HomeBrand Move !!3 ทุนยักษ์ ‘เจ้าสัวเจริญ-โสภณพนิช-นิคมโรจนะ’ ร่วมทุนเมืองอุตสาหกรรม “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” พื้นที่ 4,600 ไร่ ถนนบางนา-ตราด 

3 ทุนยักษ์ ‘เจ้าสัวเจริญ-โสภณพนิช-นิคมโรจนะ’ ร่วมทุนเมืองอุตสาหกรรม “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” พื้นที่ 4,600 ไร่ ถนนบางนา-ตราด 

แชร์ :

3 กลุ่มผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมของไทย ได้แก่ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) ของกลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี, บมจ. สวนอุตสาหกรรมโรจนะ  และ บริษัท นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย จำกัด หรือเอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท (คุณชาลี โสภณพนิช ธนาคารกรุงเทพ) ได้ร่วมทุนก่อตั้ง บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด  

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

เปิดตัว “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์”  (ARAYA THE EASTERN GATEWAY) ที่นับเป็น “The First Industrial Tech Ecosystem in Thailand” หรือ ระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่บนพื้นที่กว่า 4,600 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม.32 ครอบคลุมเชื่อมต่อไปสู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (Motorway) ใกล้สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ มูลค่าลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท 

ประกอบไปด้วย แคมปัสด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี พื้นที่โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรมอารยะ โซนไลฟ์สไตล์และบริการต่างๆ ศูนย์กลางการให้บริการชุมชน และโครงการที่อยู่อาศัย เฟสแรกพัฒนาพื้นที่นิคมฯ 2,000 ไร่ เปิดให้ใช้พื้นที่ปี 2569

โอกาสทองลงทุนนิคมฯ 

จากตัวเลขการลงทุนในปี 2567 ที่ขอรับการส่งเสริมจาก BOI มีมูลค่ารวม 1.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 10 ปี  จำนวนกว่า 3,100 โครงการ ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้ง BOI สะท้อนให้เห็นว่าเป็นโอกาสทองการลงทุนในประเทศไทย

พบว่าการลงทุนจากต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐ ยุโรป เอเชีย (จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลี สิงคโปร์) ตอกย้ำว่าประเทศไทยสามารถรองรับการลงทุนได้จากทุกฝ่าย จากความสัมพันธ์ที่เป็นกลางกับทุกประเทศ

การลงทุนที่เข้ามาในประเทศไทย มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ เป็นอุตสาหกรรมใหม่  ไม่ว่าจะเป็น เซมิคอนดักเตอร์  อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง  อีวี  ดาต้าเซ็นเตอร์  Cloud Service  เทคโนโลยี AI  ไบโอเทคโนโลยี  เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ในประเทศไทย

ปัจจัยสำคัญของการตัดสินใจลงทุนในประเทศไทย คือ “ที่ดิน” นักลงทุนมองหาที่ดินที่มีความพร้อม ด้านทำเลที่ตั้ง ระบบสาธารณูปโภค  โลจิสติกส์ สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการที่ดีจากนักพัฒนาที่ดินและนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ต้องการอีโคซิสเท็มที่สามารถดึงดูดทาเลนต์เข้ามาทำงานในพื้นที่ รวมทั้งธุรกิจสนับสนุนต่างๆ มาอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน

“เรากำลังอยู่ในช่วงสำคัญ ที่กำลังปรับเปลี่ยนโครงสร้าง โกลบอล ซัพพลายเชน มีการเคลื่อนย้ายการลงทุนครั้งใหญ่ของโลก จากคลื่นลูกใหม่ของการลงทุนเข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา นับเป็นโอกาสทองของไทย” คุณนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ BOI กล่าว 

คุณกมลกาญจน์ คงคาทอง

3 ทุนยักษ์เปิดตัว “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ลงทุน 2 หมื่นล้าน

คุณกมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด กล่าวว่าบริษัทก่อตั้งจากการร่วมทุนของ 3 กลุ่ม คือ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (เจ้าของที่ดิน) ถือหุ้น 50%,  นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย ถือหุ้น 25% และสวนอุตสาหกรรมโรจนะ  ถือหุ้น 25% 

โดยร่วมกันพัฒนาโครงการอารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ มูลค่าการลงทุน 20,000 ล้านบาท เป็นระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูง และโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย  เพื่อดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาส่งเสริมเศรษฐกิจภายในประเทศไทย

โครงการตั้งอยู่บนประตูสู่ภาคตะวันออก กิโลเมตรที่ 32 ของถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นทำเลทองของอุตสาหกรรมไทยใกล้กรุงเทพฯ เชื่อมต่อจากถนนบางนา-ตราด สู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (Motorway) นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ และท่าเรือแหลมฉบังในเวลาเพียง 60 นาที เป็นศูนย์กลางธุรกิจ โลจิสติกส์ อุตสาหกรรม และการค้าระหว่างประเทศ

“อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” มี 6 โซนหลัก

1. Industrial Tech Campus (แคมปัสด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี): พื้นที่ที่ถูกออกแบบให้เป็นแคมปัสของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมไปถึงศูนย์ข้อมูล (Data Center) โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

2. Logistics Park (พื้นที่โลจิสติกส์): พื้นที่สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า ด้วยทำเลที่ตั้งที่เชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งได้สะดวก เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวในการขนส่งสินค้าทั้งภายในและต่างประเทศ

3. ARAYA Industrial Estate (นิคมอุตสาหกรรมอารยะ): พื้นที่สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ และตั้งอยู่ในพื้นที่ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IEAT) ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการลงทุนต่างๆ ตามนโยบายของภาครัฐ

4. Lifestyle & Amenities (โซนไลฟ์สไตล์และบริการต่างๆ): พื้นที่รีเทล ไลฟ์สไตล์ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโครงการ

5. Community Services Centre (ศูนย์กลางการให้บริการชุมชน): ศูนย์กลางในการให้บริการชุมชน และช่วยเหลือลูกค้าของโครงการ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สวนสาธารณะ ลู่วิ่ง และสนามฟุตซอล

6. Residential Project (โครงการที่อยู่อาศัย): เตรียมจัดสรรพื้นที่สำหรับพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญ และผู้บริหาร ที่ทำงานในโครงการ

ที่มาของชื่อ “อารยะ” คือสื่อถึงอารยธรรม ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบของโครงการที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรม การเติบโตทางธุรกิจ ทั้งยังเป็นคำที่ออกเสียงได้ง่ายสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ   ส่วน “ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” สื่อถึงทำเลของโครงการที่เชื่อมต่อสู่ภาคตะวันออก และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมหลักแห่งใหม่ของประเทศ

เปิดพื้นที่นิคมฯ 2,000 ไร่

สำหรับพื้นที่ ARAYA Industrial Estate (นิคมอุตสาหกรรมอารยะ) เฟสแรก 2,000 ไร่ ได้รับความสนใจและเริ่มมีการติดต่อพูดคุยกลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม Semiconductor & Electronics, กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV), กลุ่มธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ (Pharmaceuticals), ธุรกิจการขนส่งและกระจายสินค้า (Logistics) และกลุ่มธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center)

แบ่งเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ 100 ไร่  และพื้นที่ขนาดกลาง 10-15 ไร่  โดยราคาที่ดินตามราคาตลาดพื้นที่สมุทรปราการปัจจุบันอยู่ที่ไร่ละ 12-14 ล้านบาท  ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหญ่ซื้อที่ดิน 100 ไร่ เป็นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จากประเทศเยอรมนี  อยู่ระหว่างการพูดคุยอีกหลายรายจากต่างประเทศ ทั้ง จีน ยุโรป เอเชีย  ปี 2568 ตั้งเป้าหมายขายพื้นที่นิคมฯ 300-400 ไร่  คาดว่าจะขายพื้นที่นิคมฯ ได้หมดภายใน 2-3 ปี

นิคมฯยุคใหม่ต่อยอดลงทุนอาเซียน

คุณปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด กล่าวว่าโครงการ “อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” บนถนนบางนา-ตราด ถือเป็นที่ดินที่มีประวัติศาสตร์ เป็นพื้นที่กลยุทธ์ของประเทศ โดย 3 กลุ่มทุนได้ใช้ประสบการณ์พัฒนานิคมฯ ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน  และเฟรเซอร์สฯ ได้นำประสบการณ์ที่ได้ไปลงทุนในกว่า 20 ประเทศ มาร่วมพัฒนาระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมในอนาคตต่อยอดให้เศรษฐกิจประเทศ

“อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์ ของ 3 กลุ่มทุน ได้ร่วมกันปลุกปั้นโครงการมา 7 ปี ตั้งแต่ปี 2560  เพื่อตอกย้ำว่าประเทศไทยยังมีโอกาสอีกมาก การลงทุนของกลุ่มเฟรเซอร์ส ได้นำแนวคิดการพัฒนาที่มุ่งเน้นว่าลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญที่สุด เห็นได้จาก One Bangkok ที่ใช้เวลาพัฒนา 14 ปี ทำให้เห็นการพัฒนาเมืองและคุณภาพชีวิต เชื่อว่าระบบนิเวศการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในยุคใหม่ จะสร้างระบบนิเวศครบวงจร  นำพาความสำเร็จให้เศรษฐกิจประเทศไทยต่อยอดการลงทุนในอาเซียน และดึงทาเลนต์ที่โดดเด่นของโลกเข้ามาในประเทศไทยจากการลงทุนของกลุ่มทุนต่างประเทศในอุตสาหกรรมใหม่ๆ”

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like