ยังคงหอมหวานและรุนแรงอย่างต่อเนื่อง สำหรับการแข่งขันของธุรกิจร้านกาแฟในปั๊มน้ำมัน ที่แม้จะมีผู้เล่นหลักอยู่เพียงไม่กี่ราย (อเมซอน,พันธ์ุไทย,อินทนิล) ทว่าการขยายสาขา โปรโมชั่น และกลยุทธ์การตลาดกลับรุนแรงไม่แพ้ธุรกิจที่มีคู่แข่งจำนวนมาก
“กาแฟพันธุ์ไทย” หนึ่งในร้านกาแฟธรุกิจนอนออยล์ (Non-Oil) ภายใต้การบริหารจัดการของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี (จำกัด) มหาชน คืออีกหนึ่งเชนร้านกาแฟที่น่าจับตามองตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่การขยายสาขาภายในปั๊มน้ำมันพีทีเท่านั้น ช่วง 5 ปีที่ผ่านมากาแฟพันธุ์ไทย ยังก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดร้านกาแฟเมืองไทย ด้วยการขยายเข้าไปในทำเลที่หลากหลาย ตั้งแต่ อาคารสำนักงานไปจนถึงย่านชุมชน มากขึ้น
โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา “กาแฟพันธุ์ไทย” มีรายได้ทะลุ 2,575 ล้านบาท เติบโต 97.4% จากปี 2566 ถือเป็นการเติบโตที่สูงเป็นประวัติการณ์และยังเป็นตัวเลขที่สูงมากเมื่อเทียบกับสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขัน โดยเป้าหมายใหม่ของ “กาแฟพันธุ์ไทย” ในปี 2568 นี้จะขยายสาขาเพิ่ม 600 สาขา ซึ่งจะทำให้มีสาขาทั้งสิ้น 1,947 สาขาในสิ้นปี เบื้องต้นไตรมาส 1/68 นี้ ตั้งเป้ารายได้ 1,214 ล้านบาท พร้อมขยายสาขาให้ได้ 146 สาขา และจะมีสาขาให้ครบ 5,000 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2571
เปิดเส้นทางการเติบโต 10 ปีกว่าจะมีกำไร พร้อมทะยานเบอร์ 2 ในตลาด
ย้อนไปเมื่อสิงหาคม 2565 “กาแฟพันธุ์ไทย” ประกาศเกมชิงรุกครั้งแรกหลังอยู่ในตลาดมาครบ 10 ปีด้วยการท้าชิงกับบิ๊กเนมอย่าง “ร้านคาเฟ่อเมซอน” และ “อินทนิล” ที่รั้งเบอร์ 1 และ 2 ของตลาดในขณะนี้ ด้วยการประกาศเป้าหมายปักธงผู้เล่น “เบอร์ 2” ในตลาดร้านกาแฟสัญชาติไทยให้ได้ในสิ้นปี 2566 และประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น
ต่อมาในปี 2567 “กาแฟพันธุ์ไทย” เดินหน้าขยายสาขาและประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนสาขาถึง 1,347 สาขาทั่วประเทศเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 52% มีรายได้ 2,575 ล้านบาท เติบโตขึ้น 97.4% เมื่อเทียบกับปี 2566
แม้ปัจจุบันด้วยจำนวนสาขาของพันธุ์ไทย จะยังน้อยอยู่เมื่อเทียบกับเจ้าตลาดอย่าง “คาเฟ่ อเมซอน” แต่หากเทียบกับ “อินทนิล” นั้นถือว่า “พันธุ์ไทย” แซงได้ (จำนวนสาขา) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากไล่เรียง 3 ผู้เล่นหลักในตลาดร้านกาแฟ (ที่เกิดจากปั๊มน้ำมัน) พบว่า
- คาเฟ่ อเมซอน มีจำนวนสาขา 4,339 สาขา (ไตรมาส 3/67)
- กาแฟพันธุ์ไทย มีจำนวนสาขา 1,347 สาขา (สิ้นปี 2567 )
- อินทนิล มีจำนวนสาขาราว 1,060 สาขา (สิ้นปี 2567)
