Homeไม่มีหมวดหมู่“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” เปิด 3 กลยุทธ์ “โปรดักต์-แบรนด์-ฟังก์ชันใหม่” บุกคอนโดหรูทำเลหลังสวน  

“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” เปิด 3 กลยุทธ์ “โปรดักต์-แบรนด์-ฟังก์ชันใหม่” บุกคอนโดหรูทำเลหลังสวน  

แชร์ :

ปี 2568 ตลาดอสังหาริมทรัพย์เห็นสัญญาณบวกจากการลดดอกเบี้ย รวมทั้งการขยายการลงทุนของอุตสาหกรรมต่างๆ ใประเทศไทย ที่จะทำให้เกิดการจ้างงาน และกำลังซื้อเติบโต

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

“เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” ผู้นำตลาดโครงการแนวราบลักชัวรี่และทาวน์โฮมพรีเมียม ประกาศแผนรุกธุรกิจที่อยู่อาศัยปี 2568 เตรียมเปิดตัว 6 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 9,803 ล้านบาท ครอบคลุมทำเลกรุงเทพฯ นครราชสีมา และขอนแก่น  วางเป้าหมายรายได้ 11,200 ล้านบาท เติบโต 18% 

คุณสมบูรณ์ วศินชัชวาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT กล่าวว่าแผนรุกธุรกิจที่อยู่อาศัยปี 2568  ภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก “โปรดักต์-แบรนด์-ฟังก์ชันใหม่” เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเจเนอเรชันใหม่มากขึ้นดังนี้

1. โปรดักต์

– แนวราบ 5 โครงการ มูลค่ารวม 9,353 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับลักชัวรี่ ไปจนถึงระดับบน อย่าง The Grand ราคา 25-50 ล้านบาท, Grandio ราคา 10-25 ล้านบาท

– คอนโดมิเนียม 1 โครงการ แบรนด์ KLOS รามอินทรา – แฟชั่น ต่อยอดความสำเร็จของคอนโดแบรนด์ KLOS รัชดา

– ปีนี้วางเป้าหมายรายได้ 11,200 ล้านบาท รวมจำนวนยอดขาย 2,267 ยูนิต แบ่งเป็น บ้านเดี่ยว 46% ทาวน์โฮม 27% บ้านแฝด 12%  แนวราบต่างจังหวัด 13%  และคอนโด 2%

2. แบรนด์ใหม่

– ที่เปิดตัวไปแล้วคือ Gramour บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้ากลุ่ม Mid – high ราคา 10-15 ล้านบาท

– แบรนด์ Gravite บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ราคา 8-10 ล้านบาท เจาะกลุ่ม Upper Class

– ทาวน์โฮมพรีเมียมแบรนด์ใหม่ Goldina ราคา 5-8 ล้านบาท เจาะกลุ่ม Upper Class ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมต่อเนื่อง

–  การเปิดตัวแบรนด์ใหม่ในกลุ่ม Upper Class มาจากกระแสตอบรับที่ดีของตลาดแนวราบในกลุ่มนี้ที่เปิดตัวทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด

3. ดีไซน์ฟังก์ชันใหม่ 

–  การออกแบบที่สอดคล้องกับแนวทาง ESG เน้นการเติบโตของธุรกิจไปพร้อมกับการขับเคลื่อน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายให้ลูกบ้าน จากการดีไซน์ฟังก์ชันในบ้านที่คำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้า อาทิ การออกแบบช่องแสง ลม และพื้นที่เพดานที่สูงกว่ามาตรฐานในบ้านซีรีส์ใหม่ เพื่อการถ่ายเทอากาศที่สะดวกยิ่งขึ้น ลดอุณหภูมิภายในบ้านในช่วงกลางวัน

– ระบบกรองอากาศ Clean and Cool Air ที่ช่วยกรองเชื้อรา สารระเหย และฝุ่นได้ถึงระดับ PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี

– การออกแบบพื้นที่สวนสาธารณภายในโครงการสอดรับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่ อาทิ Pet Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงที่เปรียบเหมือนสมาชิกในครอบครัว

นอกจากนี้ได้วางแนวคิด Customer Centric ในการนำเสนอบริการหลังการขายที่เข้าถึงและเข้าใจลูกบ้านนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผ่านแอปพลิเคชัน FTX ที่ช่วยลูกบ้านในการเข้าถึงกิจกรรม สิทธิพิเศษ แจ้งงานซ่อม และติดตามสถานะงานซ่อมได้สะดวกและรวดเร็ว

ปัจจุบันพอร์ตโฟลิโอโปรดักต์และรายได้ของ “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” มาจากกลุ่มแนวราบเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนคอนโด 2% เท่านั้น แต่หลังจากพัฒนาคอนโด ลักชัวรี ทำเลหลังสวน (ที่ดินโครงการเมย์แฟร์ แมริออท)  มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท  ราคาเฉลี่ย 500,000 บาทต่อตารางเมตร เปิดตัวในปี 2569  จะทำให้สัดส่วนรายได้กลุ่มคอนโดเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปี 2570  และเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 25%  ในปี 2571-2572

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like