HomeInsightสื่อโฆษณาดิจิทัลปี 2568 มูลค่า 34,556 ล้านบาท เติบโต 10% จับตา TikTok เบียด YouTube ครองอันดับ 2

สื่อโฆษณาดิจิทัลปี 2568 มูลค่า 34,556 ล้านบาท เติบโต 10% จับตา TikTok เบียด YouTube ครองอันดับ 2

แชร์ :

สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT ร่วมกับ คันทาร์ (ประเทศไทย) บริษัทวิจัยการตลาดและที่ปรึกษากลยุทธ์ด้านแบรนด์ชั้นนำของโลก สรุปผลสำรวจรายงานมูลค่าโฆษณาผ่านสื่อดิจิทัลของประเทศไทยประจำปี 2567 และคาดการณ์ปี 2568 ดังนี้

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

สรุปปี2564

– งบโฆษณาสื่อดิจิทัล ปี 2567 มีมูลค่า 31,544 ล้านบาท เติบโต 8% ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำจากเดิมคาดการณ์เติบโต 16% จากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและการจำกัดงบการโฆษณาของกลุ่มแบรนด์ต่าง ๆ ในช่วงครึ่งปีหลังของ 2567 มีผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น

– ท็อป 5 กลุ่มอุตสาหกรรมใช้งบโฆษณาสื่อดิจิทัล ปี 2567 สูงสุด

1. สกินแคร์ มูลค่า 5,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46%

2. ยานยนต์ มูลค่า 3,016 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1%

3. เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มูลค่า 2,513 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%

4. โทรคมนาคม มูลค่า 2,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%

5. ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม มูลค่า 2,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%

– ประเภทสื่อดิจิทัลครองเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดปี 2567

1. Meta (Facebook & Instagram) มูลค่า 8,731 ล้านบาท (สัดส่วน 28%)

2. YouTube มูลค่า 4,346 ล้านบาท (สัดส่วน 14%)

3. TikTok มูลค่า 4,167 ล้านบาท (สัดส่วน 13%)

4. Social มูลค่า 2,942 ล้านบาท (สัดส่วน 9%)

5. Creative มูลค่า 2,287 ล้านบาท (สัดส่วน 7%)

คาดการณ์ปี2568

DAAT คาดการณ์เม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัล ปี 2568 มีมูลค่า 34,556 ล้านบาท เติบโต 10% เป็นการกลับมาเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักอีกครั้ง

– ท็อป 5 กลุ่มอุตสาหกรรมคาดใช้งบโฆษณาสื่อดิจิทัล ปี 2568 สูงสุด

1. สกินแคร์ มูลค่า 6,128 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21%

2. ยานยนต์ มูลค่า 2,981 ล้านบาท ลงลง 1%

3. เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ มูลค่า 2,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%

4. ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม มูลค่า 2,525 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25%

5. โทรคมนาคม มูลค่า 2,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3%

ดร.อาภาภัทร บุญรอด กรรมการผู้จัดการฝ่ายลูกค้าและประธานฝ่ายการเจริญเติบโตแห่งเอเชียอาคเนย์ คันทาร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปี 2567 สกินแคร์ใช้งบโฆษณาดิจิทัลเพิ่มขึ้น 46% ปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตอีก 21% มาจากไลฟ์สไตล์การทำงานและการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมมากขึ้น รวมถึงเทรนด์ของเรื่องสุขภาพและความงามที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญและใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามมากขึ้น

ขณะที่กลุ่มยานยนต์ ปี 2568 มีแนวโน้มใช้งบโฆษณาดิจิทัลลดลง มาจากการแข่งขันในตลาด EV ที่เน้นใช้กลยุทธ์ราคาเป็นหลัก


– ประเภทสื่อดิจิทัล คาดการณ์ครองเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดปี 2568

1. Meta (Facebook & Instagram) มูลค่า 9,088 ล้านบาท (สัดส่วน 26%)

2. TikTok มูลค่า 5,500 ล้านบาท (สัดส่วน 16%)

3. YouTube มูลค่า 5,155 ล้านบาท (สัดส่วน 15%)

4. Creative มูลค่า 2,714 ล้านบาท (สัดส่วน 8%)

5. Online Video มูลค่า 2,463 ล้านบาท (สัดส่วน 7%)

ทิศทางการใช้งบโฆษณดิจิทัลตามประเภทสื่อ พบว่า Meta ยังคงเป็นแพลตฟอร์มหลักที่นักการตลาดเลือกใช้ แม้ว่าส่วนแบ่งการตลาดจะลดลงเล็กน้อยจาก 28% ในปี 2567 เป็น 26% ในปี 2568

TikTok โตแรง

– ปี 2566 มูลค่าอยู่ที่ 2,130 ล้านบาท (เติบโต 103%) สัดส่วน 7% ของเม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัล

– ปี 2567 มูลค่าอยู่ที่ 4,167 ล้านบาท (เติบโต 96%) สัดส่วน 13%

– ปี 2568 คาดมูลค่า 5,510 ล้านบาท (เติบโต 32%) สัดส่วน 16%

การเติบโตอย่างรวดเร็วของ TikTok ทำให้คาดการณ์ว่าในปี 2568 จะขึ้นแท่นเป็นแพลตฟอร์มที่มีเม็ดเงินโฆษณาสูงสุดเป็นอันดับ 2 แซง YouTube ที่อยู่ในตำแหน่งนี้มาตั้งแต่มีการสำรวจเม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลในปี 2555

ปัจจัยเม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลของ TikTok เติบโตมาจากพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคไทย “ทุกวัย” ชื่นชอบวิดีโอสั้น คอนเทนต์สนุกสนาน TikTok มีคอนเทนต์หลากหลายทั้งบันเทิงและความรู้ มีครีเอเตอร์จำนวนมาก ทำให้เข้าถึงผู้ชมทุกวัย ไม่ใช่เฉพาะ Gen Z เท่านั้น

นอกจากนี้ TikTok Shop ที่ใช้งานสะดวกในการซื้อสินค้า ทำให้แบรนด์ต่างๆ ใช้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัล ทั้งการสื่อสารแบรนด์ การทำอีคอมเมิร์ซกับ TikTok เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสกินแคร์ ใช้งบโฆษณาดิจิทัลช่องทาง TikTok สูงสุด มูลค่า 1,799 ล้านบาทในปี 2567

รวมทั้งการเข้ามาทำตลาดอีคอมเมิร์ซและสินค้าจากจีน ที่มีจำนวนมากในขณะนี้ ใช้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นช่องทางหลักในการทำตลาด

ทั้งนี้เครื่องมือสื่อดิจิทัลที่นักโฆษณาและนักการตลาดให้ความสนใจและจะใช้งานมากขึ้นในปี 2568 คือ AI 75% Real-time Media 69% E-commerce Marketing 63% Social Listening 56% Data Analytic Platform 56%

ติดตามพวกเราได้ที่ LINE


แชร์ :

You may also like