HomeBig Featuredเส้นทาง 9 ปี “Copper Beyond Buffet” สู่เป้าหมายใหม่ ทะยานรายได้ 1,000 ล้าน พร้อมสยายปีกต่างประเทศ – เปิดสาขา 3

เส้นทาง 9 ปี “Copper Beyond Buffet” สู่เป้าหมายใหม่ ทะยานรายได้ 1,000 ล้าน พร้อมสยายปีกต่างประเทศ – เปิดสาขา 3

แชร์ :

หากพูดถึงร้านบุพเฟ่ต์ของคนกรุงในยุคนี้ เชื่อว่าชื่อของ “Copper Beyond Buffet” คงเป็นหนึ่งในแบรนด์บุฟเฟ่ต์ขวัญใจคนกรุงหลายคน  ด้วยเอกลักษณ์ ความเป็น International Buffet เน้นคุณภาพ บริการ ทำให้แบรนด์สามารถครองใจ และสร้างฐานลูกค้าได้อย่างมั่นคงและเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ตลอด 9 ปี ของ Copper Beyond Buffet ที่เปิดให้บริการได้รับการตอบรับจากลูกค้า จนสามารถสร้างยอดขายไปแล้วกว่า 800 ล้านบาท มีลูกค้ามาใช้บริการมากถึง 480,000 คนในปีที่ผ่านมากับจำนวนสาขาเพียง 2 แห่ง (ปิ่นเกล้า,เกษรอัมรินทร์)  การเติบโตทั้งหมดทำให้เส้นทางของ Copper Beyond Buffet กำลังเข้าสู่บทใหม่ที่ท้าทายและน่าจับตามองมากยิ่งขึ้น

จากขาดทุนสะสมเดือนละล้านบาท สู่การพลิกกำไรใน 2 ปี

เส้นทางของ “Copper Beyond Buffet”  เริ่มต้นในปี 2557 เมื่อ “คุณสมศักดิ์ พินิจศักดิ์กุล” ผู้ก่อตั้ง The Sense คอมมูนิตี้มอลล์ย่านปิ่นเกล้า ในฐานะเจ้าของโครงการมีความต้องการสร้างจุดดึงดูดให้กับคอมมูนิตี้มอลล์ของตัวเองขึ้น จึงได้เริ่มฟอร์มทีมงานขึ้นในปี 2558  เพื่อพัฒนาร้านอาหาร จากความที่ครอบครัวชอบกินอาหารบุฟเฟต์โรงแรม และร้านอาหารญี่ปุ่น จนนำไปสู่การเปิดร้าน Copper Buffet ในเดือนมีนาคม 2559 ซึ่งแม้ว่าในช่วงปีแรก Copper จะเผชิญกับภาวะขาดทุนสะสมในทุกๆเดือน แต่ Copper ก็สามารถสร้างฐานลูกค้าได้กว่า 6,000-8,000 คนต่อเดือน

 

คุณพจนีย์ พินิจศักดิ์กุล

คุณพจนีย์ พินิจศักดิ์กุล

 

คุณพจนีย์ พินิจศักดิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร คอปเปอร์ บียอนด์ บุฟเฟต์ (Copper Beyond Buffet) กล่าวว่า “ในปีแรกของการเปิดร้านขาดทุนสะสมทุกเดือน หนักสุด คือ เดือนละล้าน คุณพ่อ ไม่ได้มองว่าเป็นปัญหา เพราะเป้าหมายของเราคือการดึงคนเข้ามาใช้บริการในคอมมูนิตี้มอลล์ของเรา ซึ่งตัวเลข 6,000-8,000 คน ณ ขณะนั้นถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจมากแล้ว”

แม้จะเผชิญภาวะขาดทุนสะสมในช่วงแรก แต่หลังจากใช้เวลาร่วม 2 ปี ค่อยๆสร้างชื่อ สั่งสมประสบการณ์ และคอนเนกชันจนฐานลูกค้า จนมี Economies of Scale สามารถบริหารต้นทุนวัตถุดิบได้ดีขึ้น และมีพาร์ตเนอร์ที่เข้ามาสนับสนุน และด้วยกลยุทธ์การพัฒนาเมนูและบริการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Copper เติบโตแบบก้าวกระโดด ทำให้ในปี 2561 ที่มียอดลูกค้าใช้บริการต่อเดือนราว 10,000-13,000 คน เพิ่มเป็น 15,000 คนในปี 2562 และเพิ่มเป็นมากกว่า 40,000 คนต่อเดือนในปีที่ผ่านมา

 

 

