TikTok ประเทศไทยเปิดอินไซต์ แนวคิด และพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยผ่านงาน TikTok Unboxed Finance โดยมีการเปิดผลสำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้แพลตฟอร์ม 760 คนในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในทุก Generations ได้แก่ Gen Z, Millennials, Gen X และ Baby Boomers และพบว่าทุกเจนเนอเรชันล้วนมีแผนในการ “ออมเงิน” กันทั้งสิ้น
คุณสิรินิธิ์ วิรยศิริ Head of Business Marketing, TikTok Thailand กล่าวถึงสิ่งที่ TikTok พบจากการสำรวจครั้งนี้ว่า ทุกเจนเนอเรชันมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย และให้ความสำคัญกับการออมเงิน เพียงแต่มีรูปแบบการออมเงินที่แตกต่างกัน โดยคอนเทนต์ที่ผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสนใจสูงสุด มีดังนี้
- 84% สนใจคอนเทนต์ด้านการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย
- 74% สนใจคอนเทนต์แนะนำแนวทางสร้างรายได้เพิ่ม
- 70% สนใจคอนเทนต์แนะนำการออมเงินและการบริหารหนี้
นอกจากนั้น เมื่อมองลึกลงไป TikTok ยังพบข้อมูลด้วยว่า
- Gen Z: 55% มุ่งใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้จ่ายแบบมีวินัย และหลีกเลี่ยงการซื้อของตามอารมณ์ เพื่อรักษาเงินในมือ
- Millennials: 50% เน้นเก็บเงินก่อน เลือกเก็บออมรายได้ส่วนหนึ่งทุกเดือน ก่อนจะใช้จ่ายกับสินค้าที่ไม่จำเป็น
- Gen X: คล้ายกับ Gen Z 53% เน้นการใช้จ่ายอย่างมีสติ เพื่อควบคุมการเงินให้สมดุล
- Boomers: 69% ให้ความสำคัญกับการบริหารการเงินอย่างมีวินัย โดยพยายามจัดการค่าใช้จ่ายและหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น
รู้จัก “คนสนใจการเงิน” บน TikTok
คุณสิรินิธิ์กล่าวถึงผู้ใช้งาน TikTok ที่ให้ความสนใจด้านการเงิน โดยระบุว่า มากถึง 71% เป็นกลุ่ม White Collars หรือหากแบ่งตามความสนใจ (Interest) ผู้ใช้ TikTok ที่สนใจด้าน Business, Automotive, Home, Travel, Beauty และ F&B (Food & Beverage) ต่างให้ความสนใจศึกษาหาความรู้ด้านการเงินเกิน 50% ทั้งสิ้น
จากข้อมูลการสำรวจของ TikTok พบว่าช่วงไตรมาส 1 และ 4 ผู้ใช้ TikTok ให้ความสำคัญกับการหาข้อมูล วางแผนการสมัครซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทประกันและสินเชื่อสูง และเกือบครึ่งหนึ่งมีการลงทุนสม่ำเสมอทุกเดือนด้วย
8 ประเภทหนี้หลักที่คนไทยแบก
สำหรับประเภทของหนี้ที่ผู้ตอบแบบสอบถามเปิดเผย พบว่ามี 8 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
- Personal Loan 71%
- Car Loan 57%
- Payday Loan 32%
- Home Loan 31%
- Business Loan 21%
- Debt Consolidation Loan 17%
- Education Loan 15%
- Renovation Loan 12%
โดยในไตรมาส 1 และไตรมาส 4 เป็นช่วงเวลาที่ผู้ตอบแบบสอบถามตัดสินใจสร้างหนี้มากที่สุด (29% และ 19% ตามลำดับ)
ส่วนรูปแบบในการลงทุนพบว่า 46% มีการลงทุนทุกเดือน 27% ลงทุนบ่อยกว่านั้น อาจเป็นรายสัปดาห์ และ 25% ลงทุนไม่บ่อยนัก อาจจะ 2 – 3 ครั้งต่อปี
สำหรับประเภทของบัตรเครดิตที่ผู้ตอบแบบสอบถามใช้งานนั้น เป็น Reward Credit card 42% Co-Branded Credit Card 40% Cashback Credit Card 33% และ Travel/Miles Credit Card 21% โดย 86% ใช้ชอปปิงสินค้า 79% ใช้สำหรับจ่ายค่าใช้จ่ายประจำวัน และ 68% ใช้สำหรับการท่องเที่ยว
คอนเทนต์การเงินของ TikTok มาจากครีเอเตอร์ทุกสาย
ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงการสร้างคอนเทนต์ให้ความรู้ด้านการเงินบน TikTok คุณสิรินิธิ์เผยว่ามีภาพที่ต่างไปจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ นั่นคือ ไม่ได้นำเสนอด้วยภาษายาก ๆ โดยครีเอเตอร์ในสาขาต่าง ๆ ล้วนพัฒนาคอนเทนต์ด้านการเงินของตนเอง เช่น คอนเทนต์สายความงาม ก็จะนำเสนอเนื้อหาการออมเงินเพื่อซื้อเครื่องสำอาง ครีเอเตอร์สายครอบครัวก็จะนำเสนอการซื้อประกันให้ลูก ฯลฯ เป็นต้น
สำหรับแท็กในการค้นหาข้อมูลทางการเงินบน TikTok พบว่าปัจจุบันมีการใช้แท็ก #การเงิน #TikTokการเงิน และ #TikTokUni เป็นหลัก
สิ่งที่ TikTok พบเพิ่มเติมก็คือ ผู้ใช้งานเมื่อฟังคอนเทนต์ด้านการเงินจบ 69% มีการเข้าไปศึกษาเพิ่มถึงโปรดักต์ทางการเงินนั้น ๆ ด้วย
ซึ่งจากข้อมูลเหล่านี้ คุณสิรินิธิ์ มองว่า ทำให้ TikTok เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มความบันเทิง แต่กลายเป็น A Hub to Financial Edutainment ที่รวบรวมคอนเทนต์ให้ทั้งสาระความรู้ด้านการเงิน พร้อมความบันเทิงไว้ในที่เดียว และเชื่อว่า TikTok Unboxed Finance จะช่วยให้สถาบันการเงินเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านคอนเทนต์การเงินที่สร้างสรรค์ เพื่อช่วยยกระดับความรู้ทางการเงินของคนไทยได้ดีขึ้น โดยแบรนด์สามารถเข้าไปหาความรู้ – ไอเดียในการทำคอนเทนต์ได้จาก 3 ช่องทางหลัก ดังนี้ Top Ads (เว็บไซต์ของ TikTok ที่รวบรวมโฆษณาเด่น ๆ เอาไว้) Keyword Insights และ Trending Hashtag