HomeReal Estate & Condoเบื้องหลัง “พราว เรียล เอสเตท” Re-Positioning ใหม่ รอบ 6 ปี ขออัพตัวเองเป็น Well Being Developer ใน 2 ปี

เบื้องหลัง “พราว เรียล เอสเตท” Re-Positioning ใหม่ รอบ 6 ปี ขออัพตัวเองเป็น Well Being Developer ใน 2 ปี

แชร์ :

(จากซ้ายไปขวา) คุณพราวพุธ-คุณพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร และคุณภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยมีแบรนด์น้องใหม่อย่าง “บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)” หรือ “PROUD” เข้ามาทำตลาดปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้ว ซึ่งตลอดเส้นทางถือว่าไม่ง่ายเลย ต้องเผชิญกับผู้เล่นรายใหญ่ที่ทำตลาดมานาน และส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคคุ้นเคยเป็นอย่างดี อีกทั้งช่วงที่เข้ามาบุกตลาดยังเป็นช่วงที่โควิดกำลังก่อตัวพอดี จึงทำให้ พราว เรียล เอสเตท เลือกปักหมุดมาที่การพัฒนาอสังหาฯ แนวใหม่ บนแนวคิด More Than Just Living ด้วยการนำบริการระดับโรงแรมมาสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แตกต่างที่มากกว่าการอยู่อาศัย

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ทว่าวันนี้ “พราว เรียล เอสเตท” ได้ลุกขึ้นมาปรับจุดยืนทางการตลาดใหม่ สู่การพัฒนาอสังหาฯ บนแนวคิด “ALL IS WELL” หรือ “เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน” ซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนตัวเองครั้งสำคัญ หลังจากเข้ามาบุกตลาดอสังหาฯ ครั้งแรกในปี 2562 จึงน่าสนใจว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้พราว เรียล เอสเตท ตัดสินใจปรับเปลี่ยนตัวเองในครั้งนี้ Brand Buffet ชวนมาถอดวิธีคิด พร้อมกับยุทธศาสตร์การสร้างแบรนด์นับจากนี้ที่ตั้งเป้าภายใน 2 ปีจะขยับสู่การเป็น Well Being Developer

ใช้ความแข็งแกร่งของธุรกิจครอบครัว สู้ศึกอสังหาฯ

แม้ว่าพื้นฐานเดิมของ “ครอบครัวลิปตพัลลภ” จะทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โรงแรม และสวนน้ำมาก่อน แต่ด้วยความเป็นน้องใหม่ในตลาดอสังหาฯ รวมทั้งการแข่งขันของตลาดอสังหาฯ เมื่อ 6 ปีที่แล้วก็ดุเดือดมาก ทำให้ คุณพราวพุธ และคุณพสุ ลิปตพัลลภ ต้องการวางคาแรกเตอร์ของแบรนด์ให้แตกต่างจากคู่แข่ง จึงได้นำความเชี่ยวชาญของธุรกิจครอบครัว มาผสานกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย พร้อมกับวาง Positioning เป็นอสังหาฯ “ที่มากกว่าการอยู่อาศัย” หรือ “More Than Just Living” โดยเน้นเรื่องการดีไซน์ และการให้บริการที่ตอบการใช้ชีวิตจริง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้คุณภาพชีวิตที่ดี

ขณะเดียวกัน ยังเลือกปักหมุดในโลเคชันเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพอย่างหัวหิน ด้วยการเปิดตัว “อินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน” เป็นโครงการแรก ซึ่งเป็น Branded Residence อสังหาฯ แห่งแรกของไทยที่ใช้แบรนด์อินเตอร์คอนติเนนตัล ของ IHG เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการคอนโดแนวบ้านพักตากอากาศติดชายหาด แต่หลังเปิดตัวได้ไม่นาน ก็เกิดโควิด บวกกับ 6 ปีที่ผ่านมาพราว เรียล เอสเตท มีการเปิดตัวโครงการใหม่ไม่ถี่มากนัก จึงทำให้ภาพการใช้ชีวิตที่มากกว่าอยู่อาศัยยังไม่ชัด

“พราว เรียล เอสเตท ยังเป็นเหมือนเด็ก อีกทั้งคอนเซปต์เดิมอาจจะกว้างไป และก่อนหน้านี้เรามีโครงการอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน เพียงแห่งเดียวที่สร้างเสร็จ ทำให้ฐานลูกค้าไม่ได้กว้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้า Luxury จึงส่งผลให้ลูกค้า Mass รู้จักเราไม่มาก” คุณภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บอกถึง Brand Awareness ของผู้บริโภค และเป็นเหตุผลให้บริษัทต้องการปรับจุดยืนใหม่มาเป็น ALL IS WELL

อสังหาฯ เพื่อสุขภาพคือ โอกาส ปรับลุคใหม่สู่ ALL IS WELL

แล้วจุดยืนใหม่ของพราว เรียล เอสเตท น่าสนใจอย่างไร ต้องบอกว่า การ Re-Positioning ในครั้งนี้ นอกจากบริษัทต้องการสะท้อนภาพการใช้ชีวิตที่มากกว่าการอยู่อาศัยที่บริษัททำมาต่อเนื่องให้ชัดเจนมากขึ้นแล้ว พราว เรียล เอสเตท ยังต้องการก้าวสู่การเป็น “Well Being Developer” หรือผู้นำอสังหาฯ เพื่อสุขภาพ เพราะเล็งเห็นถึงโอกาสของตลาดที่เติบโตสูง สะท้อนได้จากข้อมูลของ Global Wellness Institute ระบุว่า ในปี 2566 ตลาด Wellness มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 6.32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 220 ล้านล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่กว่าอุตสาหกรรมไอที และตลาดสปอร์ต และในอีก 5 ปีจากนี้ คาดว่า ตลาด Wellness จะมีการเติบโตถึง 7.3% โดยมีมูลค่า 8.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 313 ล้านล้านบาท

ที่น่าสนใจคือ ตลาด Wellness Developer มีโอกาสเติบโตสูงถึง 15.8% แม้ว่าปัจจุบันตลาดยังเล็กมาก ทั่วโลกมีสัดส่วนแค่ 6% ส่วนในไทยมีสัดส่วนเพียง 1.3% เท่านั้น แต่คุณภูมิพัฒน์ บอกว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2023-2028) ตลาด Wellness Developer เติบโตถึง 10% ซึ่งถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับตลาดก่อสร้างที่มีการเติบโตเพียง 0.8% และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง

ดังนั้น หากพราว เรียล เอสเตท สามารถปักหมุดในตลาดนี้ได้ ไม่เพียงจะช่วยให้ภาพของแบรนด์ชัดขึ้นเท่านั้น ยังสามารถสร้างการเติบโตให้กับ PROUD แบบก้าวกระโดดไปพร้อมกัน

ไม่ใช่ Senior Living ขอ 2 ปี ก้าวสู่ Well Being Developer

ต้องยอมรับว่า อสังหาฯ เพื่อสุขภาพ เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อพูดถึง Well Being คุณพราวพุธ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บอกว่า คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึง Senior Living หรือที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย เพราะมองว่า Well Being และ Wellness เป็นคำที่มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่ 2 คำนี้สำหรับพราว เรียล เอสเตท มีความหมายต่างกันมาก โดย Wellness คือ การมีสุขภาพแข็งแรง ส่วน Well Being คือ การมีคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืนในระยะยาว จึงต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ Wellness