ความสำเร็จของสาขาแรกนำไปสู่การเปิดให้บริการ “Copper Beyond Buffet”  ที่ Gaysorn Amarin เป็นสาขาที่ 2 ในปีที่ผ่านมาและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีสัดส่วนถึง 40% ขณะที่สาขาปิ่นเกล้า ยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มครอบครัวคนไทยกว่า 70% 

กระแสตอบรับทั้งหมดทำให้ในปี 2567 ที่ผ่านมา Copper Beyond Buffet ทั้ง 2 สาขา (The Sense ปิ่นเกล้า และศูนย์การค้า Gaysorn Amarin) มีรายได้รวมราว 800 ล้านบาท อัตราการจอง (Occupancy Rate) อยู่ที่ 70% และมีสัดส่วนลูกค้าไทยอยู่ที่ 65% และลูกค้าชาวต่างชาติ 35%

 

“ตอนแรกมองเป็นธุรกิจครอบครัวไม่คิดการขยายสาขา แต่จากศักยภาพ แบรนด์ดิ้งที่มีมองเห็นโอกาส เลยขยายเข้าไป  ซึ่งที่ผ่านมาเราโชคดีที่ห้างฯ แทบจะทุกที่ในกรุงเทพติดติดเรามาตลอด เราไปดูทำเลต่างๆกว่า 20 ที่ แต่เห็นศักยภาพของเกษร อัมรินทร์ และกลุ่มเป้าหมายตรงกัน เลยขยายไปที่นั่น” คุณพจนีย์ กล่าวถึงการขยายสาขาแห่งที่ 2 ของแบรนด์  

 

กางแผนปี 68 ขอโฟกัสสาขาเดิม เพิ่มเติมคือทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท

ส่วนแผนงานในปี 2568 นี้ “คุณพจนีย์” บอกว่า จะยังไม่มีการขยายสาขาเพิ่มเติมแต่อย่างใด หากแต่จะเป็นการโฟกัสเป้าใหญ่ของแบรนด์ นั่นคือการทำรายได้ให้ทะลุ 1,000 ล้านบาท และเพิ่มจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเป็น 500,000 คนในสิ้นปี  พร้อมวางแผนสู่การเป็น “บุฟเฟ่ต์เดสติเนชั่นอันดับหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Best International Buffet in Southeast Asia ให้ได้

ส่วนกลยุทธ์หลักที่จะนำมาใช้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ นั่นคือการใช้กลยุทธ์ Collaboration ร่วมกับพาร์ทเนอร์ในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างการเติบโตในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการอย่าง “สก็อตรังนก” ผู้นำด้านตลาดรังนกแท้จากธรรมชาติ และ “ชาตรามือ” ผู้นำตลาดของชาไทยและเครื่องดื่ม พร้อมเชิญสองเชฟมิชลินชื่อดัง อย่าง เชฟไฮเคิล โจฮาริ เชฟมิชลิน 1 ดาว จากร้าน AVANT และ เชฟแท็ป ศุภสิทธิ์ ก๊กผล เชฟมิชลิน 1 ดาว จากร้าน CODA Bangkok มาร่วมรังสรรค์เมนูสุดพิเศษมากกว่า 20 เมนู ควบคู่กับการนำเมนูจากทั้ง 2 แบรนด์มารังสรรค์เมนูพิเศษในร้านอีกด้วย

พร้อมเปิดตัว 4 พาร์ตเนอร์ ได้แก่ S-Pure แบรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารเกรดพรีเมียม , Foodiva บริษัทผู้นำเข้าเนื้อเกรดพรีเมียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ,Qfresh ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเล  ภายใต้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ Hungry Hub แพลตฟอร์มจองร้านอาหาร ที่ใหญ่และมีเครือข่ายมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ในการขยายฐานลูกค้าและรองรับการจองของลูกค้า 4,000-5,000 รายการ ภายใน 30 นาที โดยที่ระบบไม่ล่ม และไม่เกิดความผิดพลาด สามารถรองรับการจ่ายเงินได้หลายช่องทาง นอกจากนี้ยังเตรียมต่อยอด Copper ไปยังธุรกิจ F&B  อย่างจริงจังอนาคต ซึ่งจะมีการแตกไลน์ไปทำอย่างอื่นตั้งแต่ ขนม Merchandise และ  Catering  เป็นต้น

 

 

