หลัง บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS ประกาศบรรลุข้อตกลงในการถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษแต่เพียงผู้เดียวใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา และลาว ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และไฮไลต์ในทุกแพลตฟอร์มการรับชม ตั้งแต่ฤดูกาลหน้า 2025/26 เป็นต้นไป รวม 3 ฤดูกาล
รวมทั้งรอ The Football Association Premier League Limited (FAPL) ประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ว่าจะได้รับสิทธิ 6 ฤดูกาลหรือไม่ รวมมูลค่าลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ 6 ฤดูกาลอยู่ที่ 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 19,167 ล้านบาท
ล่าสุด “ทรูวิชั่นส์” ผู้ได้รับสิทธิพรีเมียร์ลีก 3 ฤดูกาล 2022/23 – 2024/25 ปัจจุบัน รายงานว่าได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ (EPL) ฤดูกาลหน้า 2025-2028 โดยได้ยื่นข้อเสนอไปในราคาที่เหมาะสม แต่มีรายอื่นที่เสนอราคาสูงกว่าและได้รับสิทธิไป
ทรูวิชั่นส์ ยืนยันว่าสมาชิกยังสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ผ่านทุกช่องทางของทรูได้อย่างต่อเนื่องจนสิ้นสุดฤดูกาลในเดือนพฤษภาคม 2568 และผลจากการประมูลครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของทรู คอร์ปอเรชั่น
คุณองอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ทรูวิชั่นส์ มีความตั้งใจมาโดยตลอดที่จะให้ได้มาซึ่งคอนเทนท์ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งในครั้งนี้ก็เช่นกันได้เข้าร่วมประมูลลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2025-2028 แม้ได้ยื่นข้อเสนอแข่งขันไปในราคาที่เหมาะสม แต่เนื่องจากมีผู้ร่วมประมูลรายอื่นเสนอราคาสูงกว่าจึงได้รับสิทธิการถ่ายทอดสำหรับฤดูกาลหน้าไป”
สมาชิกทรูวิชั่นส์ยังคงสามารถรับชมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2024/2025 ได้จนถึงเดือนพฤษภาคม 2568 รวมทั้งยังสามารถรับชมคอนเทนท์กีฬาฟุตบอลระดับโลกอื่น ๆ บนทรูวิชั่นส์ เช่น ลาลีกา,บุนเดสลีกา, ซาอุดิลีก, ซาอุดี คิงส์คัพ, เอลีก (ออสเตรเลียน ลีก), ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่ายูโรปา ลีก, ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก, เอฟเอคัพอังกฤษ รวมถึงฟุตบอลไทยลีก1 ไทยลีก2, ช้างเอฟเอคัพ และ รีโวคัพ
อ่านเพิ่มเติม
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE