ปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังต้องเจอกับโจทย์ท้าทาย จากปัจจัยต่างๆ ทั้งภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อ ปัญหาหนี้ครัวเรือน แต่เพื่อคงความเป็น “ผู้นำ” ในอุตสาหกรรมพัฒนาที่อยู่อาศัย ในปี 2568 ทุกกลุ่มธุรกิจในเครือเอพี ไทยแลนด์ ชูกลยุทธ์ “สร้างที่สุด…ให้ชีวิตดีที่สุด” ผ่าน 3 DNA ของ “เอพี” ด้วยการสร้างที่สุดในทุกๆ มิติ ผ่านสินค้าหลักอย่างบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม บ้านแฝด และคอนโดมิเนียม
ทั้งนี้ปี 2568 เอพี ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 55,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวม (100% JV) ที่ 52,900 ล้านบาท ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 42 โครงการ มูลค่า 65,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 15 โครงการ มูลค่า 26,500 ล้านบาท ทาวน์โฮมและบ้านแฝด จำนวน 18 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 20,200 ล้านบาท และโครงการในต่างจังหวัด 3 โครงการ มูลค่า 3,300 ล้านบาท
ชู 3 DNA “เอพี” เจาะตลาดที่อยู่อาศัยปี 68
หากดูเทรนด์ผู้บริโภคยุคนี้จะเปลี่ยนไปจาก 10 ปีก่อน ที่ Gen Y และ Gen X เป็นกลุ่มหลัก แต่ปัจจุบันเป็น Gen Y (ตอนปลาย) และ Gen Z กลุ่มนี้พฤติกรรมจะเปลี่ยนจาก Me too (ตามกระแส) เป็น Me หรือ Gen ME คือมีความเป็นตัวตัวเองสูงขึ้น ต้องการสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนทุกด้านรวมทั้งการเลือกที่อยู่อาศัย
คุณวิทการ จันทวิมล
คุณวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่าด้วยเทรนด์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เอพี พัฒนาที่อยู่อาศัย ตลอดจนเซอร์วิสต่างๆ ให้สอดรับกับวิถีชีวิตและความต้องการที่เปลี่ยนไป ภายใต้กลยุทธ์ “สร้างที่สุด…ให้ชีวิตดีที่สุด” ร่วมกับทุกกลุ่มธุรกิจในเครือ โดยมี 3 DNA สำคัญในการเปิดตัวที่อยู่อาศัยในปีนี้ ได้แก่
1. Diversity & Desires การเข้าใจความหลากหลายของ Gen ME ที่ต้องการเลือกที่อยู่อาศัยตามต้องการแต่ละคน จึงให้ความสำคัญในการพัฒนาแบบบ้านโมเดลใหม่ๆ ให้ตอบโจทย์ทุกกลุ่มรองรับกับไลฟ์สไตล์ที่เฉพาะเจาะจงของผู้อยู่อาศัย รวมถึงการเลือกทำเลศักยภาพ ซึ่งเป็นจุดแข็งของเอพี
2. Craft Space & Design การออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยแนวคิด Empathy Design นอกจากการสร้างพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยแล้ว ต้องสร้างประสบการณ์พิเศษและแตกต่าง ด้วยดีไซน์ที่งดงามเหนือกาลเวลา
3. Elevation & Intuitive Living การออกแบบประสบการณ์ที่ทำให้การอยู่อาศัยเป็นเรื่องง่าย สบาย และสมบูรณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยีและบริการต่างๆ ในเครือเอพี ไทยแลนด์ ที่ครอบคลุมทุกเรื่องการอยู่อาศัย
คุณเมธา รักธรรม
ย้ำเบอร์ 1 ตลาดทาวน์โฮมและบ้านแฝด
คุณเมธา รักธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าทาวน์โฮมและบ้านแฝด บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่าในปี 2567 กลุ่มธุรกิจทาวน์โฮมเอพีมียอดขายเพิ่มขึ้น 30% ครองอันดับ 1 ในตลาดทาวน์โฮมและบ้านแฝด ปี 2568 ตั้งเป้าเติบโตก้าวกระโดด ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่ 18 โครงการ มูลค่า 15,000 ล้านบาท ครอบคลุมครบทั้ง 6 Sub-Brand ตั้งแต่ราคา 1.49 – 25 ล้านบาท
กลยุทธ์ทำตลาดทาวน์โฮมและบ้านแฝด คือ 1. ครอบคลุมทุกโซนของกรุงเทพฯ มากที่สุด ทั้งจำนวน รูปแบบโครงการ และราคาหลากหลาย สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ปีนี้จะขยาย AP Community ไปยังทำเล “เมืองเอก วิภาวดี-รังสิต” ที่ดินกว่า 120 ไร่ เตรียมเปิดตัวทาวน์โฮมและบ้านแฝดใหม่ 3 โครงการ พร้อมเปิดขายโครงการแรก คือ Grande Pleno วิภาวดี-รังสิต บ้านแฝดไซส์ใหญ่ เริ่มต้น 5.49 ล้านบาท ในเดือนพฤษภาคมนี้
2. แบบบ้านมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ตอบทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในทุกเซกเมนต์ ปัจจุบันมีแบบบ้านกว่า 100 โมเดล ปีนี้พัฒนาแบบบ้านใหม่อีก 13 โมเดล ด้วยทาวน์โฮมและบ้านแฝดในคอนเซ็ปต์ใหม่ เช่น CoLive Model ทาวน์โฮมแรกที่ลูกค้าสามารถปล่อยเช่าแยกชั้นได้ ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม Solo Living ที่ชอบใช้ชีวิตคนเดียว Mirth Model ทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มาพร้อมกับ Duplex Space พื้นที่พิเศษที่เพิ่มมากขึ้น Xavier Model ทาวน์โฮม 3 ชั้นที่มากับคอนเซ็ปต์บ้านเล่นระดับ หรือ Asher Model บ้านแฝดหน้ากว้างสุด 16.4 เมตร เป็นต้น
3. ออกแบบส่วนกลางด้วยแนวคิดความยั่งยืน การให้ความสำคัญกับการใช้นวัตกรรมมาช่วยในการประหยัดพลังงาน เช่น 24Fitness ฟิตเนสที่พร้อมเปิด 24 ชั่วโมง เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันในแต่ละช่วงเวลา และมีการออกแบบระบบเปิด-ปิดไฟแยกตามโซนการใช้งานเพื่อประหยัดพลังงาน
คุณรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ
“บ้านเดี่ยว”เปิดตัวโมเดลใหม่ครบทุกเซกเมนต์
คุณรัชต์ชยุตม์ นันทโชติโสภณ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยว บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่าปีนี้มีแผนเปิดตัวบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ 15 โครงการ มูลค่า 26,500 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด The Greatest Home เพื่อสร้างที่สุดของที่อยู่อาศัยของทุกเจเนอเรชัน
นอกจากการทำตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคา 7-20 ล้านบาทแล้ว ปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่บ้านเดี่ยวเอพีมีการเปิดตัวแบบบ้านใหม่ครบทุกแบรนด์พร้อมกัน และครอบคลุมทุกเซกเมนต์
ประกอบด้วย Majestic Collection คอลเลกชันบ้านเดี่ยวระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี แบรนด์ The Palazzo และบ้านกลางกรุง ในเซกเมนต์ราคาประมาณ 50-100 ล้านบาทขึ้นไป
– The Palazzo กรุงเทพกรีฑา ราคา 75-120 ล้านบาท
– The Palazzo ปิ่นเกล้า-บรมฯ ราคา 50-85 ล้านบาท
– บ้านกลางกรุง สาธุประดิษฐ์ 57 The Rarest of Rarity บ้านแนวคิดใหม่สูง 4-5 ชั้น พร้อมชั้นดาดฟ้า
อีกไฮไลต์ในปีนี้กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยว มีแผนเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ภายใต้ชื่อ BEON (บีร์ออน) บ้านเดี่ยวสุดโมเดิร์นสูง 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 614- 814 ตารางเมตร ดีไซน์ใหม่ด้วยสเปซ Ultra Volume เชื่อมต่อพื้นที่ทุกชั้นภายในเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบครัวขนาดใหญ่ ทำเลแรกแถวนวลจันทร์ เปิดตัวช่วงครึ่งปีหลัง
คุณกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม
ไฮไลต์ 5 นวัตกรรม LIFE CONDO
คุณกมลทิพย์ บำรุงชาติอุดม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าคอนโดมิเนียม บมจ. เอพี ไทยแลนด์ กล่าวว่าปีนี้กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมมีแผนเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 20,200 ล้านบาท ไฮไลต์ปีนี้กับแบรนด์ LIFE CONDO ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ Version 2025: Success Like no Others – ให้ความสำเร็จได้ใช้ชีวิต ด้วย 5 นวัตกรรมพื้นที่ ได้แก่
1. Modular Flow Design แนวคิดออกแบบเพื่อสร้างพื้นที่ใช้สอยใหม่ ทั้งแนวตั้ง (Vertical) และแนวนอน (Horizontal) จนเกิดเป็นสเปซใหม่และทุกพื้นที่เชื่อมโยงถึงกัน ตลอดจนการให้ความสำคัญกับแสงและการไหลเวียนของอากาศ
2. Openness to Biodiversity เชื่อมต่อชีวิตเมืองเข้ากับธรรมชาติ ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อสุขภาพกายและใจ ให้รู้สึกและเข้าถึงความเป็นธรรมชาติได้ในทุกสัมผัส ด้วยแนวคิด Stand-alone facilities พื้นที่ส่วนกลางที่ทำให้ธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของฟังก์ชันการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น Botanical Gym ที่ทำให้การออกกำลังกาย แวดล้อมเหมือนอยู่ในสวน หรือ Biodiverse Co-Working Forest ที่ช่วยสร้างพื้นที่ทำงานในบรรยากาศของป่าในเมือง
3. New Feel-Safe Design แนวคิดในการออกแบบที่มุ่งสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ที่เป็นมิตรกับทุกชีวิตที่อยู่อาศัยภายในโครงการ ครอบคลุมไปถึงการออกแบบที่อยู่อาศัยร่วมกันระหว่างมนุษย์และสัตว์เลี้ยง ด้วยความใส่ใจในการออกแบบอาคารอยู่อาศัยที่มี function พิเศษให้ความอุ่นใจเกิดขึ้นทั้งกับเจ้าของสัตว์เลี้ยงและตัวสัตว์เลี้ยงเอง
4. A Building That Gives Back ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยไม่เพิ่มภาระหรือค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า เช่น การเลือกใช้พรรณไม้ช่วยฟอกอากาศ เพื่อร่วมสร้างอากาศที่ดีให้กับลูกค้า และคืนอากาศที่ดีกลับให้ชุมชนข้างเคียง การติดตั้งระบบ EV Charger การติดตั้งหลอดไฟที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว หรือการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ ในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน เป็นต้น
5. Choose the Persona of Your City คอนเซ็ปต์ในการพัฒนา LIFE CONDO ที่มอบทางเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง Micro-Village in Inner City Concept เป็น Low-Rise Rare Collection ถึงทำเลจะตั้งอยู่ในเมือง แต่ยังคงบรรยากาศที่สงบและส่วนตัว และ Metropolis-Within City Concept เป็น High-Rise Super Facilities โครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองอย่างแท้จริง ที่ไม่เพียงแต่สะดวกในการเข้าถึงชีวิตเมืองที่เต็มไปด้วยกิจกรรม แต่ยังมาพร้อมกับ Super Facilities ที่ครบและจัดเต็ม
เปิดตัวโครงการแรก LIFE สาทร-นราธิวาส 22 ในคอนเซ็ปต์ใหม่รูปแบบ Micro-Village in Inner City Concept สูง 8 ชั้น 2 อาคาร มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท จำนวน 416 ยูนิต ทำเลที่ตั้งอยู่ในซอยนราธิวาส 22 เปิดจองรอบ VVIP Day ในวันที่ 22 – 23 มีนาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้น 3.6 ล้านบาท
ติดตามพวกเราได้ที่ LINE