กลุ่มธุรกิจ TCP นับว่าเป็นยักษ์ใหญ่เครื่องดื่มของเมืองไทย และยังมีแบรนด์ที่ทำตลาดในระดับโลก แต่ยังคงต้องเติบโตต่อเนื่องทั้งในไทยและต่างประเทศ
หากมองกลับมาสำหรับปี 2567 บริษัทวางหมากรบมากมายเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ สร้างการเติบโต โดยสร้างความสำเร็จได้อย่างดี ภายใต้เป้าหมาย “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ชู 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ ปลุกพลังแบรนด์สินค้า (Fulfilling) ปลุกพลังธุรกิจเติบโต (Growing) และปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม (Caring)
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดเผยว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจในปี 2567 นี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์คุณภาพในนวัตกรรมใหม่ๆ หลากหลายแบรนด์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางธุรกิจที่เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง สู่การขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการสร้างแบรนด์ที่สอดคล้องกับเทรนด์โลก ที่หันมามุ่งเน้นด้านการสร้างความยั่งยืนในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย ประกอบด้วยมิติต่างๆ ดังนี้
ปลุกพลังแบรนด์สินค้า
กลุ่มธุรกิจ TCP มุ่งสร้างผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและปั้นแบรนด์ระดับโลกใหม่ๆ ตอกย้ำความเป็น “House of Great Brands” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย อาทิเช่น
-“เรดบูล โซดา” ส่งรสชาติใหม่ “บลูเบอร์รี แบล็กเคอร์แรนต์” ร่วมพัฒนากับทีมเบคอนไทม์ Pro Player ROV อีสปอร์ต ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ พร้อมปลุกพลังการเติบโตในตลาดพรีเมียม
-เปิดตัว “สปอนเซอร์ ไอโซโทนิก” เครื่องดื่มเกลือแร่สูตรหวานน้อย คืนความสดชื่นได้ไวเป็นครั้งแรกของไทย รับเทรนด์ Health & Wellness และตอกย้ำ “เจ้าตลาด” สปอร์ตดริงก์มูลค่า 5,400 ล้านบาท
-สปอนเซอร์ สร้างประวัติศาสตร์แบรนด์ไทยแบรนด์แรก ผนึก Volleyball World สนับสนุนการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2024 (VNL) รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรก ช่วยสร้างแบรนด์ให้เข้าถึงผู้บริโภคไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน ในช่วงมีการแข่งขัน
-“ฟาร์มซ่า” (FarmZaa) เครื่องดื่มจากน้ำมะปี๊ดโซดา ลุยแคมเปญ “FarmZaa ปันน้ำใจสู่เกษตรกรไทย” เมื่อซื้อฟาร์มซ่าทุก 1 กระป๋อง จะได้ร่วมบริจาค 1 บาท สมทบให้มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ หนุนเกษตรกรไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
-เปิด Red Bull Skate Park ร่วมกับกรุงเทพมหานคร พัฒนาสนามกีฬาในศูนย์กีฬาเบญจกิติให้เป็น ‘สเกตพาร์กสาธารณะในร่มแนวสตรีตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย’ ย้ำภาพเจ้าแห่งกีฬาเอ็กซ์ตรีมพร้อมส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี
ปลุกพลังธุรกิจเติบโต
กลุ่มธุรกิจ TCP รุกขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มระดับนานาชาติ
-การโฟกัสตลาดจีน เจาะตลาดเครื่องดื่มให้พลังงาน ที่มีศักยภาพมูลค่าตลาดสูงถึง 3 แสนล้านบาท บริษัททุ่มงบลงทุน 6,500 ล้านบาท สร้างโรงงานที่กว่างซี เพื่อเดินเครื่องผลิตสินค้าแห่งที่ 3 ต้นปี 2568
-ส่งแบรนด์ สปอนเซอร์ เรดดี้ และวอริเออร์ โชว์ศักยภาพในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 พร้อมรุกตลาดใหม่ในแอฟริกา อินเดีย และตะวันออกกลาง เป็นต้น 
ปลุกพลังห่วงใยสิ่งแวดล้อม
กลุ่มธุรกิจ TCP ร่วมกับพันธมิตรเดินหน้าบริหารจัดการน้ำ เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย Net Water Positive หรือ การใช้น้ำสุทธิเป็นบวก ด้วยการคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าที่ใช้ในการผลิต และมีความคืบหน้าจากการดำเนินงานด้านความยั่งยืน 4 ด้าน ดังนี้
1. Product Excellence ในปี 2567 ได้เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ทางเลือกสุขภาพ ทั้งปรับสูตร และพัฒนาสูตรใหม่ 13 รายการ(SKUs) คิดเป็น 72.92% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด จากตั้งเป้า 80% ในปี 2569
2. Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนมุ่งพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้รีไซเคิลได้ 100% ภายในปี 2567 นำร่องใช้ขวด rPET ในผลิตภัณฑ์แมนซั่ม คอลลาเจน สูตรน้ำตาลน้อย เพื่อลดการใช้พลาสติกใหม่ หรือ Virgin Plastic PET
3. Low Carbon Economy หรือเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 10% และใช้พลังงานหมุนเวียนกว่า 80% โดยตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593
4. Water Sustainability การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้ 24% เมื่อเทียบกับปี 2562 และสามารถคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนภายใต้โครงการ TCP โอบอุ้มลุ่มน้ำไทยได้มากกว่า 1.5 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ปัจจุบันสามารถคืนน้ำกลับให้ชุมชนสะสมมากกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP บรรลุเป้าหมาย Net Water Positive ก่อนเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2573
นอกจากนี้ ยังการทำกิจกรรมด้านความยั่งยืนอีกหลายรูปแบบ ได้แก่ การจัดงานประชุมด้านความยั่งยืน TCP Sustainability Forum 2024, การจัดแคมเปญ WEnergy for the world, การได้รับโล่เกียรติคุณองค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ประจำปี 2567 (Climate Action Leading Organization: CALO) ระดับยอดเยี่ยม, การได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทอาคารสำนักงานโรงงาน และการเปิด “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ” เป็นต้น
“ยุทธศาสตร์ข้างต้น ไม่ใช่แค่การขยายธุรกิจ การสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ให้มีความแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังมุ่งช่วยสร้างโลกให้ดี เพื่อก้าวข้ามผ่านความท้าทายทางเศรษฐกิจ และตอกย้ำบทบาทขององค์กรไทยที่สามารถแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของเอเชีย”
กล่าวโดยสรุปคือ กลุ่มธุรกิจ TCP เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้เป้าหมาย “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” ด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างแบรนด์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ การขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก และการพัฒนาความยั่งยืนในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือการเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของเอเชีย ทั้งหมดนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการสร้างความสำเร็จและความยั่งยืนทั้งในด้านธุรกิจและการมีส่วนร่วมดูแลโลกเพื่ออนาคตที่ดีกว่า