เดิมทียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของ “บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)” หรือ “KTC” หมวดประกันและท่องเที่ยว เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของการใช้จ่ายใช้จ่ายทั้งหมด แต่ด้วยเทรนด์สุขภาพและความงามที่เติบโตต่อเนื่อง ทำให้ยอดรูดบัตรในหมวด “สุขภาพและความงาม” ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 จากเดิมอยู่ในอันดับ 4 โดยในปี 2567 มีการเติบโตถึง 12% คิดเป็นยอดใช้จ่ายมูลค่า 25,000 ล้านบาท จากตลาดรวมความงามมูลค่า 70,000 ล้านบาท
ทำให้ปีนี้ KTC หันมารุกตลาดนี้หนักขึ้น โดยผนึก 4 พันธมิตรสุขภาพและความงาม “รพ.พญาไท-พรเกษมคลินิก-วีสแควร์ คลินิก-เอชดี มอลล์” มอบส่วนลดให้ลูกค้าผ่านบัตรของขวัญ พร้อมกับคาดว่ายอดใช้จ่ายในหมวดสุขภาพและความงามปีนี้จะเติบโตได้ 15% อะไรทำให้ KTC มั่นใจ ตามมาเรียนรู้กลยุทธ์ พร้อมเทรนด์สุขภาพและความงามของคนยุคใหม่
ยอดใช้จ่ายหมวดสุขภาพ-ความงาม “โต” กว่าตลาด
“สุขภาพและความงาม” เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ยิ่งมาเจอการระบาดของโควิด ยิ่งทำให้คนหันมาใส่ใจในสุขภาพและดูแลตัวเองมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดสุขภาพและความงามไม่หยุดเติบโต โดย คุณสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต หมวดสุขภาพและความงาม KTC บอกว่า ปี 2567 ตลาดรวมความงามมีมูลค่า 70,000 ล้านบาท เติบโต 6% จากปี 2566 และหากรวมตลาดสุขภาพและเวลเนสน่าจะมีมูลค่านับแสนล้าน
คุณสิรีรัตน์ คอวนิช ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต หมวดสุขภาพและความงาม KTC
ส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดสุขภาพและความงามของ KTC ในปี 2567 มีการเติบโตถึง 12% จากปี 2566 คิดเป็นยอดใช้จ่ายมูลค่า 25,000 ล้านบาท โดยเติบโตกว่าตลาด และเติบโตจากช่วงก่อนเกิดโควิด หรือในปี 2561 ถึง 75%
เมื่อมาดูกลุ่มลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายมากสุด พบว่า “กลุ่มคนทำงาน” เป็นกลุ่มที่มียอดการใช้จ่ายในหมวดคลินิกความงามมากที่สุด ถ้าเป็นหมวดโรงพยาบาลจะเป็น “กลุ่มคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป” มากสุด ส่วนยอดการใช้จ่ายต่อครั้งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว สำหรับโรงพยาบาลอยู่ที่ 5,000-7,000 บาท ขณะที่คลินิกความงามประมาณ 10,000 บาท
เน้นทำตลาดแบบเจาะลึก ตั้งเป้าโต 15%
สำหรับการเติบโตกว่าตลาดนี้ คุณสิรีรัตน์ บอกว่า หัวใจสำคัญมาจากการทำตลาดแบบเจาะลึก ด้วยการเข้าใจลูกค้าและพาร์ทเนอร์ โดยการเข้าใจลูกค้าคือ การเห็นทั้งเทรนด์และพฤติกรรมลูกค้าว่าใช้จ่ายอย่างไรและสนใจเรื่องอะไร ส่วนการเข้าใจพาร์ทเนอร์คือ การนำอินไซต์ของลูกค้าไปคุยกับพาร์ทเนอร์ ทำให้พาร์ทเนอร์เห็นความต้องการและนำมาออกแบบสิทธิพิเศษได้ตรงใจทั้งลูกค้าและพาร์ทเนอร์
จากการเติบโตที่ดีในปีที่ผ่านมา ปีนี้ KTC จึงบุกตลาดสุขภาพและความงามหนักขึ้น โดยร่วมมือกับ 4 พันธมิตร “รพ.พญาไท-พรเกษมคลินิก-วีสแควร์-เอชดี มอลล์” จัดทำชุดบัตรของขวัญ เพื่อมอบส่วนลดสูงสุด 90% ให้กับสมาชิก KTC ไปใช้บริการ
สาเหตุที่เลือกจับมือกับพันธมิตรทั้ง 4 ราย คุณสิรีรัตน์ บอกว่า ทั้ง 4 รายเป็นเบอร์ 1 ด้านต่างๆ ของบัตร KTC โดยพรเกษมคลินิกเป็นเบอร์ 1 ในแง่จำนวนลูกค้า ส่วนวีสแควร์เป็นเบอร์ 1 ในแง่ยอดใช้จ่าย ส่วนพญาไทเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ลูกค้าเราเข้าถึงมากที่สุด และ HD Mall เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์สุขภาพและความงามที่ใหญ่ที่สุด
“เราจะดูแค่ดาต้าไม่ได้ เพราะบางแบรนด์อาจจะไม่ติด Top 10 แต่วันหนึ่งอาจจะเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างกรณีวีสแควร์ เมื่อก่อนก็ไม่ติด Top 10 แต่อยู่ดีๆ ก็เป็น Rising Star ที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดของ KTC”
นอกจากการจับมือกับพันธมิตรมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าแล้ว ในปีนี้ KTC ยังจะขยายพันธมิตรร้านค้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มอีก 1,000 ราย จากปัจจุบันที่มีพันธมิตร 5,200 ราย เมื่อบวกกับแนวโน้มตลาดสุขภาพและความงามที่ยังเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ทำให้คุณสิรีรัตน์มั่นใจว่า ปีนี้จะผลักดันให้การใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดสุขภาพและความงามของ KTC เติบโตได้ 15%
เทรนด์ “ป้องกัน-เห็นผลเร็ว” มาแรง
ส่วนเทรนด์สุขภาพมาแรงในปีนี้ เรืออากาศเอกหญิงแพทย์หญิงอัจฉราวดี มหัตนิรันดร์กุล แพทย์ประจำศูนย์พรีเมียร์ไลฟ์ โรงพยาบาลพญาไท 2 และ คุณรายา จันทรมังกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด HD Mall บอกว่า การดูแลสุขภาพ “เชิงป้องกัน” ไม่ให้เกิดโรค ยังเป็นเทรนด์มาแรงต่อเนื่อง เพราะคนไม่อยากแก่และเจ็บป่วย แม้กระทั่งในกลุ่มผู้ป่วยก็เริ่มลดการใช้ยา และหันมาปรับวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
ขณะที่เทรนด์ความงาม นายแพทย์ปกรณ์ กิติรัตน์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์ (Chief Medical Officer) พรเกษมคลินิก และ คุณปัญจรัตน์ วัฒนวงศ์วิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อองค์กร วีสแควร์ คลินิก บอกว่า กระแสการดูแลผิวตั้งแต่ “อายุน้อย” กำลังเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพผิว อีกทั้งพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ยังต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว จึงใช้บริการที่คลินิกบ่อยครั้งขึ้น รวมถึงต้องการการดีไซน์โปรแกรมเฉพาะบุคคลที่ให้บริการดูแลสุขภาพและความสวยงามไปพร้อมกัน
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE