นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาไทยขึ้นแท่นประเทศจุดหมายปลายทางเบอร์ต้นๆ ของโลกที่นักท่องเที่ยวอยากมาเยือนมากที่สุด ทำให้หลายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้ง สายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร ฯลฯ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลจาก อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการท่องเที่ยว เผยข้อมูลเชิงลึก พบว่าทวีปเอเชียคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวยุโรป โดย “ไทย” กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ในเอเชีย สำหรับนักท่องเที่ยวชาวยุโรป และไม่เพียงแต่ติดอันดับจุดหมายปลางทางยอดนิยมนอกยุโรป แต่ยังเป็นที่นิยมมากขึ้นอีกด้วย ข้อมูลของอโกด้าชี้ว่านักท่องเที่ยวชาวยุโรปค้นหาที่พักเพื่อไปท่องเที่ยวในเอเชียมากขึ้นถึง 52% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
แนวโน้มการเติบโตทั้งหมด ส่งผลให้ธุรกิจการบินได้รับอานิสงส์ให้เติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในส่วนของธุรกิจสายการบินเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่การเติบโตและแนวโน้มต่างๆ หลายคนคงเห็นได้ชัดจากผลประกอบการและอัตราผู้โดยสาร ทว่าในมุมของ “Private Jet” หรือ กลุ่มผู้ให้บริการเช่าเครื่อบินเล็ก และเฮลิคอปเตอร์ ความนิยม และทิศทางจะเป็นอย่างไร ? ต่อไป
BrandBuffet สัมภาษณ์พิเศษ “คุณไชย ณ ศีลวันต์” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Advance Aviation ผู้ให้บริการธุรกิจให้เช่า เฮลิคอปเตอร์ ที่มีสีส้มอันโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์ ถึงแนวโน้มของธุรกิจ เทรนด์ของลูกค้า ตลอดจนความท้าทายในอุตสาหกรรมการบินของไทยนับจากนี้
“คุณไชย” เริ่มต้นฉายภาพความเป็นมาของธุรกิจว่า เกิดจากจุดเริ่มต้น ที่เห็นคุณพ่ออย่าง “คุณเชาว์ ณ ศีลวันต์” ซึ่งขณะนั้นยังเป็นประธานองคมนตรีในรัชกาลที่ 9 เมื่อต้องไปปฏิบัติภารกิจหน้าที่หรือประชุม จำเป็นต้องเดินทางจากบ้านที่ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อไปทำงานที่ หัวหิน ทุกวันอังคาร นั่นทำให้เจ้าตัวมองหาวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายสำหรับ “คุณพ่อ” เพื่อให้ง่ายต่อการทำงานให้มากที่สุด
“เฮลิคอปเตอร์” ก็คือคำตอบ เพราะด้วยระยะเวลาการเดินทาง ความสะดวกหลายๆ อย่าง ทำให้เจ้าตัวเลือกใช้เงินมูลค่ากว่า 4.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 169 ล้านบาท ซื้อเฮลิคอปเตอร์ลำแรก Airbus Helicopters รุ่น EC-135 ไว้ให้คุณพ่อใช้ในการเดินทาง ก่อนจะขยับขยายมาเป็นผู้ให้บริการในเวลาต่อมา โดยมีลูกค้ารายใหญ่เป็นกลุ่ม SKY NEWS ของช่องต่างๆ เป็นลูกค้ากลุ่มแรกๆ
“สมัยก่อนเราเดินทางจากชลบุรี ไปหัวหิน ระยะทางไกลมาก คุณพ่อก็อายุเยอะ ซึ่งการเดินทางในตอนนนั้นผมต้องใช้เวลาขับรถด้วยระยะทางร่วมพันกิโลเมตร จากศรีราชาไปหัวหิน เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง ขณะที่การใช้เฮลิคอปเตอร์ใช้เวลาเดินทางเพียง 35 นาที นั่นเองจึงเป็นที่มาของการซื้อเฮลิคอปเตอร์ลำแรกรุ่น EC-135 ไว้ใช้งานจนกลายมาเป็นธุรกิจส่วนตัวในที่สุด”
เริ่มจากความ “ชอบ” สู่ ธุรกิจ “Private Jet” ในปี 2550
การเริ่มต้น “ธุรกิจการบิน” ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ “คุณไชย ณ ศิลวัน” ให้ความสนใจ หากแต่เจ้าตัวให้ความสนใจในเรื่องของ “การบิน” มาตั้งแต่จำความได้ และเป็นหนึ่งในความชอบส่วนตัวมาโดยตลอด และแม้เจ้าตัวจะเรียนด้านวิศวกรรม หากแต่ “คุณไชย” เริ่มประกอบอาชีพแรกคือด้านธุรกิจและการธนาคาร ทำให้เจ้าตัวมีความเชี่ยวชาญเรื่องการเงินเป็นอย่างดี ดังนั้นก้าวแรกในการทำธุรกิจของตัวเองจึงเลือกลงทุนทั้งหมดด้วยเงินสดที่มีในมือ โดยไม่พึ่งพาเงินกู้จากธนาคารแต่อย่างใด
โดยเริ่มก่อตั้ง บริษัท แอ็ดวานซ์ เอวิเอชั่น จำกัด (Advance Aviation) เมื่อปี 2550 ในฐานะของผู้ริเริ่มให้บริการเช่าเหมาลำวีไอพีเฮลิคอปเตอร์เจ้าแรกในกรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทแอร์บัสเฮลิคอปเตอร์ จัดตั้งศูนย์การบำรุงรักษาอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ในประเทศไทย เพียงไม่นานบริษัทเติบโตจากเฮลิคอปเตอร์เพียง 1 ลำเป็น 5 ลำ และเป็นผู้ให้บริการเฮลิคอปเตอร์ให้เช่าเหมาลำแบบวีไอพีเจ้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ก่อนที่ในปี 2555 บริษัทได้ขยายการให้บริการเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ด้วยอากาศยาน GULFSTREAM G200 ตามด้วยเครื่องบิน G200 และ G650 ER อีกหนึ่งลำที่ร่วมบริหารเพื่อให้บริการส่วนตัว ครอบคลุมการให้บริการถึง 18 ประเทศทั่วโลก โดยมีฐานปฏิบัติการการบิน 3 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพ ภูเก็ต เชียงใหม่ ที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ 90% อีก 10% เป็นลูกค้าองค์กรภายในประเทศ เช่น ปตท.
“เราเปิดบริษัทมาแบบไม่มีหนี้ ไม่กู้ ผมเคยทำงานธนาคาร อะไรที่ไม่เป็นอย่างคิด หรือไม่มีจ่าย ตายเลย เช่นช่วงโควิดพอมีปัญหามาเราไม่กู้ เราก็ไม่มีปัญหา นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราเป็นบริษัทเล็กๆแต่ยังสามารถอยู่ได้ในช่วงภาวะวิกฤต”
ลงทุน 22 ล้านเหรียญสหรัฐ จัดเครื่องใหม่ G280 ขยายลูกค้าไทย-เทศ เพิ่มปี 2568
เมื่อภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว การเติบโตของธุรกิจการบินในไทยก็ย่อมเติบโตตามไปด้วย ไม่เว้นแม้แต่ Private Jet ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และเพื่อรองรับความต้องการ “คุณไชย” จึงได้เพิ่มฝูงบินในบริษัทด้วยการเข้าซื้อเครื่องลำใหม่ G280 ด้วยงบ 22 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 726 ล้านบาท ซึ่งจะพร้อมรับมอบในเดือนมีนาคม 2569 และจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในหลากหลายเส้นทางการบินได้มากขึ้น
จากปัจจุบันที่มีฝูงบินอยู่ทั้งสิ้น 5 ลำ ได้แก่ เครื่อง Jet 1 ลำ Gulfstream 200 (10 pax seats) และเฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ ได้แก่ รุ่น EC-135 (2 ลำ) ประจำ Base ที่กรุงเทพ, รุ่น EC-130T2 (1 ลำ) ประจำ Base ที่ ภูเก็ต และรุ่น EC-130T2 (1 ลำ) ประจำ Base ที่เชียงใหม่
โดยเส้นทางการบินที่ได้รับความนิยมจะอยู่ในภูมิภาคเอเชียและบินไปสู่สถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ภูฏาน, จีน, ฮ่องกง, ไต้หวัน, อินเดีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุน, มัลดีฟส์, มองโกเลีย, เมียนมาร์, ปาปัวนิวกินี, ฟิลิปปินส์, เกาหลี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือในทุกที่ที่คุณต้องการจะไปติดต่อธุรกิจ หรือท่องเที่ยวแบบเป็นส่วนตัว เครื่องบินเจ็ท G200 มีพิสัยการบินกว่า 6 ชั่วโมงหรือ 3,200 ไมล์ทะเล
“ในประเทศไทยปัจจจุบันสถานการณ์ Private Jet ยังพออยู่ได้ โดยเฉพาะในภูเก็ตที่มีการใช้จ่ายอยู่ แต่ยังน้อยกว่าในช่วงก่อนโควิด ซึ่งแนวโน้มจากนี้เราจำเป็นต้อง Educate ลูกค้าให้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้เฮลิคอปเตอร์ในการเที่ยวหรือสัญจรมากขึ้น”
“กฏหมาย” ความท้าทายใหญ่ธุรกิจ Private Jet ในไทย
จวบจนปัจจุบัน Advance Aviation ดำเนินงานมาจนครบ 19 ปี มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จนต้องขยายการให้บริการเพิ่มมากขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นชาวต่างชาติ เซเลเบรตี้ คนดังมากมาย ที่เข้ามาใช้บริการตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ธุรกิจมีการเติบโตขึ้นตามลำดับ โดยมีเส้นทางการบินทั้งในและต่างประเทศ
แต่ท่ามกลางการเติบโตที่เป็นไปได้สวย “คุณไชย” บอกว่ายังมีอีกความท้าทายรออยู่ นั่นคือเรื่องของ “กฏหมายการบิน” ที่ยังไม่เอื้อต่อการทำธุรกิจมากนัก เนื่องจากกรอบของกฏหมายที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการประกอบธุรกิจเฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินเจทมากนัก
“ปัจจุบันปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของธุรกิจ เฮลิคอปเตอร์ แบบเช่าเหมาลำ คือเรื่องของที่จอดขึ้น-ลง ซึ่งเป็นเรื่องของการบริหารจัดการที่ต้องทำให้ดี ประกอบพับพื้นที่ในการขึ้น-ลงในน้อยลง ยกตัวอย่างในกรุงเทพอดีตเคยมีพื้นที่ขึ้น-ลง เฮลิคอปเตอร์ตามยอดตึกถึงกว่า 10 แห่ง แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ราว 3 แห่ง ซึ่งการลดน้อยลงเกิดจากฎหมายการขออนุญาต หรือกรอบระยะเวลาที่น้อยลง ทำให้ตึกที่มีใบขออนุญาตและสามารถขึ้น-ลงได้อย่างถูกกฏหมายน้อยลง เช่นเดียวกับพื้นที่ขึ้น-ลงตามเกาะพื้นที่ต่างๆก็ประสบปัญหาเดียวกัน”
อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบันภาครัฐจะมีการเปิดใบอนุญาตหรือไลเซ่นให้แก่ธุรกิจสายการบินมากขึ้น “คุณไชย” บอกว่าตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด กลับเป็นเรื่องที่ดีในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าเชื่อมั่นในบริการของธุรกิจสายการบินขนาดเล็กมากขึ้น โดยในส่วนของ Advance Aviation ในปีหน้า (2568) จะยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น และจะเป็นปีแห่งการประคองตัวเอง ระกหว่างที่รอเครื่อง G280 ลำใหม่ที่พร้อมรับมอบในเดือนมีนาคม 2569 ก่อนจะเดินหน้าทำตลาดเชิงรุกหลังจากนั้นมากยิ่งขึ้น
“ผมไม่ใช่ไม่ใส่ใจตลาดไทย และรู้ว่าคนไทยก็รู้จักธุรกิจนี้ แต่ผมยังไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรในการขยายเข้าไปกลุ่มนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องศึกษามากขึ้นปีหน้า”
ส่วนสำคัญของธุรกิจสายการบินส่วนตัว “ราคา” ไม่ใช่ปัจจัยอันดับหนึ่งที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ หากแต่เรื่องของ “บริการ” และ “ความเชื่อใจ” คือสิ่งแรกที่ลูกค้าคำนึกถึง ดังนั้นเราต้องพัฒนาบริการ พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และแม้ปัจจุบันลูกค้าของ Advance Aviation ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติเกือบ 90% ส่วนอีก 10% เป็นลูกค้าองค์กรในประเทศไทย แต่เป้าหมายของบริษัทก็ยังต้องการขยายสัดส่วนลูกค้าไปยังชาวไทยมากขึ้น
“เรามีการมอนิเตอร์ไฟล์บินตลอดเวลา ว่าเที่ยวบิน (เล็ก) ต่อวันมีกี่เที่ยวและใช้ของที่ไหนบ้าง และมีของเราอยู่กี่ไฟลต์ แล้วนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ พัฒนา บริการที่ตอบโจทย์ต่อไป” คุณไชย กล่าวทิ้งท้าย