HomeBrand Move !!ส่องแผน “ศุภาลัย” รุกหนัก กลับมาทำคอนโดมากสุดรอบ 10 ปี หวังกินแชร์ ปั้มรายได้เพิ่ม

ส่องแผน “ศุภาลัย” รุกหนัก กลับมาทำคอนโดมากสุดรอบ 10 ปี หวังกินแชร์ ปั้มรายได้เพิ่ม

แชร์ :

ถ้าพูดถึงตลาดคอนโดมิเนียม ก่อนโควิดเป็นตลาดที่มีการขยายตัวสูงมาก แต่พอเกิดวิกฤตโควิด ผู้บริโภคก็เปลี่ยนจากการอยู่คอนโดมาอยู่บ้านเดี่ยวกันมากขึ้น เพราะต้องการพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมอยู่ในภาวะชะลอตัว กระทั่งโควิดคลี่คลาย แต่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานี้ ตลาดคอนโดมิเนียมก็ยังเป็นตลาดที่ประสบสภาวะไม่เติบโต ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ลดการเปิดโครงการใหม่กันอย่างต่อเนื่อง 

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แต่ทำไมปีนี้ “บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)” หรือ “Supalai” ถึงอยากจะมาเล่นในตลาดนี้มากขึ้น โดยมีโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น “เท่าตัว” และ “มากสุด” ในรอบ 10 ปี ศุภาลัยมองเห็นโอกาสอะไร มาเรียนรู้วิธีคิดของ “ดร.ประทีป ตั้งมติธรรม” ประธานกรรมการบริหาร และ “คุณไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) พร้อมมุมมองตลาดอสังหาฯ ปี 2025

อสังหาฯ ปีนี้ไม่แย่ แต่ซัพพลายใหม่ “ต่ำสุด” รอบ 15 ปี 

“ปีที่แล้วเป็นปีที่ไม่ดี และไม่เห็น Good News ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯ หดตัวพอสมควร ทั้งตลาดบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม” 

นี่คือ นิยามอสังหาฯ ปี 2024 ในมุมมองของคุณไตรเตชะ และเชื่อว่า ตลาดอสังหาฯ ปี 2025 จะดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว เพราะตลาดผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และสถานการณ์ดอกเบี้ยเริ่มปรับลดลง แต่ถึงกระนั้นปีนี้จะเห็นการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง “ต่ำสุด” ในรอบ 15 ปี โดยในปี 2009 ตลาดตอนนั้นมีการเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 60,000 หน่วยเท่านั้น 

ดีมานด์คอนโด 4-7 ล้าน ยังไปได้ 

เมื่อดูที่เซ็กเม้นต์บ้านเดี่ยวยังคงมีการ “เติบโต” ได้ แต่การแข่งขันราคาจะรุนแรงมากโดยเฉพาะบ้านระดับราคา 15 ล้านบ้านขึ้นไป เพราะยอดขายในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ดีมาก เนื่องจากซัพพลายในตลาดมีมาก และดีมานด์หายไปค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับช่วงโควิด ขณะที่คอนโดมิเนียม แม้ตลาดดูเหมือนจะหดตัวมากกว่าบ้านเดี่ยว แต่มีโอกาส “เติบโต” ได้ เพราะมี “Hidden Demand” มาก โดยเฉพาะคอนโดระดับราคา 4-7 ล้านบาท เป็นเซ็กเม้นต์ที่ดีที่สุด

โดย Hidden Demand ในที่นี้ คุณไตรเตชะ บอกว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดูหดตัว แต่ผู้บริโภคยังมีความต้องการอยู่ เพียงแต่ยังไม่มั่นใจที่จะซื้อจากสถานการณ์ต่างๆ สะท้อนได้จากยอดขายคอนโดศุภาลัยในปีที่ผ่านมาถือว่าดีที่สุดในรอบ 10 ปี แทบจะทุกโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมขายมียอดขาย 20 ยูนิตต่อโครงการ อีกทั้งอัตราการปฏิเสธสินเชื่อค่อนข้างน้อยมาก 

ประกอบกับดีเวลลอปเปอร์หลายรายอาจจะเปิดโครงการใหม่ยากขึ้น บวกกับการทำ“ราคา” คอนโดได้ใกล้เคียงกับ 4-5 ปีที่แล้ว ในระดับราคา 60,000-70,000 บาทต่อตารางเมตร เพราะราคาที่ดินสมเหตุสมผลมากขึ้น และวัสดุก่อสร้างปรับลดลง จึงเชื่อว่าจะเป็นโอกาสและช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งได้ พร้อมกับสร้างการเติบโตให้กับศุภาลัยใน 2-3 ปีข้างหน้า

“ยอดขายช่วงเปิดตัวคงไม่สูงเหมือนสมัยที่คอนโดเติบโต ปัจจุบันอยู่ที่ 30% จากสมัยก่อนอยู่ที่ 60-70% แต่ถ้าบริษัทมีความแข็งแรงมากพอที่จะรอจนโครงการเสร็จสมบูรณ์พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ได้ ยอดมาแน่นอน” คุณไตรเตชะ ย้ำถึงความมั่นใจ และทำให้ปีนี้ศุภาลัยจึงกลับมาบุกตลาดคอนโดมากขึ้น โดยเปิดโครงการถึง 8 โครงการ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 5 โครงการ และต่างจังหวัด 3 โครงการ จากเดิมจะเปิดตัวไม่เกินปีละ 5 โครงการ  

ขยับสู่ Multi-National Company

นอกจากการรุกตลาดคอนโดมากขึ้นแล้ว ดร.ประทีป บอกว่า ปีนี้ยังเป็นปีที่ศุภาลัยจะขยับตัวเองจาก “บริษัทระดับชาติ” (National Company) สู่ “บริษัทข้ามชาติ” (Multi-National Company) หลังจากเริ่มรุกตลาดต่างประเทศมาหลายปี ทั้งประเทศในอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย รวมถึงจีน และออสเตรเลีย จนปัจจุบันมีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอสังหาฯ ในออสเตรเลีย ปัจจุบันมีทั้งหมด 24 โครงการ และปีนี้มีแผนจะปิดอีก 2 โครงการ 

 

ในแง่ของรายได้จากต่างประเทศ ปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 10% และคาดปีนี้ยอดขายจากออสเตรเลียจะเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2024 เป็น 100% ทำให้ ดร.ประทีป และคุณไตรเตชะเชื่อว่าปีนี้จะเป็น “ขาขึ้น” หรือ “ยุครุ่งเรือง” ของศุภาลัย ที่มีการเปิดตัวโครงการมากที่สุด ทั้งยังสามารถขยับตัวเองสู่ Multi-National Company ด้วย

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like