การซื้อกิจการ Versace แบรนด์ลักชัวรี่ยักษ์ใหญ่ที่อยู่ภายใต้ Capri Holdings ของค่าย Prada ใกล้จะได้ข้อสรุปแล้ว โดยคาดว่ามูลค่าในการซื้อกิจการจะสูงถึง 1,500 ล้านยูโร หรือประมาณ 53,775 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งข่าวการซื้อกิจการดังกล่าวยังทำให้หุ้นของ Prada ที่ฮ่องกงพุ่งขึ้น 4.1% เมื่อตอนเปิดตลาดในวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วย
ข่าวการซื้อกิจการดังกล่าวมีขึ้นในช่วงวันอาทิตย์ สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่ามีความพยายามในการซื้อกิจการของ Versace โดย Prada ซึ่งหากสำเร็จ จะทำให้ Versace กลับมามีเจ้าของเป็นบริษัทสัญชาติอิตาลีอีกครั้ง ส่วน Capri Holdings เจ้าของแบรนด์ Versace ในปัจจุบัน (เดิมคือ Michael Kors Holdings Limited) พบว่าเป็น Holding ยักษ์ใหญ่ที่มีแบรนด์ลักชัวรี่อยู่ในมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Jimmy Choo, Michael Kors โดย Capri Holdings เข้าซื้อกิจการ Versace เมื่อปี 2018 ที่ราคา 1,800 ล้านยูโร
เทรนด์ Quiet luxury ทำรายได้ Versace ลด
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของ Versace ในช่วงที่ผ่านมาไม่ดีนัก โดยในไตรมาสล่าสุด (สิ้นสุด 28 ธันวาคม 2024) บริษัทมีรายได้ 193 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และมียอดขายในสหรัฐอเมริกาลดลง 21% ขณะที่ในเอเชียลดลง 11%
ซึ่ง John Idol ซีอีโอของ Capri Holdings ระบุว่า ยอดขายที่ลดลงของ Versace ส่วนหนึ่งมาจากเทรนด์ Quiet luxury ซึ่งทำให้ผู้คนลดการซื้อสินค้าลักชัวรี่ลง (ในช่วงนั้น Versace ได้พยายามปรับโพสิชันของตนเอง โดยไปสร้างผลงานที่เน้นความหรูหราและความปราณีตมากขึ้น เนื่องจากมองว่าจะช่วยให้แบรนด์ไปต่อกับเทรนด์ Quiet luxury ได้ดีกว่า)
ขณะเดียวกัน Versace ก็มีการลดจำนวนผลิตภัณฑ์ในราคาระดับเริ่มต้นลงเป็นจำนวนมาก แต่ผลลัพธ์ก็คือ เป็นการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่อยอดขายของทางแบรนด์ในที่สุด และ John Idol ก็ยอมรับในสิ่งนั้นในการแถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทด้วย
เพื่อแก้ไขปัญหา Idol กล่าวว่าในปีงบประมาณหน้า Versace จะพยายามสร้างความสมดุลของสินค้าให้มากขึ้น และจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ธุรกิจลักชัวรี่ขาลง?
ไม่เฉพาะ Versace ที่เผชิญปัญหายอดขายลดลง แต่ Kering เจ้าของแบรนด์ Gucci, YSL และ Balenciaga ก็พบว่าราคาหุ้นของตนลดลงมากกว่า 40% ในปี 2024 เช่นเดียวกับ ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าลักชัวรี่อย่าง LVMH ก็พบว่ายอดขายลดลง 3% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดลงในจีน
ทั้งนี้ หากการเข้าซื้อกิจการแบรนด์ Versace สำเร็จ คาดว่าจะทำให้ Prada กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของวงการที่สามารถต่อกรกับกลุ่มสินค้าหรูหราระดับโลก เช่น LVMH และ Kering SA ได้ดีขึ้น ซึ่งสำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Prada ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลทางการเงินและยอดขายของ Versace ด้วย
Photo Credit : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand
เป็นเพื่อนกับเราได้ที่ LINE