ดังนั้น Well Being Developer ในมุมของพราว เรียล เอสเตท จึงไม่ใช่แค่ Senior Living แบบที่เคยเห็นกัน โดยทุกโครงการจะนำแนวคิด Well Being for All มาใช้เป็นหลักในการพัฒนาโครงการ ผ่าน 5 องค์ประกอบหลัก ดังนี้ 1. WELL-CRAFTED DESIGN: การออกแบบที่คำนึงถึงสุขภาวะและความปลอดภัยของทุกชีวิตในบ้าน 2. WELL-LIVING AMENITIES: สิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการอยู่อาศัยและพักผ่อนกายใจ 3. WELL-CURATED SERVICES: บริการพิเศษสำหรับการดูแลบ้านและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย 4. WELL COMMUNITY: การสร้างสังคมน่าอยู่ ผ่านการทำกิจกรรมกับชุมชนรอบข้าง และ 5. WELL SUSTAINABILITY: การอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการออกแบบเพื่อทุกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น คุณพราวพุธ ได้ยกตัวอย่างฟังก์ชันและการออกแบบที่คำนึงถึงสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย โดย พราว เรียล เอสเตท ได้นำมาตรฐาน FITWEL ซึ่งเป็นมาตรฐานอาคารเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยมาพัฒนาคอนโดในทุกโครงการ รองรับการใช้ชีวิตของคนทุกเจนเนอเรชั่น ทำให้โครงการมีพื้นที่เขียวเชื่อมต่อกับพื้นที่ในบ้าน พร้อมกับจำกัดมลพิษทั้งเสียงและฝุ่นที่จะเข้ามาภายในบ้าน รวมถึงเลือกใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขณะที่พื้นที่ส่วนกลาง จัดให้มีพื้นที่ออกกำลังกายหลากรูปแบบ ควบคู่ไปกับกิจกรรม Mental Wellness

ส่วนในด้านการบริการ จะมีผู้ช่วยส่วนตัวที่ตอบการใช้ชีวิตยุคใหม่ โดยจะลงไปศึกษาการใช้ชีวิตของลูกค้า แล้วนำมาออกแบบเป็นบริการต่างๆ เช่น บริการรถกอล์ฟรับตั้งแต่จอดรถ พร้อมผู้ช่วยถือกระเป๋าส่งถึงห้องพัก รวมไปถึงบริการทำความสะอาดทุก 2 สัปดาห์ และล่าสุดกับบริการ Health Butler ที่จะคอยดูแลสุขภาพผู้อยู่อาศัยในโครงการ ทั้งยังส่งพนักงานเข้าไปเป็น FITWELL Ambassador และจับมือกับเครือโรงพยาบาลกรุงเทพเพื่อฝึกอบรมพนักงานในการดูแลสุขภาพและปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับลูกบ้าน เพื่อให้มีความเข้าใจในการสร้างไลฟ์สไตล์ที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยทุกคน

คุณภูมิพัฒน์ เชื่อว่า หลังจากปรับจุดยืนใหม่ บวกกับการเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นในตลาด โดยในปี 2025 จะเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่ารวม 9,200 ล้านบาท บนพื้นที่ 3 ทำเล คือ ชานเมืองกรุงเทพฯ หัวหิน และภูเก็ต รวมถึงสื่อสารการตลาดเชิงรุกมากขึ้น จะช่วยให้ผู้บริโภคเห็นภาพของพราว เรียล เอสเตท ชัดเจนมากขึ้น และทำให้ PROUD ก้าวสู่การเป็น Well Being Developer ภายในปี 2026 อย่างแน่นอน

จากนี้เราจะโตแบบ Big Jump

แม้ว่าปีนี้สถานการณ์อสังหาฯ จะท้าทาย แต่ คุณพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บอกว่า 9 เดือนแรกของปี บริษัทสามารถทำรายได้รวม 2,015 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท ซึ่งดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมาก ส่วนปี 2024 คาดว่าจะเติบโตก้าวกระโดดทั้งรายได้และกำไร โดยคาดการณ์ว่ารายได้อยู่ที่ 9,500 ล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานในมืออยู่ราว 11,000 ล้านบาท และสามารถทำการขายได้เกือบ 90% แล้ว ประกอบกับจุดยืนใหม่ และทำเลที่ขยายเข้าไปบุกตลาดล้วนเป็นทำเลที่มีศักยภาพ

“ที่ผ่านมาเราอยู่ในจุดของการ Turn Around และ 2 ปีที่แล้วเราเริ่มกลับมาเป็นบวก จากนี้ไปเราจะ Big Jump” คุณภูมิพัฒน์ ย้ำด้วยความมั่นใจ

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like