ตลาดเบเกอรี่และขนมหวานยังคงแข่งขันดุเดือด ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและแรงกดดันด้านต้นทุน ล่าสุด “กาโตว์ เฮ้าส์” (Gateaux House) แบรนด์เบเกอรี่ไทยที่มีประวัติยาวนานกว่า 35 ปี ได้ปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญ โดยทยอยปิดสาขาขนาดใหญ่ที่มีที่นั่ง และเปลี่ยนมาใช้โมเดลคีออสหรือบูธขนาดเล็กแทน เพื่อรองรับการเติบโตของบริการแบบ Take Away และ Delivery
หนึ่งในความเคลื่อนไหวที่เห็นได้ชัด คือการปิดตัวของสาขาใหญ่ เช่น สาขา เมเจอร์ รัชโยธิน ที่เคยเป็นร้านเบเกอรี่เต็มรูปแบบ พร้อมที่นั่งให้ลูกค้า สู่การเปิดบูธไซซ์เล็กในทำเลใกล้เคียง นอกจากนี้เรายังได้เห็นบูธไซซ์เดียวกันในบริเวณทำเลยุทธศาสตร์ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟฟ้า และพื้นที่ที่มีการสัญจรหนาแน่น
โมเดลใหม่นี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่และค่าดำเนินการ แต่ยังทำให้แบรนด์สามารถขยายสาขาได้รวดเร็วและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ง่ายขึ้น
ส่วนผลประกอบการ บริษัท กาโตว์ เฮ้าส์ จำกัด ย้อนหลัง 3 ปี พบว่า
- ปี 2564 มีรายได้ 129,506,131 ล้านบาท กำไร ติดลบ 4,018,471 ล้านบาท
- ปี 2565 มีรายได้ 190,254,721 ล้านบาท กำไร 7,870,984 ล้านบาท
- ปี 2566 มีรายได้ 233,008,956 ล้านบาท กำไร 15,393,156 ล้านบาท
ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่า การมุ่งเน้นการขายแบบ Take Away และ Delivery ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อกลับบ้านหรือสั่งผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งเปนการปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในการแข่งขัน
การเปลี่ยนสาขาร้านใหญ่เป็นคีออส ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสถานที่ แต่ยังเปิดโอกาสให้แบรนด์สามารถกระจายตัวในพื้นที่ใหม่ ๆ ได้รวดเร็วขึ้น เช่น พื้นที่ย่านชุมชน อาคารสำนักงาน ตลอดจนพื้นที่บนทำเลรถไฟฟ้า (ซึ่งมีจำกัด) อีกทั้งยังช่วยให้แบรนด์สามารถนำทรัพยากรไปลงทุนในช่องทางอื่น ๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการตลาดออนไลน์
แม้การปรับตัวครั้งนี้จะช่วยให้ Gateaux House สามารถลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ แต่การแข่งขันในตลาดเบเกอรี่ยังคงเข้มข้น ด้วยผู้เล่นรายใหญ่และแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาด
การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งนี้จึงนับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่น่าจับตา ว่า Gateaux House จะสามารถรักษาความนิยมและครองใจผู้บริโภคได้ต่อไปหรือไม่ ในยุคที่ทุกอย่างหมุนเร็ว และความสะดวกสบายคือปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อของผู้บริโภค