ศึกษาทำเลทอง กรุงเทพตะวันออก เปิดสาขา 3 พร้อมพิจารณาตลาดต่างประเทศเปิดสาขาใหม่

อย่างไรก็ดีแม้จะยังไม่มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมในปีนี้ แต่ “คุณพจนีย์”  บอกว่า ในไทยเรายังคงพิจารณาการขยายสาขาที่ 3 อยู่ เบื้องต้นขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาตลาดและกลุ่มเป้าหมาย เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะเป็นการขยายเข้าไปยังำเลกรุงเทพตะวันออก บนพื้นที่ราว 1,200 ตร.ม. ในอนาคต

“การขยายสาขาเพิ่มเติม ณ ตอนนี้ ยังรอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม เพราะด้วยโมเดลร้าน และคอนเซ็ปต์ของ Copper Beyond Buffet ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย โจทย์สำคัญคือ หากการขยายสาขาแล้วทำให้เราต้องลดคุณภาพ เรายอมมีสองสาขาดีกว่า เพราะแบรนด์ของเราขับเคลื่อนด้วยคุณภาพของโปรดักต์ที่ต้องดีและมีคุณภาพ”

นอกจากนี้ Copper ยังมองหาโอกาสขยายสาขา ต่างประเทศ แต่ต้องศึกษาเรื่องวัตถุดิบและคุณภาพอาหารก่อนการตัดสินใจ เนื่องจากโจทย์สำคัญที่ต้องแก้ให้ได้นั่นคือเรื่องของวัตถุดิบที่ไม่ว่าไปที่ไหน จะต้องคงมาตรฐานเดียวกันและรสชาติเหมือนกัน ขณะเดียวกันเรื่องของทำเลและกลุ่มเป้าหมายก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน

 

คุณพจนีย์ พินิจศักดิ์กุล

คุณพจนีย์ พินิจศักดิ์กุล

 

“เราเคยไปศึกษาตลาดที่สิงคโปร์เมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่ด้วยพฤติกรรมลูกค้า บวกกับปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ทำให้มองว่ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมที่จะไปขยาย แต่อย่างไรก็ดีในอนาคตเรามีแผนงานในการขยายไปต่างประเทศ แต่จำเป็นต้องศึกษาให้ดีก่อน เพราะเรื่องของวัตถุดิบ และเมนูที่มีอยู่กว่า 100 เมนู ทำให้ต้องมองหาคุณภาพและรสชาติที่ต้องการ”

 

“เตี๋ยว คอปเปอร์” แบรนด์น้องใหม่ที่กำลังจะร่วมพอร์ต

ไม่เพียงแต่ “Copper Beyond Buffet” เท่านั้น แต่ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา “คุณสมศักดิ์ พินิจศักดิ์กุล” ผู้เป็นพ่อยังได้แอบซุ่มเงียบ ทำแบรนด์ “เตี๋ยว คอปเปอร์” ซึ่งเป็นการนำเมนูก๋วยเตี๊ยวที่เป็นซิกเนเจอร์หลักของร้านเปิดแยกออกมา (ในนามธุรกิจส่วนตัว) โดยได้เปิดให้บริการ 1 สาขา บริเวณชั้น G โครงการ The Sense  ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ทางบริษัทมีแผนในการนำแบรนด์ “เตี๋ยว คอปเปอร์” เข้ามาอยู่ภายในบริษัทด้วยเพื่อเป็นการปูทางไปสู่การเติบโตในอนาคต

“ตอนนี้เตี๋ยว คอปเปอร์ เรายังมีเพียง 1 สาขาและยังไม่สามารถทำกำไรได้มากนัก โดยในช่วงที่ผ่านมาได้มีการปรับภาพลักษณ์ เมนูใหม่ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมาย และหากเมื่อไรที่เรามีรายได้ระดับ 2 ล้านบาทต่อสาขาต่อเดือน เราจะขยายสาขาออกไปเพิ่มเติมทันที แต่ตอนนี้ยังเป็นช่วงของการจัดการระบบภายในและให้สามารถทำกำไรให้ได้ก่อน”

ท้ายที่สุด “คุณพจนีย์” บอกว่า ปัจจุบันเรานิยามตัวเองว่าเป็นธุรกิจขนาดกลาง ที่เติบโตแบบธุรกิจขนาดกลางที่เติมโตแบบธุรกิจครอบครัว ค่อยๆ ขยายฐานลูกค้า เพื่อพิชิตเป้าหมาย 1,000 ล้าน พร้อมเดินหน้าสู่การเป็น Best International Buffet in Southeast Asia แม้จะเป็นเส้นทางที่ท้าทาย แต่เราเชื่อว่าด้วยศักยภาพของแบรนด์ที่เราสั่งสมมาตลอด 9 ปี ความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมงานที่มีความแข็งแกร่ง เราจะสามารถพิชิตเป้าหมายนี้ได้แน่นอน


แชร์ :