จากแบรนด์ที่ขาดทุนสะสมต่อเนื่องร่วม 10 ปี วันนี้ “พันธุ์ไทย” ไม่เพียงแต่พลิกกำไร พร้อมสร้างการเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดึงยอดขายไตรมาส 4 ปี 2567 พุ่งทะยานกว่า 97% วันนี้กาแฟพันธ์ุไทย กำลังเติบโตพร้อมก้าวใหม่ ที่เข้าใกล้คำว่า “เจ้าตลาด” ไปทุกขณะ ด้วยการพลิกโฉมตัวเองสู่เส้นทางการเติบโต ด้วยกลยุทธ์เชิงรุกที่ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในปั๊มน้ำมันพีทีและทำเลสำคัญทั่วประเทศ
เปิดกลยุทธ์ปี 68 ชู Tagline ใหม่รอบ 12 ปี #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ ดึง “คัลแลน-พี่จอง” ปั้นยอด
คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวว่า “ตลาดกาแฟในประเทศไทยมีการขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท มาจากปัจจัยหลักคือกาแฟยังคงเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง ผู้คนมองหากาแฟที่มีรสชาติหลากหลาย ทำให้เกิดความสนใจในการทดลองบริโภคกาแฟที่แตกต่างมากขึ้น อีกทั้งตลาดกาแฟพรีเมียมมีการพัฒนาขึ้น เพราะผู้บริโภคให้ความสำคัญกับคุณภาพของกาแฟมากขึ้น
ทั้งหมดทำให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจกาแฟในทุกมิติ ในส่วนของแบรนด์พันธุ์ไทยเองก็ได้ทำการตลาดเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดนใจผู้บริโภคทุกกลุ่ม เจาะตลาดให้ครอบคลุมทุก Segment ตั้งแต่ตลาดกาแฟนอกบ้าน, Home Coffee ไปจนถึงตลาดพรีเมียมและ Specialty Coffee ที่เป็นเทรนด์เติบโตสูงขึ้นในไทย และยังเป็นแบรนด์กาแฟแบรนด์เดียวที่ได้ “คัลแลน-พี่จอง” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เมื่อไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เป็นจำนวนมาก”
จากปัจจัยทั้งหมดนี้ ส่งผลให้กาแฟพันธุ์ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ พันธุ์ไทยจะยังคงเดินหน้าปั้นกาแฟไทยที่ตั้งใจให้โลกรัก ผ่านแบรนด์ Tagline ใหม่ในรอบ 12 ปี #พันธุ์ไทยอะไรก็เป็นไปได้ ที่ตอกย้ำ DNA ของแบรนด์พันธุ์ไทยตลอด 12 ปีที่ไม่หยุดสร้างสรรค์และเป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ พร้อม เดินหน้าสร้างแบรนด์ผ่านพรีเซ็นเตอร์ ‘คัลแลน – พี่จอง’ กับกาแฟ ‘ไทยริกาโน’ กาแฟสเปเชียลตี้สัญชาติไทยให้ไปไกลระดับโลก
หนึ่งในไฮไลต์ของปีนี้คือการเปิดตัว “ไทยริกาโน” กาแฟ Specialty ที่ใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าจากแม่ฮ่องสอน ผสานรสชาติและเอกลักษณ์แบบไทยในราคาที่เข้าถึงได้ เริ่มต้นเพียง 55 บาท และยังได้ร่วมมือกับศิลปินชื่อดัง ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ไทยริกาโน” ผ่านแก้วลิมิเต็ดอิดิชันที่เป็นงานศิลปะสะท้อนเส้นทางกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เมื่อรวมกับพรีเซ็นเตอร์ “คัลแลน-พี่จอง” ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวชื่อดัง มาช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงเชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน