“ธุรกิจรีเทล” หนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศที่ต้องเผชิญความท้าทายจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เข้ามากระทบทั้งในและนอกประเทศ “บิ๊กซี” หนึ่งในผู้นำธุรกิจรีเทลของไทย ย้ำแผนปี 2568 เดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง รับมือความท้าทายทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ซบเซา พร้อมเตรียมเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ “บิ๊กซี เดอะ คัลเลอร์” เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใหม่ หวังกระตุ้นกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
“กำลังซื้อ” ความท้าทายภาครีเทลปี 68
คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า ในปี 2568 เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตเพียง 3% ซึ่งยังต่ำกว่าความคาดหวัง กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงเนื่องจากความกังวลเรื่องความมั่นคงทางการเงินและราคาสินค้า ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ธุรกิจรีเทลจึงต้องหาวิธีปรับตัวเพื่อรักษาการเติบโต
ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตาในปีนี้คือความผันผวนเศรษฐกิจโลกหลังการเข้ามาของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ (วันที่ 20 มกราคม) จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ตลอดจนเศรษฐกิจโลก และอัตราดอกเบี้ยทั้งในไทยและต่างประเทศ ว่าจะเป็นไปในทิศทางอย่างไรบ้าง
โดยในส่วนของ “ภาคค้าปลีก” ความท้าทายสำคัญในปีนี้ยังเป็นเรื่องของ “กำลังซื้อ” ที่ยังไม่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ทำให้ภาคธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัว กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ดี แม้ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายเติบโตในระดับสองหลักจากจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นและความถี่ในการซื้อสินค้า แต่การใช้จ่ายต่อครั้งยังลดลงเล็กน้อย
ทำให้ต้องมีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆทุกวัน เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ โดยเชื่อมั่นว่าในปี 2568 เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในครึ่งปีหลัง จากปัจจัยทั้งหมดทำให้เศรษฐกิจโดยรวมยังต้องมีการกระตุ้น เพื่อรับมือความท้าทายต่างๆ จากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะเรื่องกำลังซื้อ ที่ยังต้องอาศัยความเชื่อมั่นในระยะยาว
ประเดิมแคมเปญใหญ่รับ “ตรุษจีน” ปลุกยอดขายพันล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองพร้อมกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงต้นปี จึงได้เปิดตัวแคมเปญ “ตรุษจีนเฮง เฮง รับปีมะเส็ง ที่ บิ๊กซี HAPPY CHINESE NEW YEAR 2025” ตั้งแต่วันนี้ – 29 มกราคม 2568 ที่บิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์
โดยเป็นการนำสินค้าหลากหลาย คุณภาพดี ในราคาสุดประหยัดให้ลูกค้าได้เลือกซื้อในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้แก่ ชุดพร้อมไหว้มากกว่า 7 แบบ สำหรับไหว้บรรพบุรุษและเทพเจ้าแห่งโชคลาภ รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆอาทิ อาหารสด ผลไม้ ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และสินค้าอื่น ๆ รวมกว่า 1,000 รายการ พร้อมมอบโปรโมชันลดราคาสูงสุด 50 % ฯลฯ
ขณะเดียวกันยังรองรับมาตรการรัฐอีซี่ อีรี-ซีท 2.0 ช้อปลดหย่อนภาษีของภาครัฐ ที่เริ่มวันนี้ (16 ม.ค.) เป็นวันแรก ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งบิ๊กซีได้เพิ่มส่วนลดสูงสุดอีก 6,000 บาท โดยสามารถดำเนินการได้ที่จุดบริการลูกค้าบิ๊กซีและช่องทางออนไลน์ของบิ๊กซี ยกเว้นสินค้าบางกลุ่ม อาทิ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ อาหารสดบางรายการ ซึ่งเชื่อว่าแคมเปญครั้งนี้ จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของชาวไทยเชื้อสายจีนและผู้บริโภคทั่วประเทศ รวมถึงสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโต กว่า 1,180 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาเป็นดับเบิ้ลดิจิตแน่นอน
ย้ำลงทุนต่อเนื่อง พร้อมเตรียมเปิดโมเดลใหม่ เจาะตลาดค้าปลีกเมืองไทย
อย่างไรก็ตามแม้สัญญาณเศรษฐกิจกำลังซื้อในปีนี้จะชะลอตัวไปจนถึงครึ่งปีหลัง แต่ “คุณอัศวิน” บอกว่า บิ๊กซีจะยังคงเดินหน้าลงทุนตามแผนงานที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายสาขาขยายสาขาใหม่ เจาะ 4-5 จังหวัดที่ยังไม่มีบิ๊กซี เน้นสาขาขนาดกลาง-ใหญ่ การรีโนเวตสาขาเดิม ตลอดจนการอัดโปรโมชั่น กิจกรรมทางการตลาดต่างๆอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้เพื่อตอบรับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยในปีนี้บิ๊กซีเตรียมเปิดตัว “บิ๊กซี คัลเดอะ เลอร์” โมเดลธุรกิจใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่แตกต่างและดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าและบริการรูปแบบใหม่
สุดท้าย “คุณอัศวิน” บอกว่า ในส่วนของแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลังจากมีการเลื่อนกำหนดจากปีที่ผ่านมา ในปีนี้ก็ยังไม่มีการเข้าจดทะเบียนแต่อย่างใด เนื่องจากกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ประกอบกับสถานการของตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูง ทำให้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน