เพื่อให้ “กระเป๋าเสื้อผ้า” เดินทางอย่างปลอดภัยมากขึ้นในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สายการบินอย่างน้อย 15 รายได้เริ่มประกาศความร่วมมือกับ Apple ในการใช้ฟีเจอร์ Find My เพื่อแชร์ข้อมูล AirTag ที่ติดกับกระเป๋าของผู้โดยสารกันแล้ว ซึ่งความร่วมมือนี้มีขึ้นเพื่อให้สายการบินสามารถค้นหาตำแหน่งกระเป๋าผู้โดยสารที่หล่นหาย และส่งคืนได้เร็วขึ้นนั่นเอง
สำหรับฟีเจอร์นี้พบว่าได้เริ่มนำไปประยุกต์ใช้จริงเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจาก Apple ได้อัปเดตระบบปฏิบัติการ iOS อนุญาตให้ผู้ใช้ iPhone สามารถแชร์โลเคชันของ AirTags กับบุคคลภายนอกได้ (รวมถึงสายการบิน) โดยปัจจุบันมีสายการบินมากกว่า 15 รายสามารถติดตามสัมภาระของผู้โดยสารผ่านฟีเจอร์ใหม่นี้แล้ว ได้แก่
- บริติช แอร์เวย์
- เดลต้า แอร์ไลน์
- Deutsche Lufthansa AG
- สิงคโปร์แอร์ไลน์
- Aer Lingus
- Air Canada
- Air New Zealand
- Austrian Airlines
- Brussels Airlines
- Eurowings
- Iberia
- KLM Royal Dutch Airlines
- Qantas
- Swiss International Air Lines
- Turkish Airlines
- United, Virgin Atlantic
- Vueling
เมื่อ AirTag ต้องทำงานกับสายการบิน
สำหรับผู้โดยสารที่พบว่ากระเป๋าเดินทางไม่มาปรากฏตัวตามนัด และในกระเป๋ามี AirTags อยู่ สามารถสร้างลิงค์เพื่อแชร์โลเคชันกับทางสายการบินเหล่านี้ได้เลย จากนั้น เจ้าหน้าที่จะค้นหาผ่านระบบของสายการบิน โดยตัวลิงค์จะหมดอายุไปเองใน 7 วัน (หรือจะหมดอายุทันทีที่กระเป๋าถูกส่งกลับถึงมือเจ้าของ)
และเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นนโยบายหลักของ Apple ทางบริษัทมีการจำกัดจำนวนผู้ที่สามารถเข้าถึง Link โลเคชันดังกล่าวเอาไว้ด้วย และใครที่จะเปิด Link ต้องมีการยืนยันตัวตนก่อนทุกครั้งผ่าน Apple Account หรือการใช้อีเมลแอดเดรสของผู้ให้บริการสายการบิน
สำหรับฟีเจอร์ใหม่นี้ ฝ่าย Customer Service ของสายการบิน Delta เผยว่า เป็นเรื่องที่ดี พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับระบบติดตามกระเป๋าว่า โดยปกติแล้ว กระเป๋าเดินทาง 99% จะถูกส่งไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างถูกต้อง แต่หากเกิดกรณีกระเป๋าเดินทางสูญหาย ผู้โดยสารย่อมทุกข์ใจ และหากมีฟีเจอร์ Find My ใน AirTags มาช่วยติดตามก็จะลดความทุกข์ใจของผู้โดยสารลงได้นั่นเอง
ส่วนระบบติดตามสัมภาระของผู้โดยสารสายการบินในปัจจุบันพบว่ามีบริษัท SITA เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ โดยมีการใช้งานมากกว่า 500 สายการบิน และท่าอากาศยาน 2,800 แห่งทั่วโลก ซึ่งจากการคาดการณ์ของบริษัทพบว่า ภายในปี 2040 การเดินทางโดยเครื่องบินจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลานี้ ทางบริษัทจึงมองว่า การมี AirTags ของแอปเปิลมาช่วยจะทำให้การจัดส่งสัมภาระทำได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่ได้มองว่า AirTags เป็นภัยคุกคามของบริษัทแต่อย่างใด
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ <a href=”https://page.line.me/rxy0647y?openQrModal=true” target=”_blank” rel=”noopener”>LINE</a>