ปัจจุบัน ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกธุรกิจ เห็นได้จากการที่องค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ต่างปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้กันอย่างคึกคัก เช่น การนำมาวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ การสร้างประสบการณ์กับลูกค้า หรือการนำไปใช้เพื่อคาดการณ์แนวโน้มตลาดที่แม่นยำยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การศึกษาของ IDC ในหัวข้อ Business Oppotunity of AI ยังพบว่า ในปี 2024 การใช้งาน Gen AI เพิ่มขึ้นเป็น 75% จาก 55% ในปี 2023 ด้วย โดยหนึ่งในตัวอย่างสำคัญของการใช้ AI มาช่วยในการทำงานระดับองค์กร ก็คือ “Copilot” จาก Microsoft ที่สามารถช่วยพนักงานในองค์กรสร้างเอกสาร วางแผนการตลาด หรือแม้กระทั่งเขียนโค้ดโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยให้พนักงานโฟกัสกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มากขึ้น
ในงานสัมมนา UNLOCK THE FUTURE by Brand Buffet : Equipped for 2025 ปลดล็อคอนาคตสู่การตลาดยุคใหม่ จึงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ คุณวสุพล ธารกกาญจน์ Chief Operating Officer – Microsoft Thailand ได้เผยถึงกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ตลอดจนข้อมูลความก้าวหน้าของปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้
“ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาปลดล็อกข้อจำกัดหลาย ๆ อย่างในโลกแห่งการทำงาน อันดับแรกคือเรื่องของ User Interface ที่จากเดิม คนต้องเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์ แต่ปัจจุบัน AI กำลังทำให้คอมพิวเตอร์เป็นฝ่ายเข้าใจมนุษย์แทน”
จากจุดนั้น Microsoft ได้สร้างโปรดักต์ที่ชื่อ Copilot ขึ้นมา พร้อมกับให้นิยามว่า มันคือ User Interface of AI จากนั้น Microsoft ได้นำ Copilot ไปประกบกับโปรดักท์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, PowerPoint ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เข้าถึง AI ได้สะดวกมากขึ้น
นอกจากนั้น หากใครสังเกตุจะพบว่า แต่เดิมการสั่งงาน AI บน Copilot อาจเป็นการพิมพ์แชท แต่ปัจจุบัน สามารถสั่งงานได้ด้วยวิธีอื่น ๆ แล้ว เช่น การสั่งงานด้วยเสียง เป็นต้น
เปิดเคส SME ไทย สร้าง AI จากคนเก่งในองค์กร
หนึ่งในกรณีศึกษาที่มาจากผู้ประกอบการ SME ของไทยคือ การนำ AI มาใช้ด้าน Knowledge Management โดยคุณวสุพลเล่าถึงเคสดังกล่าวว่า “เรามี SME ไทยหลายเจ้าที่เจอกับความท้าทายในเรื่องการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น คือเขามีคนเก่งอยู่ในองค์กร แต่เป็นคนในยุคคุณพ่อ ซึ่งพนักงานเหล่านี้มีความรู้ในธุรกิจเยอะมาก สิ่งที่เขาต้องการคือให้ AI รับข้อมูลทั้งหมดจากคน ๆ นี้ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลและนำไปถ่ายทอดต่อให้พนักงานรุ่นใหม่ ๆ ต่อไป”
“ในอดีต กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นได้ยาก แต่ปัจจุบัน เราสามารถทำได้แล้ว โดยเราสามารถป้อนข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นตัวหนังสือ เสียง วิดีโอ ฯลฯ ให้ AI ได้เรียนรู้ นี่คือความสามารถด้าน Knowledge Management เลย เมื่อสร้างเสร็จ พนักงานรุ่นใหม่ ๆ ก็สามารถมาถามได้ และเขาก็ตั้งชื่อ AI เป็นชื่อของพนักงานท่านนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติด้วย”
“ข้อดีของการพัฒนาเทคโนโลยีรอบนี้คือเทคโนโลยีนั้นเปิดกว้างมากขึ้น คนที่ได้ประโยชน์คือคนที่อยู่นอกวงการ ไม่ต้องเขียนโปรแกรมเป็นก็สั่งให้ AI เขียนแอปให้ได้”
เตรียมตัวก้าวสู่ยุค Agentic AI
แม้การทำงานโดยมี AI เป็นผู้ช่วยจะทำให้เกิด Productivity มากมาย แต่โลกของ AI ยังไม่จบแค่นั้น เพราะสิ่งที่จะตามมาจากการมี Gen AI ใช้งานในองค์กรคือการทำงานร่วมกันของ AI มากกว่าหนึ่งตัว หรือที่ไมโครซอฟท์เรียกว่า Agentic AI ซึ่งเป็นระดับการใช้งาน AI ขั้นสูง กับการสั่งให้ AI ตัวที่หนึ่งทำงานร่วมกับ AI ตัวที่สอง – ตัวที่สาม โดยคุณวสุพลระบุว่า เมื่อโลกการทำงานก้าวไปสู่จุดดังกล่าว การทำงานจะเริ่มเปลี่ยนเป็นระบบออโตเมชันมากขึ้น และเมื่อ AI ทำงานร่วมกัน เราอาจได้เห็นการทำงานของ AI ข้ามองค์กร (cross-organization agent) เกิดขึ้นก็เป็นได้ (แต่ทั้งสององค์กรอาจต้องมีความไว้ใจซึ่งกันและกันอย่างมากด้วย)
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหรือผลประกอบการ แต่ยังนำมาซึ่งความท้าทายเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและการใช้งานอย่างมีจริยธรรมด้วย โดยองค์กรที่ปรับตัวได้จะกลายเป็นผู้นำในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ ขณะที่องค์กรที่มองข้ามบทบาทของ AI อาจล้าหลังไปอย่างถาวร
“องค์กรจะมีคำถามมากกว่าคนธรรมดา สิ่งที่ Microsoft บอกเสมอก็คือ ไม่มี free lunch ในโลก เพราะฉะนั้น ถ้าเป็น AI ฟรี ต้องอ่าน term and condition ให้ละเอียด ว่าในการใช้ตัวฟรี ต้องแชร์ข้อมูลให้เขาหรือเปล่า”
“แต่ถ้าเป็นองค์กร ไมโครซอฟท์แนะนำให้ใช้ AI ที่ออกแบบมาเพื่อองค์กร เพราะในกรณีที่ต้องนำข้อมูลบริษัทไปถาม AI ข้อมูลไม่ควรจะถูกแชร์ หรือเอาไปใช้ในทางอื่น ๆ เพราะถือว่าลูกค้าซื้อเอไอไปใช้ เช่นเดียวกับ Copilot เวอร์ชันองค์กร ข้อมูลของลูกค้า ไมโครซอฟท์ไม่มีสิทธิ์แชร์ หรือนำไปใช้ในทางอื่น ๆ เช่นกัน” คุณวสุพลกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับใครที่อยากเข้าใจการทำงาน และวิธีประยุกต์ใช้ AI ทางธุรกิจในฉบับเต็ม สามารถติดตามได้จากลิงค์การบรรยายของคุณวสุพลด้านล่างนี้