มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน “Human Interaction for Systematic Innovation” ครั้งแรกกับการรวมตัวของนวัตกรระดับโลก กูรูด้านบริหารจัดการและนักวิจัยด้านการแพทย์ เพื่อพลิกโฉมการแพทย์ไทย จากกระบวนการคิด Systematic Framework ที่ทำให้เกิดนวัตกรรมที่สร้างผลกระทบในการสร้างเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
ดร.สมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ และกรรมการมูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดลในพระราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดตั้ง ‘กองทุนมูลนิธิมหิดลเพื่อความยั่งยืน’ เพื่อให้มหาวิทยาลัยมหิดลสามารถทำโรงงานยาแบบ Cell and Gene Therapy ซึ่งจะเป็นโรงงานยาที่มีชีวิตแห่งแรกของไทย จะเป็น Game Changer ของการรักษามะเร็ง ให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาโรค ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคภัยอันดับ 1 ของไทยในราคาที่ต่ำลง ลดการนำเข้ายาลดลงช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายประเทศ ซึ่งเป็นอนาคตที่สำคัญของวงการแพทย์ไทย”
สำหรับ “โรงงานยาที่มีชีวิต หรือ MU-Bio Plant” เป็นการสร้างยาจากเซลล์ที่มีชีวิต (Living Drug) เป็นกลุ่มยา ATMP ให้เกิดขึ้นเป็นโรงงานแรกของประเทศไทย ซึ่งแนวทางในการดำเนินงานจะดัดแปลงโรงงานยาเดิมที่มหาวิทยาลัยลงทุนไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาทในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเพื่อต่อยอดสู่ โรงงานยาที่มีชีวิตแห่งแรกในไทย ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณอีกราว 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ในอนาคตอีก 5-10 ปี ข้างหน้า การรักษามะเร็งจะใช้ Personalized ซึ่งก้าวล้ำหน้า ยิ่งกว่า CAR T-Cell โดยผลงานของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้นำเซลล์ของแต่ละคนมาวิเคราะห์ ตัดต่อพันธุกรรม แล้วฉีด mRNA เข้าไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันของคนไข้รายนั้น ซึ่งมหาวิทยาลัยมีสิทธิบัตร Circular mRNA อยู่ พร้อมที่จะต่อยอดนวัตกรรมการรักษาในแนวเฉพาะบุคคลได้ทันที
ทั้งนี้ กองทุน “มูลนิธิมหิดลเพื่อความยั่งยืน” มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นกองทุนใหม่ที่จัดตั้งขึ้น ภายใต้มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 สำหรับผู้สนใจสามารถร่วมสมทบทุน ‘กองทุนมูลนิธิมหิดลเพื่อความยั่งยืน’ ได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บัญชีออมทรัพย์ชื่อบัญชี “มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล”เลขที่บัญชี 157-1-324-344 ทุกการบริจาคสามารถลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า