนย์กระจายสินค้าในประเทศไทยทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์กระจายสินค้าเครื่องมือแพทย์ (MDDC) ศูนย์กระจายสินค้าคลังศรีวรินทร์ (SVDC) ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชร (SPDC) ให้บริการพันธมิตรทางธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกว่า 300 ราย ในไทย พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกว่า 35,000 รายการ ครอบคลุมช่องทางต่างๆ เช่น โรงพยาบาล คลินิก แพทย์ เภสัชกรรม ร้านขายยา นอกจากนี้ เรายังพัฒนาช่องทางการดำเนินธุรกิจใหม่ อย่างเช่น อีคอมเมิร์ซ เป็นต้น
โดยมี “ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชร (SPDC)” เป็นศูนย์กระจายสินค้าด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดของ DKSH ในประเทศไทย ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ บนถนนบางนา-ตราด กม.19 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ศูนย์กระจายสินค้าแห่งนี้ยึดหลักการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสุขภาพระดับสากลสูงสุดมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2550
ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 52,000 ตารางเมตร หรือเทียบเท่ากับสนามฟุตบอลเกือบ 5 สนาม DKSH ให้บริการและดูแลพันธมิตรทางธุรกิจด้านสุขภาพมากกว่า 200 ราย และส่งมอบบริการให้แก่คู่ค้ามากกว่า 40,000 รายทั่วประเทศ ครอบคลุมโรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยา โมเดิร์นเทรด และช่องทางการจำหน่ายดั้งเดิม รวมถึงช่องทางอีคอมเมิร์ซทั่วประเทศ
นอกจากนี้ DKSH ยังมีจุดกระจายสินค้า (cross-dock) จำนวน 9 แห่งทั่วประเทศไทย และรถขนส่งสินค้ากว่า 400 คัน รองรับการกระจายสินค้าที่ตรงเวลาและมีประสิทธิภาพทั้งในเขตเมืองและต่างจังหวัดได้อย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าศรีเพชร (SPDC) เป็นศูนย์กระจายสินค้าด้านสุขภาพระดับแนวหน้า ที่ติดตั้งระบบอัตโนมัติและเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานและการกระจายสินค้าด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถบริหารจัดการสินค้ากว่า 35,000 รายการ และดำเนินการกระจายสินค้าได้ถึง 750,000 กล่องต่อเดือน โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 900 คน
ระบบภายในได้มีการบูรณาการเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบอัตโนมัติ และ AI เพื่อปรับปรุงกระบวนการบรรจุและกระจายสินค้าให้รวดเร็ว แม่นยำ และยืดหยุ่น ในขณะเดียวกันก็ทำให้แก่คู่ค้ามั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จะปลอดภัยและได้รับการดูแลจนถึงมือลูกค้า ได้แก่
- D-Pack: เทคโนโลยีการบรรจุสินค้าอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้ถึง 20% พร้อมการป้องกันบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้นสามารถลดการใช้พลาสติกลง 15% และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่บนรถบรรทุกสินค้า
- Machine Vision System: ระบบตรวจสอบด้วยการประมวลผลผ่าน AI สำหรับอุปกรณ์ผ่าตัดที่มีความซับซ้อน ณ ศูนย์กระจายสินค้าเครื่องมือแพทย์ (MDDC) นวัตกรรมดังกล่าวช่วยตรวจสอบความถูกต้องของอุปกรณ์ได้อย่างแม่นยำและช่วยให้ตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆได้เร็วขึ้นถึง 60% โดยยังคงมาตรฐานสินค้าที่ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
- Vertical Lift Systems: นวัตกรรมโซลูชันการจัดเก็บและหยิบสินค้าภายในคลังสินค้าเครื่องมือแพทย์ (MDDC) ที่คำนึงถึงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และการจัดส่งที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าเป็นสำคัญ
- ReSnap: แอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อบันทึกการคืนสินค้าและส่งแจ้งเตือนรายวันให้กับคู่ค้าอำนวยความสะดวกให้ตรวจสอบสินค้าได้รวดเร็วขึ้นและลดความจำเป็นในการเดินทางมาที่คลังสินค้า
ปัจจุบันหน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของ DKSH Healthcare ให้การบริการโซลูชันส์ที่ครบวงจร หลากหลายและสามารถปรับแต่งได้ ได้แก่ การจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ การศึกษาการเปิดตลาด การตลาดและการขาย การตกแต่งบรรจุภัณฑ์ ศูนย์กระจายสินค้า โซลูชันส์หรือแพลทฟอร์มเข้าถึงผู้ป่วยแบบดิจิทัล ไปจนถึงระบบการออกบิลและการเรียกเก็บชำระเงิน
- บริการด้านการตลาดและการขาย (Commercial Services)
- บริการการกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Distribution and Logistics)
- บริการโซลูชันส์เพื่อการเข้าถึงผู้ป่วยแบบดิจิทัล (Patient Solutions Program)
- บริการด้านการกำกับดูแลกิจการ (Regulatory Services)
- บริการด้านการขยายตลาดในรูปแบบดิจิทัล (Digital Market Expansion)
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE