เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) เปิดยอดสมาชิกแบบ Paid Subscriber ครั้งประวัติศาสตร์ในไตรมาส 4 ของปี 2024 โดยมีสมาชิกเพิ่มขึ้น 19 ล้านคน ทำให้ยอดรวมของ Paid Subscriber ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็น 302 ล้านคน ขึ้นแท่นตัวท็อปของวงการสตรีมมิ่ง ขณะที่ตัวเลขผลประกอบการพบว่า ในไตรมาส 4 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น 16% และเป็นครั้งแรกที่มีรายได้ทะลุ 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐด้วยเช่นกัน ผลก็คือหุ้น Netflix ในวันอังคารที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 13% เลยทีเดียว
สำหรับการเพิ่มขึ้นของตัวเลขสมาชิกนี้ ทาง Ted Sarandos ซีอีโอร่วมของ Netflix ยกความดีความชอบให้กับอีเวนท์กีฬา นั่นคือ แมทช์หยุดโลกระหว่าง ไมค์ ไทสัน และเจค พอล ที่สามารถดึงผู้ชมได้มากถึง 108 ล้านแอคเคาน์ อีกทั้งยังถูกจัดให้เป็นรายการสตรีมมิ่งที่มีผู้ชมมากที่สุดด้วย
นอกจากนั้น Netflix ยังรับหน้าที่สตรีมมิ่งการแข่งขันฟุตบอล NFL ถึง 2 เกม ในวันคริสต์มาส ซึ่งมียอดผู้ชมราว 30 ล้านรายทั่วโลก (เป็นรายการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลที่มีผู้ชมมากที่สุด) ด้วยเช่นกัน
ส่วนอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่ช่วยให้ยอดสมาชิกเพิ่ม คือกระแสของ “สควิดเกม (Squid Game) ซีซั่นสอง” ที่สามารถดึงผู้ชมได้มากถึง 68 ล้านวิวในสัปดาห์แรก
ขึ้นค่าบริการในสหรัฐอเมริกา-แคนาดา
แม้จะเป็นข่าวดีสำหรับแพลตฟอร์ม แต่ในมุมของผู้บริโภคก็พบว่าเริ่มมีข่าวร้ายตามมา นั่นคือ บริษัทมีแผนจะขึ้นค่าบริการในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา จาก 15.49 เหรียญสหรัฐ เป็น 17.99 เหรียญสหรัฐ (สำหรับแผนแบบมาตรฐานที่ไม่มีโฆษณา)
ส่วนผู้ชมที่เลือกแผนแบบมีโฆษณา ก็จะขึ้นจาก 1 เหรียญสหรัฐ เป็น 7.99 เหรียญสหรัฐ ด้วย และแผนที่แพงที่สุด (รองรับวิดีโอ 4K) พบว่า จะเพิ่มราคาขึ้นอีก 2 เหรียญเป็น 24.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 848 บาทเลยทีเดียว
Ted Sarandos ยังบอกด้วยว่า บริษัทจะมองหา Live Event ที่น่าสนใจ รวมถึงอีเวนท์ด้านกีฬาเพิ่มเติมให้แพลตฟอร์ม โดยบอกว่านี่คือทิศทางที่จะช่วยสร้างให้ Netflix เติบโตต่อไป
ทั้งนี้ ไตรมาส 4 ของปี 2024 จะเป็นไตรมาสสุดท้ายที่ Netflix จะรายงานตัวเลขของสมาชิกให้นักลงทุนทราบ โดยหลังจากนี้ไป Netflix จะรายงานเป็น engagement report แทน และจะรายงานเพียงไตรมาส 2 และ 4 ของปีเท่านั้น
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE